เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล เปิดเผยว่าการแก้เกมจุดสำคัญที่ช่วยให้ทีมของตนแซงชนะ ฟูแล่ม คือการให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มายืนเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางแบบเบอร์ 6 คู่กับ ไรอัน กราเฟนแบร์ก รวมถึงการให้ โจ โกเมซ รับหน้าที่ช่วยเกมริมเส้น

 
          ตอนแรก ลิเวอร์พูล ทำท่าว่าจะแพ้คาบ้านแบบสุดช็อกแล้ว แต่พวกเขาก็มาแซงชนะได้จาก 2 ประตูในช่วงท้ายเกมของ วาตารุ เอ็นโด กับ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทำให้ทีมของ คล็อปป์ เก็บเพิ่มเป็น 31 คะแนนจากการลงเล่น 14 นัด และอยู่ที่ 2 ของตารางคะแนน

 
          กุนซือชาวเยอรมันเผยว่า "มันมีสาเหตุที่มันเป็นแบบนั้น เทรนท์ เข้าไปยืนตรงกลาง ผมมองว่านี่เป็นเกมที่เหมาะกับการให้เรารับบทบาทหมายเลข 6 เพราะตำแหน่งแบบเบอร์ 8 มันไม่เข้าเท่าไหร่ ผมไม่ชอบวิธีการเล่นเกมรับที่แนวรุกของเราแสดงออกมา การถอยกลับมาช่วยของพวกเขามันไม่ดีเท่าไหร่ และแนวรับของเขาก็ไล่กดดันได้ไม่ดีในช่วงครึ่งแรกด้วย นั่นทำให้แผงกลางของเราเจองานหนักมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตรงตำแหน่งแบบเบอร์ 6

 
          "เราเปลี่ยนระบบในช่วงนั้นเช่นกัน เราเอา โจ ลงมาและจำเป็นต้องเล่นในพื้นที่ริมเส้นให้ดีด้วย เราต้องการให้เกมตรงริมเส้นเล่นกันได้ดีอีกครั้งเพราะก่อนหน้านั้นมันไม่ได้ผลดีเท่าไหร่นัก มันเคยมีเกมที่ได้ผลดีมากๆ แต่มันก็เป็นธรรมดาที่จะมีวันที่มันไม่ได้ผลอยู่บ้าง"

 
          "ในครึ่งแรก โม ได้เล่นกับบอลและทำได้ดีมากๆ ดอม เองก็ถอยลงมาช่วยทีมได้ และเราพาบอลเข้าไปอยู่ในจุดที่สำคัญมากๆ ได้ แต่พอ โจอี้ ลงมานั้นเขาก็ช่วยทีมได้ดี เรามีแผงกลาง 2 คน นักเตะแบบตำแหน่งเบอร์ 6 เป็นจำนวน 2 คนจากการให้ ไรอัน กับ เทรนท์ ยืนคู่กัน ขณะที่พอ โจอี้ ได้ครองบอลนั้นเขาก็จะอยู่ตรงกลางในตอนแรก และต่อมาก็จะให้บอลเล่นกันตรงริมเส้น"

 
          "ถ้าเกิดสิ่งที่คุณพยายามจะทำในช่วงเวลาแบบนี้มันได้ผลแล้วล่ะก็ มันก็จะทำให้คู่แข่งปั่นป่วนเหมือนกัน พวกเขาจะต้องปรับตัวเข้ากับเรื่องใหม่ๆ ผมคิดว่า ทอม แคร์นี่ย์ แทบจะตามประกบ เทรนท์ แบบติดตัวในตอนที่เขาอยู่ในแดนกลาง นั่นทำให้พอเราเพิ่มเกมตรงริมเส้นเขาไปมันเลยช่วยได้เป็นอย่างดี"

 
          "ผมไม่มั่นใจว่า โจอี้ โยนบอลเข้าไปข้างในมากเท่าไหร่ แต่มันมีบางลูกที่เขาเปิดได้ดีมากๆ มันทำให้คู่แข่งของเราต้องปรับตัวกันใหม่ ซึ่งสุดท้ายพวกเขาก็ทำได้ไม่ดีพอและนั่นทำให้เราเป็นฝ่ายชนะ ในช่วงเวลาแบบนี้มันก็เป็นเหมือนการเล่นหมากรุกนั่นแหละ คุณพยายามจะเปลี่ยนบางอย่างเพื่อทำให้ทีมของตัวเองเล่นได้ดีขึ้นโดยที่ในขณะเดียวกันก็ทำให้คู่แข่งสับสนตามไปด้วย นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันได้ผลลัพธ์ที่ดี"