เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันทีมลิเวอร์พูล ออกมากระตุ้นเพื่อนร่วมทีมให้ลุกขึ้นมาและแสดงความรับผิดชอบออกมาให้เห็นกับเกมการแข่งขันที่พบกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ค่ำคืนนี้ หลังสุดสัปดาห์เพิ่งโดน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ บุกอัด 0-3 คาแอนฟิลด์

แม้ผลงานในพรีเมียร์ลีกจะตกฮวบ แต่ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ลิเวอร์พูลยังทำได้ยอดเยี่ยม ชนะถึง 3 จาก 4 เกม รวมทั้งเปิดบ้านพิชิตทั้ง เรอัล มาดริด และ แอตเลติโก มาดริด ทำให้เกมคืนนี้ถูกคาดหวังว่าเป็นโอกาสทองในการเรียกศรัทธา และอาจเป็นแมตช์ที่ช่วย อาร์เน่ สล็อต ลดแรงกดดันจากบอร์ดบริหารที่เริ่มไม่พอใจฟอร์มของทีม

ฟาน ไดค์ ได้ระบุในคอลัมน์ก่อนเกมว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะต้องทำให้สถานการณ์เข้ารูปเข้ารอย

“ความพ่ายแพ้ต่อฟอเรสต์ในวันเสาร์เป็นวันที่ยากมากสำหรับพวกเราทุกคน และตำแหน่งที่เราอยู่ตอนนี้ มันรับไม่ได้”

“ทุกคนต้องลุกขึ้นมา รับผิดชอบให้มากขึ้น แสดงให้เห็นว่ามีความกระหายและมีคาแรกเตอร์พอที่จะพลิกสถานการณ์ ตอนนี้เรากำลังทำให้ตัวเองผิดหวัง ทำให้ผู้จัดการทีมผิดหวัง และทำให้พวกคุณผิดหวัง ซึ่งมันต้องเปลี่ยน”

กัปตันหงส์แดงย้ำว่าทุกอย่างอยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่แค่คำพูด

“เราจะพูดกันว่าปัญหาคืออะไร หรือจะทำอะไรต่อไปก็ได้ แต่สุดท้ายมันขึ้นอยู่กับการกระทำ ไม่ใช่คำพูด ทุกคนต้องมองตัวเองในกระจกก่อน แล้วรวมใจกันในฐานะทีมเพื่อพิสูจน์ว่าเราดีกว่านี้ แข็งแกร่งกว่านี้”

ฟาน ไดค์ กล่าวว่าทุกอย่างต้องเริ่มจากพื้นฐานฟุตบอล

“เริ่มจากสิ่งง่ายที่สุด—ทำงานหนัก สู้ทุกลูกแรก ลูกสอง ชนะทุกจังหวะปะทะ บล็อกลูกยิง คว้าชัยในแต่ละแท็คเกิล เราต้องทำสิ่งเหล่านี้ร่วมกัน ทั้งทีม นั่นคือทางเดียว”

กัปตันรับรู้แฟนบอลเริ่มหมดความอดทน

ลิเวอร์พูลแพ้ 6 จาก 7 เกมหลังในพรีเมียร์ลีก จนโอกาสลุ้นแชมป์แทบสิ้นสุด แต่ยังมีความหวังในยุโรป ฟาน ไดค์ ส่งความเชื่อมั่นไปถึงแฟนบอลที่กำลังหงุดหงิดกับสถานการณ์ทีมตอนนี้

“ผมรู้ว่าพวกคุณหงุดหงิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น และผมเข้าใจดี ผมรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น และทุกคนต้องทำแบบนั้นด้วย เราไม่สามารถหนีความจริงได้”

กัปตันลิเวอร์พูลทิ้งท้ายว่า เกมคืนนี้ต้องการพลังจากเดอะค็อปอย่างยิ่ง

“คืนนี้เรากลับมาเล่นที่แอนฟิลด์ พบทีมที่ดีอย่างพีเอสวี เราต้องการแรงสนับสนุนจากพวกคุณเหมือนทุกครั้ง ผมรู้ว่าเรานับมันได้ และหวังว่าเราจะทิ้งเรื่องเมื่อสัปดาห์ก่อน แล้วแสดงให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งเดียวและสปิริตการสู้เพื่อให้พวกคุณได้ส่งเสียงเชียร์กันอีกครั้ง”