����� ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่แรกประจำวันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม 2564 ที่สนาม วิคาเรจ โร้ด ระหว่าง วัตฟอร์ด ทีมอันดับ 15 ของตาราง พบ ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูง
��� วัตฟอร์ด เกมนี้จะได้ เคลาดิโอ รานิเอรี่ เข้ามารับงานคุม่ทีมเป็นนัดแรก โดยแนวรุกส่ง อิสไมล่า ซาร์ เป็นตัวทีเด็ดพร้อมมี เอมมานูเอล เดนนิส เป็นหัวหอกตัวเป้า
��� ด้าน ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เกมนี้มีการปรับทัพบางตำแหน่งส่ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงแทน ดิโอโก้ โชต้า ที่นั่งสำรองไปก่อน ประสานงานร่วมกับ ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์
��� ครึ่งแรกเล่นมาได้ 3 นาที ลิเวอร์พูล ได้ทักทายก่อนทันที โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ล็อกเข้าซ้ายแล้วปั่นในเขตโทษบอลไปแฉลบบล็อกวิลเลี่ยม ทรูสต์-อีค็อง ข้ามคานออกหลังไป
��� จากนั้น นาทีที่ 9 ลิเวอร์พูล ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้บอลที่กลางสนามแล้วแทงทะลุช่องไปให้ ซาดิโอ มาเน่ หลุดเดี่ยวยิงสวนตัวของ เบน ฟอสเตอร์ เข้าประตูไป
��� "หงส์แดง" กระหน่ำบุกใส่ต่อเนื่อง นาที 12 เกือบได้ลูกสอง โม ซาลาห์ เก็บตกได้ที่หน้าเขตโทษแล้วปั่นด้วยซ้ายเน้นๆ ไปติดเซฟของ เบน ฟอสเตอร์ ปัดทิ้งออกไปได้
��� ทีมเยือนยังครองเกมได้เหนือกว่าเปิดฉากบุกใส่อยู่ฝ่ายเดียว และมานำห่าง 2-0 ในนาทีที่ 37 เจมส์ มิลเนอร์ หลุดมาถึงสุดเส้นหลังแล้วเปิดเข้ากลางให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เข้าแท็บอินโล่งๆไม่เหลือ�
��� ท้ายครึ่งแรก นาที 42 ลิเวอร์พูล เกือบได้ลูกสาม นาบี เกอิต้า ตั้งป้อมซัดด้วยขวาหน้าเขตโทษบอลไปแฉลบบล็อกแนวรับ วัตฟอร์ด พุ่งไปชนคานออกหลังไปหวุดหวิด
��� ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไมได้ จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำ วัตฟอร์ด อยู่ 2-0
��� ครึ่งหลังเล่นมาได้ 4 นาที โม ซาลาห์ ลากเข้าซ้ายแล้วปั่นเน้นๆอีกครั้ง แต่ยังไม่ผ่านมือ เบน ฟอสเตอร์ บินปัดออกหลัง�
��� แต่กระนั้น นาที 52 สกอร์ไหลห่างเป็น 3-0 จนได้ เจมส์ มิลเนอร์ แทงบอลทะลุช่องไปที่หน้าปากประตู วิลเลี่ยม ทรูสต์-อีค็อง พยายามสกัดบอลแต่พลาดทำให้ เบน ฟอสเตอร์ ต้องปัดทิ้งออกมา ก่อนจะมาเข้าทางปืน โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่ตามซ้ำจ่อๆเข้าไปไม่เหลือ
��� เท่านั้นไม่พอ นาที 55 โม ซาลาห์ โซโล่เข้าเขตโทษแล้วล็อกซ้ายแล้วปั่นไปที่เสาไกลส่งบอลตุงตาข่ายอย่างสวยงาม คราวนี้ เบน ฟอสเตอร์ ได้แต่ยืนมองด้วยสายตาให้ ลิเวอร์พูล นำ วัตฟอร์ด 4-0
��� วัตฟอร์ด ได้โอกาสสวนกลับมาบ้าง มุสซ่า ซิสโซโก้ ลากตะลุยขึ้นมาแล้วแทงบอลให้ คูโช่ หลุดเข้าเขตโทษมาปั่นด้วยขวาแต่บอลหลุดเสาไกลออกไป ในนาที 73
��� เจ้าถิ่นหวังเอาประตูปลอบใจ นาที 84 หวิดตีไข่แตกได้อีกครั้ง อิสไมล่า ซาร์ วางเท้าซัดในเขตโทษ ควีวิน เคลเลเฮอร์ บินปัดบอลพุ่งไปชนเสากระดอนออกมา ก่อนจะตามซ้ำดาบสองแต่ผู้ช่วยยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้า
��� ท้ายเกมช่วงทดเจ็บ นาที 90+1 โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กดแฮตทริกได้สำเร็จ เนโก้ วิลเลี่ยมส์ จ่ายบอลไปที่เสาไกลให้ดาวยิงชาวบราซิลเข้าชาร์จโล่งๆเป็นประตูให้ ลิเวอร์พูล บุกถล่ม วัตฟอร์ด 5-0 เก็บเพิ่มเป็น 18 แต้มแซง เชลซี ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงชั่วคราว
�� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม�
�� วัตฟอร์ด (4-2-3-1) : เบน ฟอสเตอร์ - วิลเลี่ยม ทรูสต์-อีค็อง, เคร็ก แคธคาร์ต, แดนนี่ โรส - กีโก้ (เจอเรมี่ เอ็นกาเกีย น.56), ยูราจ์ คูชก้า, มูสซ่า ซิสโซโก้, อดัม มาซิน่า (ทอม เคลฟเวอร์รี่ น.46) - คูโช่, อิสไมล่า ซาร์, เอ็มมานูเอล เดนนิส (ชูเอา เปโดร น.69)
�� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวิน เคลเลเฮอร์� - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน น. 65), โฌแอล มาติ๊ป, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (คอตตาส ซิมิคาส น.64) - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, นาบี เกอิต้า, เจมส์ มิลเนอร์ (เนโก้ วิลเลี่ยมส์ น.83) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่