มามาดู ซาโก้ ปราการหลังลูกหม้อของปารีส แซงต์ แยร์กแมง ที่ เบรนดัน ร็อดเจอร์ส ไปคว้าตัวมาอยู่กับ "หงส์แดง"
ลิเวอร์พูลในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
ซาโก้นั้นมีเชื้อสายเซเนกัล แต่เกิดที่ปารีส โดยเจ้าตัวนั้นเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับ ปารีส เอฟซี ในปี 1996 ก่อนจะถูก
ปารีส แซงต์ แยร์กแมง เห็นแววและดึงตัวมาอยู่กับทีมเยาวชนเมื่ออายุ 12 ปี
ซาโก้นั้นผ่านการเล่นให้กับเปแอสเชมาแล้วทุกระดับ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้รับการจับตามองในฐานะแข้งดาวรุ่งที่มีพัฒนาการ
ที่โดดเด่นมาก และในที่สุด ปอล เลอ กูเอน บอสใหญ่ของเปแอสเชในเวลานั้นก็จัดแจงให้โอกาสกับ ซาโก้ ในทีมชุดใหญ่ด้วยวัยเพียงแค่ 17 ปีเท่านั้น โดย เลอ กูเอน ส่งซาโก้ลงสนามในเกมลีกเอิงที่พบกับ วาล็องเซียน แค่นั้นยังไม่พอ
เลอ กูเอน ยังมอบปลอกแขนกัปตันทีมให้กับเจ้าหนูดาวรุ่งรายนี้ด้วย ทำให้ซาโก้ทำสถิติเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่เป็นกัปตันทีมประวัติศาสตร์ลีกเอิงเลยทีเดียว
ในฤดูกาล 2007-08 นั้น ซาโก้ได้ลงสนามทั้งหมด 11 นัด คว้าแชมป์ คูป เดอ ลา ลีก (ลีก คัพ) ได้ด้วย และหลังจากที่ทะลุขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ในปีนั้นแล้ว ซาโก้ ก็ยึดหัวหาดเป็นตัวเลือกแรกในทีมเปแอสเชตลอดมาเลย
ซาโก้มาคว้าแชมป์ คูป เดอ ฟร้องซ์ กับเปแอสเชอีกครั้งในอีก 2 ฤดูกาลต่อมา โดยในปีนี้เจ้าตัวถูกโลร็องต์ บล็องค์ บอสใหญ่ทีมชาติฝรั่งเศสเรียกตัวสู่ทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ในเกมอุ่นเครื่องกับนอร์เวย์ในเดือนสิงหาคม 2010
แต่ไม่ได้ถูกส่งลงสนาม ก่อนจะได้หมวกทีมชาติใบแรกจริงๆ ก็คือในเกมพบกับ อังกฤษ ในอีก 3 เดือนต่อมา โดยบล็องค์ส่งเขาลงไปแทนที่ ฟิลิปป์ แม็กแซส ในครึ่งเวลาหลัง
ฤดูกาล 2010-11 เจ้าตัวมีผลงานส่วนตัวที่ยอดเยี่ยมมาก จนได้รับการคัดเลือกให้เป็นนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของฝรั่งเศส รวมถึงติดอยู่ในทีมยอดเยี่ยมของลีก เอิง ด้วย
แม้จะก้าวขึ้นมาเล่นในเกมลีกสูงสุดของประเทศตั้งแต่ยังเป็นดาวรุ่ง แต่กว่าซาโก้จะมาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดให้กับตัวเองได้ ก็ต้องรอถึงฤดูกาล 2012-13 หรือในฤดูกาลที่ผ่านมานี่เอง โดยในฤดูกาลนี้เปแอสเชมีการเสริมทัพอย่างยกใหญ่ ทุ่มเงินมากมายเพื่อซื้อสตาร์มาร่วมทีมทำให้ผลงานของเปแอสเชนั้นกลายเป็นทีมแข็งแกร่งที่สุดในลีก และก็สามารถคว้าแชมป์ลีก เอิง มาครองได้สำเร็จครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1994 เลยทีเดียว
แต่ถึงแม้จะคว้าแชมป์ลีกมาครองได้ แต่ซาโก้กลับไม่ค่อยมีความสุขกับชีวิตในถิ่นปาร์ค เดอ แปร้งซ์ อีกต่อไปแล้ว เพราะเขาไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกโดยอัตโนมัติอีกต่อไป รวมถึงผู้จัดการทีมคนใหม่อย่าง โลร็องต์ บล็องค์ ที่เข้ามาในช่วงปิดฤดูกาลยังไปเซ็นสัญญาคว้าตัว มาร์ควินยอส กองหลังบราซิลมาจากโรม่า ทำให้เหมือนฟางเส้นสุดท้ายระหว่างซาโก้กับเปแอสเชได้ขาดลงทันที
อย่างไรก็ตาม ซาโก้ ยังมาคว้าแชมป์ปิดท้ายกับเปแอสเชได้ในรายการ โทรฟี่ เดส์ แชมปิยงส์ (เทียบเท่าคอมมูนิตี้ ชีลด์ของอังกฤษ) ก่อนจาก ซึ่งรายการนี้ทำให้ซาโก้ทำสถิติเป็นนักเตะที่คว้าแชมป์ทุกรายการในฝรั่งเศสครบทุกถ้วยเรียบร้อย แถมเป็นการทำได้ด้วยวัยเพียงแค่ 23 ปีเท่านั้นด้วย
ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังจากที่ ซาโก้ ประกาศว่าต้องการย้ายทีม ชื่อของเขาก็ไปพัวพันกับหลายทีมดังไม่ว่าจะเป็น เอซี มิลาน, โรม่า, สเปอร์ส และก็ลิเวอร์พูล ท่ามกลางการออกมาปฏิเสธของเปแอสเชที่หวังจะหว่านล้อมให้แข้งรายนี้อยู่กับทีมต่อไปอีก
อย่างไรก็ตามซาโก้ได้ตัดสินใจทุกอย่างไปแล้ว โดยเขายืนยันที่จะย้ายทีมเพื่อไปเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ และในวันที่ 2 กันยายน 2013 วันสุดท้ายของการซื้อขายนักเตะในช่วงซัมเมอร์ ลิเวอร์พูลก็ได้ประกาศว่าพวกเขาได้เซ็นสัญญากับซาโก้มาร่วมทีมเรียบร้อยด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ ซึ่งซาโก้เองก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่เขาเลือกย้ายมาที่แอนฟิลด์ว่า เขารู้สึกประทับใจกับแผนงานของสโมสรลิเวอร์พูลและมั่นใจว่าการตัดสินใจของเขาในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ใช่
สำหรับผลงานกับทีมชาติฝรั่งเศสนั้นก่อนย้ายมาลิเวอร์พูล ซาโก้ ติดทีมตราไก่มาแล้วทั้งหมด 14 นัดยังทำประตูไม่ได้ ทั้งนี้เจ้าตัวนอกจากเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟแล้ว ในอดีตก็ยังเคยถูกโยกไปเล่นเป็นแบ็คซ้ายจำเป็นบ่อยๆ ได้เช่นเดียวกัน
เกียรติประวัติ : แชมป์ลีก เอิง [เปแอสเช 2012-13], แชมป์คูป เดอ ฟร้องซ์ [เปแอสเช 2009-10], แชมป์ คูป เดอ ลา ลีก [เปแอสเช 2007-08], แชมป์โทรฟี่ เดส์ แชมปิยงส์ [เปแอสเช 2013]
รางวัลส่วนตัว : นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี ลีก เอิง [เปแอสเช 2010-11], ทีมยอดเยี่ยม ลีก เอิง [เปแอสเช 2010-11]
|