ลิเวอร์พูล ฟอร์มโหดต่อเนื่องหลังเปิดรังแอนฟิลด์เฉือน ลีลล์ 2-1 การันตีเข้ารอบน็อกเอาต์ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แน่นอนแล้ว
ลิเวอร์พูล มีการปรับทัพพอสมควรโดยเฉพาะแผงแบ็กโฟร์ที่ส่ง คอเนอร์ แบรดลี่ย์ กับ จาเรลล์ ควอนซาห์ ลงสนาม ขณะที่แดนหน้า ดาร์วิน นูนเญซ ได้โอกาสลงตัวจริงหลังฟอร์มแจ่มในเกมลีกชนะ เบรนท์ฟอร์ด ในเกมเปิดรังแอนฟิลด์ ต้อนรับ ลีลล์ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ ลีก เฟส วันอังคารที่ 21 มกราคม
ทัพ "หงส์แดง" เปิดฉากเดินเครื่องหมายจะทำประตูให้เร็ว โดยมีโอกาสจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แต่ยิงไม่ผ่านมือ ลูกาส์ เชอวาลิเย่ร์ ขณะที่ ลีลล์ รอจังหวะสวนกลับแต่ก็ยังไม่มีลุ้นอะไรมากนัก
เกมส่วนใหญ่เป็นการสู้กันในแดนกลาง แต่ ลิเวอร์พูล มีโอกาสที่จะทำเกมบุกหลายครั้ง อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถลำเลียงบอลเข้าไปในพื้นที่อันตรายได้มากนัก เนื่องจากทีมเยือนมีเกมรับที่เหนียวแน่น ท้ายที่สุดก็ต้องส่งบอลคืนหลัง
จนกระทั่งนาทีที่ 35 คอสตาส ซิมิกาส สไลด์ตัดบอลจากคู่แข่งในแดนตัวเอง ก่อนที่ เคอร์ติส โจนส์ จะผ่านบอลแบบคิลเลอร์พาสให้ โม ซาลาห์ หลุดเข้าไปซัดผ่านมือ เชอวาลิเย่ร์ เข้าประตู ส่งให้เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0
นาทีที่ 44 โมเกือบยิงประตูที่สองให้ทีม หลัง หลุยส์ ดิอาซ เปิดบอลยาวอย่างแม่นยำ ซาลาห์ จับบอลลงและลากเข้าไปยิงแต่น่าเสียดายที่บอลเฉียวเสาออกไปนิดเดียว หลังจากนั้นทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรได้ จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล รักษาสกอร์นำ 1-0 เอาไว้ได้
ครึ่งแรก ลิเวอร์พูล 1-0 ลีลล์
ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ยังคงเปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสจะๆ สองครั้ง จากการโหม่ง จาเรลล์ ควอนซาห์ ซึ่งเหินข้ามคานไปนิดเดียว และลูกยิงของ ดาร์วิน นูนเญซ ที่ซัดเต็มข้อติดเซฟ เชอวาลิเย่ร์
เข้าสู่นาทีที่ 59 ลีลล์ ต้องเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน เมื่อ ไอสซ่า แมนดี้ ทำฟาวล์ ดิอาซ ในจังหวะกำลังจะหลุดเดี่ยว ส่งผลให้โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม
อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 62 แม้ ลีลล์ มีตัวผู้เล่นน้อยกว่าแต่สามารถสร้างเซอร์ไพรส์ตีเสมอ 1-1 จากจังหวะ ฮาคอน อาร์นาร์ ฮารัลด์สสัน ซัดไปติด ซิมิกาส บอลกระดอนเข้าทาง โจนาธาน เดวิด ที่ซัดเข้าประตูไม่เหลือซาก
หลังจากนั้น "หงส์แดง" ตื่นจากภวังค์กลับมาเดินเครื่องเต็มสูบอีกครั้ง และในนาทีที่ 67 ความพยายามของพวกเขาก็สำฤทธิ์ผลจากการซัดไกลของ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ที่ไปแฉลบผู้เล่นลีลล์บอลเปลี่ยนทางเข้าประตูเจ้าบ้านขึ้นนำอีกครั้ง 2-1
ลิเวอร์พูล ยังคงครองเกมได้ตลอด และเกือบได้ประตูเพิ่มจากการยิงของ นูนเญซ แต่น่าเสียดายที่ดันเป็นลูกล้ำหน้า ช่วงเวลาที่เหลือ "หงส์แดง" รักษาสถานการณ์เอาไว้ได้ พร้อมคว้าชัยชนะด้วยสกอร์ 2-1 การันตีเข้ารอบ 16 ทีมแน่นอนแล้ว
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - คอเนอร์ แบรดลี่ย์ (เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ น. 86, จาเรลล์ ควอนซาห์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, คอสตาส ซิมิกาส - ไรอัน กราเฟนแบร์ก (อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ น. 46) , โดมินิค โซโบซไล (วาตารุ เอ็นโด น. 63) , เคอร์ติส โจนส์ (ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ น. 46) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์ , ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ (เฟเดริโก้ เคียซ่า น. 74)
ลีลล์ (4-2-3-1) : ลูกาส์ เชอวาลิเย่ร์ - กาเบรียล กุดมุนด์สัน, อเล็กซานโดร ริเบยโร่, บาโฟเด้ ดิอากิเต้, ไอสซ่า แมนดี้ - แบ็งฌาแม็ง อ็องเดร, เอ็นกาลาเยล มูเกา - มิตเชล บัคเคอร์, ฮาคอน อาร์นาร์ ฮารัลด์สสัน, เรมี่ กาเบลล่า - โจนาธาน เดวิด