อาลี ซิสโซโก้ แบ็คซ้ายชาวฝรั่งเศส ที่ เบรนดัน ร็อดเจอร์ส เซ็นสัญญามาร่วมทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล แบบยืมตัวในเดือนสิงหาคม 2013 พร้อมกับออปชั่นซื้อขาดจากบาเลนเซีย

ซิสโซโก้นั้นเกิดที่บลัวส์ โดยมีพื้นเพครอบครัวมาจากเซเนกัลเช่นเดียวกับ มามาดู ซาโก้ทั้งนี้ในช่วงแรกนั้นซิสโซโก้ เรียนรู้การเตะฟุตบอลจากพี่ชายอีกสามคนได้แก่ มามาดู และ เดมบา ที่ในเวลานี้ก็ยังเล่นอยู่ในลีกสมัครเล่นกับ อาแอป บลัวส์ กับ บลัวส์ ฟุต 41 ตามลำดับ ขณะที่พี่ชายอีกรายได้แก่ อิสซา นั้นเล่นในระดับอาชีพอยู่กับ น็องต์ส ในลีก เดอซ์

โดยอายุ 8 ขวบก็ได้เริ่มเข้าฝึกฝนฟุตบอลกับบลัวส์ ฟุต 41 อย่างเป็นงานเป็นการ โดยเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้าย ซึ่งเป็นตำแหน่งที่โค้ชในสมัยนั้นเชื่อว่าเขาจะทำได้ดีที่สุด ต่อมาในปี 2003 ก็เปลี่ยนไปเข้าสังกัด แซงต์-ญอง-เดอ-ลา-รูแอล ซึ่งเป็นทีมที่อยู่ในระดับที่สูงกว่า

ในช่วงที่เล่นอยู่กับแซงต์-ญอง-เดอ-ลา-รูแอลนี่เอง ฝีเท้าของซิสโซโก้นั้นไปเข้าตาแมวมองของ เกอญง ทีมในลีก เดอซ์ (ดิวิชั่น 2 - เทียบเท่า เดอะ แชมเปี้ยนชิพของอังกฤษ) และ เกอญง ก็จัดการเซ็นสัญญาเขามาร่วมทีมอย่างจริงจังในที่สุด โดยเริ่มต้นเป็นเด็กในทีมเยาวชนซึ่งตอนนั้นซิสโซโก้มีอายุแค่ 16 ปีเท่านั้น

ซิสโซโก้ใช้เวลาอยู่ในทีมเยาวชน 2 ปีจากนั้นก็ขึ้นมาอยู่ในทีมสำรองอีก 2 ปี และในที่สุดเจ้าตัวก็มีโอกาสได้ลงสนามในระดับอาชีพเป็นนัดแรกเมื่อ 25 พฤษภาคม 2007 ในเกมลีกที่พบกับ เม็ตซ์ จากนั้นก็ได้รับสัญญายาว 3 ปีจากสโมสร

ซิสโซโก้เล่นให้เกอญง 2 ฤดูกาล โดยในฤดูกาล 2007-08 ซึ่งถือเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเจ้าตัวนั้น ต้นสังกัดของเขาตกชั้นไปเล่นยังนอกลีกด้วย

วิตอเรีย เซตูบาล สโมสรในโปรตุเกสเป็นสโมสรต่อมาที่คว้าตัวซิสโซโก้ไปร่วมทัพ โดยเซ็นสัญญา 3 ปี และซิสโซโก้ก็ได้ลงประเดิมสนามในเกมดาร์บี้แมทช์กับ วิตอเรีย กิมาเรส ในเดือนสิงหาคม 2008 เลย ฤดูกาลนั้นซิสโซโก้ได้ลงสนามไปทั้งหมด 15 นัดในลีก รวมถึงได้ลงเล่นในเกมยูฟ่า คัพ นัดที่พบกับ ฮีเรนวีน ซึ่งถือเป็นเกมยุโรปนัดแรกของเจ้าตัวด้วย

และด้วยฟอร์มการเล่นสไตล์บุกที่เข้าตาที่เซตูบาลนี่เองทำให้ ปอร์โต้ ยักษ์ใหญ่แห่งวงการลูกหนังแดนฝอยทองมาคว้าตัวเขาไปร่วมทีมในเดือนมกราคมปีต่อมาเลย นั่นหมายถึงซิสโซโก้เพิ่งจะเล่นให้กับเซตูบาลไปได้เพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น

กับปอร์โต้นั้นซิสโซโก้ยึดตำแหน่งแบ็คซ้ายตัวจริงได้สำเร็จ เขาได้มีโอกาสลงเล่นในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เผชิญหน้ากับ
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ของแมนฯ ยูไนเต็ด รวมถึงการคว้าดับเบิ้ล แชมป์ในแดนฝอยทองทั้ง แชมป์ลีก และ บอลถ้วยในฤดูกาลนั้น

ในวันที่ 14 มิถุนายน เอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลีประกาศว่าได้เซ็นสัญญาคว้าตัว ซิสโซโก้ ไปร่วมทีมเรียบร้อยแล้วด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ อย่างไรก็ตามในการตรวจร่างกายนั้นปรากฏว่าทางทีมแพทย์ของมิลานบอกว่าซิสโซโก้นั้นมีปัญหาเกี่ยวกับฟัน
ซึ่งทำให้การย้ายทีมครั้งนั้นกลายเป็นโมฆะไปท่ามกลางความประหลาดใจของทุกฝ่าย

อย่างไรก็ตามในอีกหนึ่งเดือนต่อมา โอลิมปิก ลียง ทีมดังในบ้านเกิดของซิสโซโก้เองก็ยื่นข้อเสนอ 15 ล้านปอนด์คว้าตัวเขามาจากปอร์โต้เป็นผลสำเร็จ โดยงานนี้ไม่มีปัญหาเรื่องการตรวจร่างกายเหมือนที่มิลานแล้ว แต่มีเงื่อนไขในการย้ายทีมว่าทางปอร์โต้จะต้องได้รับส่วนแบ่ง 20% หากลียงขายซิสโซโก้ให้ทีมอื่นในราคาที่สูงกว่าที่ซื้อมา

โดยก่อนหน้านี้ต้องถือว่าเจ้าตัวแม้จะเป็นชาวฝรั่งเศสแต่ก็ไม่ได้มีชื่อที่คุ้นหูนักข่าวที่นั่นเลย การย้ายมาครั้งนี้ทำให้ชื่อของ
ซิสโซโก้ถูกจับตามองมากขึ้น และเขาก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของลียงได้สำเร็จ

ซิสโซโก้ค้าแข้งอยู่กับลียงถึง 4 ฤดูกาลลงเล่นไปถึง 134 นัด ก่อนที่ในฤดูกาล 2011-12 เขาจะมีส่วนช่วยพาลียงคว้าแชมป์ คูป เดอ ฟร้องซ์ด้วย อย่างไรก็ตามลียงมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของแผนทำทีม ทำให้ซิสโซโก้กลายเป็นนักเตะที่อยู่ในข่ายจะโดนขายออกไปในซัมเมอร์นั้น

และก็เป็นบาเลนเซียแห่งลาลีกาที่เซ็นสัญญาคว้าตัว ซิสโซโก้ไปร่วมทีมเป็นสโมสรต่อมา ด้วยค่าตัว 5 ล้านปอนด์ โดยได้ลงประเดิมสนามเลยในเกมพบกับ บาร์เซโลน่า เมื่อ 15 กันยายน 2012 ก่อนที่ในวันที่ 25 กันยายน ซิสโซโก้จะมาฉลองวันเกิด
อายุครบ 25 ปีด้วยการทำประตูแรกให้ทีมค้างคาวได้ในลาลีกา ในเกมที่ชนะ เซลต้า บีโก้ ที่เมสตาย่า

อย่างไรก็ตามชีวิตในลาลีกาของซิสโซโก้นั้นไม่ง่ายเลย แม้จะได้ลงเล่นแต่เขาก็ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งเหมือนในอดีตออกมาได้ จนเมื่อมีข้อเสนอจาก ลิเวอร์พูลเข้ามาเพราะทีมดังแห่งถิ่นแอนฟิลด์ต้องการแบ็คซ้ายรายใหม่มาช่วยกดดัน โฆเซ่ เอ็นริเก้
ก็ทำให้เจ้าตัวและบาเลนเซียตอบตกลงรับข้อเสนอแบบไม่มีอิดออดเท่าไหร่

สำหรับเส้นทางในทีมชาตินั้น ซิสโซโก้ยังไม่เคยผ่านการเล่นให้ทีมชาติชุดเล็กของฝรั่งเศสมาก่อนเลย แต่จากฟอร์มในสมัยที่เล่นอยู่กับ ลียง ทำให้เขาได้ถูกเรียกติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ในปี 2010 ได้ลงเล่นเจอกับ นอร์เวย์ ซึ่งก็เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวของเจ้าตัวอยู่ในเวลานี้ โดยก่อนหน้านั้น สมาคมฟุตบอลเซเนกัล เคยพยายามจะดึงเขาไปเล่นให้ทีมชาติเซเนกัลมาแล้วด้วยแต่ไม่ประสบผล

เกียรติประวัติ : แชมป์ คูป เดอ ฟร้องซ์ [ลียง 2011-12], แชมป์ลีกโปรตุเกส [ปอร์โต้ 2008-09], แชมป์โปรตุกีส คัพ [ปอร์โต้ 2008-09]