����������� ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ดาวรุ่งชาวโปรตุเกสของ 'หงส์แดง' ลิเวอร์พูลตั้งหน้าตั้งตารอคอยโอกาสที่ะจะได้สัมผัสประสบการณ์ลงเล่นที่แอนฟิลด์อีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์นี้ที่จะเจอกับ บอร์นมัธ

����������� หงส์แดงจะเปิดบ้านรับมือบอร์นมัธเพื่อตามหาชัยชนะนัดแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ และคาร์วัลโญ่ที่เคยได้รับโอกาสในเกมอุ่นเครื่องที่นี่กับสตราสบูร์ก และเป็นตัวสำรองในเกมเสมอกับคริสตัล พาเลซ 1-1 ตื่นเต้นกับเกมนี้มาก

����������� “ตอนที่ผมก้าวลงเล่นที่แอนฟิลด์ครั้งแรก ผมไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อน” เจ้าของเสื้อเบอร์ 28 กล่าวกับ�เว็บไซต์ทางการสโมสรในระหว่างพรีวิวเกมกับเดอะ เชอร์รีส์

����������� “ผมไม่ได้พูดอย่างนี้เพียงเพราะว่าผมอยู่กับลิเวอร์พูลในตอนนี้ ผู้ชม, สเตเดียม, แฟน… แค่คิดถึงเรื่องนี้ มันน่าเหลือเชื่อมาก”

����������� “ไม่มีอะไรเหมือนกับแฟนบอลลิเวอร์พูล เพราะว่าพวกเขาคอยสนับสนุนคุณทั้งดี และแย่ เป็นนักเตะคนที่ 12 เป็นคนที่ 12 อย่างแท้จริง เพราะว่าพวกเขาคอยผลักดันให้เราเดินหน้าต่อไป”

����������� “เหมือนเกมกับพาเลซ ตอนที่เรามีนักเตะน้อยกว่า เราเหลือ 10 คน พวกเขาคอยผลักดันให้เราเดินหน้า และเราได้ผลเสมอ และถ้ามีเวลาในเกมมากกว่านั้น เราน่าจะชนะเกม”

����������� นักเตะทีมชาติโปรตุเกส ยู-21 ที่ย้ายตามครอบครัวของเขามาอยู่ในลอนดอนตั้งแต่เด็ก ปรับตัวได้เป็นอย่างดีกับลิเวอร์พูล โดยเฉพาะกับสปิริตที่ยยอดเยี่ยมที่เขาได้เห็นในทีมชุดนี้

����������� “แน่นอนว่าผมอยู่ที่นี่เป็นช่วงเวลานั้นๆ แต่แม้จากวันแรกคุณก็สามารถมองเห็นในเรื่องนี้” เขากล่าว

����������� “มันอาจจะฟังดูโบราณที่พูดว่าเราเหมือนกับครอบครัว ทุกคนพูดเรื่องนี้ แต่แท้จริงที่นี่เป็นอย่างนั้น ทุกคนใกล้ชิดกัน และวิธีที่ผมได้รับการอ้มชู และต้อนรับเข้ามาสู่ทีมนั้นไม่น่าแปลกใจ”

����������� “ผมแน่ใจว่าเราจะแสดงให้เห็นความสามัคคีที่เรามีทั้งใน และนอกสนาม และนั่นจะทำให้ผลการแข่งขันดีขึ้น”

����������� คาร์วัลโญ่ยังทิ้งท้ายถึงฮาร์ซีย์ เอลเลียตต์เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเด็กของเขาว่า “มันมหัศจรรย์มาก เราเติบโตขึ้นมาด้วยกัน เราไปโรงเรียนด้วยกัน อยู่ด้วยกันทุกคน ทั้งในโรงเรียน และการซ้อม เซสซั่นหลังจากนั้น”

����������� “จากตรงนั้นมาจนถึงตรงนี้มันเหมือนฝัน แต่เราอยู่ที่นี่เพื่อทำงาน ยิ่งเราอยู่กับสโมสรชั้นนำที่มีผู้เล่นชั้นนำ เราอยู่ที่นี่เพื่อช่วยให้ทีมชนะเกม และคว้าถ้วยรางวัล นั่นเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด”