โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิง ลิเวอร์พูล กล่าวว่า อาร์เน่อ สล็อต เฮดโค้ชคนใหม่ของทีมจะทำการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่นแบบนัดต่อนัด ต่างจากยุคของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่จะเน้นเล่นแบบเดิมอยู่ตลอด พร้อมยืนยันว่าความสำเร็จของทีมสำคัญกว่าผลงานส่วนตัว
คล็อปป์ เคยทำให้ ลิเวอร์พูล เล่นได้ยอดเยี่ยมเป็นเวลาหลายปีจนส่งผลให้หลายคนเคยตั้งคำถามว่า สล็อต จะทำได้ดีแค่ไหนในการเข้ามาเป็นทายาทของเขา แต่กลับกลายเป็นว่าในซีซั่นนี้ "หงส์แดง" เล่นได้สุดยอดจนถือว่าเหนือกว่าความคาดหมายของหลายคน โดยปัจจุบันพวกเขาก็นำเป็นจ่าฝูงทั้งในลีกและ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึงยังเข้าถึงรอบรองชนะเลิศของ คาราบาว คัพ ด้วย
หลังโดนถามว่า สล็อต ทำการปรับเปลี่ยนอะไรบ้างแล้วนั้น ซาลาห์ ก็ตอบว่า "ผมคิดว่าแนวทางการเล่นของเรามันต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ตอนสมัยของ เจอร์เก้น เราเล่นตามแบบที่เคยทำกันอยู่ตลอดไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม เพราะเราเคยเล่นด้วยแนวทางนั้นมานาน 7 หรือ 8 ปี และการทำแบบนั้นก็ช่วยให้เราเป็นทีมที่เก่งที่สุดในช่วงที่ว่า แต่ตอนนี้กุนซือคนปัจจุบันจะทำการปรับเปลี่ยนนิดหน่อยขึ้นอยู่กับว่าเราจะเจอกับใคร ซึ่งเราไม่เคยทำอะไรแบบนั้นมาก่อน ผมคิดว่าตอนนี้ทีมหันมาพึ่งพาผมมากกว่าแต่ก่อนนิดหน่อย ผมคิดว่ามันช่วยทำให้ผมแสดงความเป็นตัวเองออกมาได้ มันทำให้ผมเล่นตามเกมของผมเองได้และผมก็แค่ต้องปรับปรุงบางส่วนเท่านั้น"
ดาวเตะชาวอียิปต์ถูกถามถึงความสัมพันธ์ในตอนนี้ของเขากับ คล็อปป์ ด้วย ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่ายังสนิทกับอีกฝ่าย รวมถึงส่งข้อความหากันบ่อยกว่าแต่ก่อนด้วยซ้ำ "เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เราส่งข้อความหากันอยู่บ่อยๆ ที่จริงในช่วง 3 เดือนมานี้ผมส่งข้อความหาเขามากกว่าที่เราเคยส่งข้อความหากันในช่วง 7 ปีที่ผ่านมาด้วยซ้ำ!"
ซาลาห์ ยังหวังด้วยว่าจะนำทีมได้แชมป์มาครองในซีซั่นนี้ โดยเฉพาะแชมป์ พรีเมียร์ลีก โดยพอถูกถามว่าเขายังคิดว่าตัวเองยังจำเป็นต้องได้แชมป์ลีกอีกสัก 1 หน เพื่อจะทำให้ตัวเองได้รับการยอมรับมากขึ้นว่าเป็นยอดนักเตะคนหนึ่งหรือไม่แล้วนั้น เจ้าตัวก็บอกว่า "ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมพยายามเล่นให้ดีที่สุดอยู่เสมอไม่ว่าผมจะได้แชมป์หรือไม่ก็ตาม แรงจูงใจของผมในฤดูกาลนี้คือการคว้าแชมป์ให้ได้และมีส่วนช่วยอย่างมากในการพาทีมได้แชมป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายการ พรีเมียร์ลีก"
ซาลาห์ แสดงความเชื่อด้วยว่าตนจะมีโอกาสได้รางวัล บัลลง ดอร์ ในปี 2025 มากขึ้น ถ้าหากช่วยให้ทีมได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก โดยพอถูกถามว่าเขาคิดว่าการได้แชมป์ลีกมันมีผลต่อการทำให้ได้รางวัลส่วนตัว อย่างเช่น บัลลง ดอร์ มากขึ้นหรือไม่แล้วนั้น เขาก็บอกว่า "ผมคิดแบบนั้นนะ ผมคิดว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของการตัดสินรางวัลส่วนตัวมันขึ้นอยู่กับฟอร์มของคุณและจำนวนแชมป์ที่คว้าได้ร่วมกับทีม ดังนั้นถ้าคุณได้แชมป์รายการใหญ่ๆ ร่วมกับทีม และมีส่วนช่วยอย่างมากต่อความสำเร็จที่ว่าแล้วน่ะ ผมก็คิดว่าคุณจะมีโอกาสได้รางวัล บัลลง ดอร์ หรือรางวัลอื่นๆ มากขึ้น
ทั้งนี้ ในฤดูกาลนี้ ซาลาห์ ทำประตูกับแอสซิสต์ในลีกได้เยอะมากๆ จนถึงขนาดที่ว่าถ้าเทียบเฉพาะในช่วง 18 นัดแรกของลีกในแต่ละฤดูกาลนั้น ลิโอเนล เมสซี่ ก็เคยมีส่วนร่วมกับประตูในลีกมากกว่าเขาแค่ 2 ครั้ง ส่วน โรนัลโด้ ทำได้มากกว่าเขา 1 หน แต่ ซาลาห์ บอกว่าตนให้ความสำคัญกับเรื่องแชมป์ของสโมสรมากกว่าผลงานส่วนตัว โดยพอถูกถามว่าเขาคาดหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าตัวเองจะเล่นได้ในระดับนี้หรือไม่ เจ้าตัวก็บอกว่า "พูดตามตรงนะ ผมตั้งความคาดหวังในตัวเองเอาไว้สูงอยู่เสมอ ผมทำงานหนักมากๆ และภูมิใจสุดๆ ที่ทำผลงานแบบนั้นได้ มันเป็นสิ่งที่ทำให้ผมภูมิใจมากๆ แต่ผมจำเป็นต้องไม่เหลิงจนเกินไปและลืมมันไปก่อน เกมในวันอาทิตย์นี้จะสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก ผมไม่อยากให้พอจบฤดูกาลแล้วมีการพูดกันว่าผมทำผลงานได้น่าเหลือเชื่อแต่สุดท้ายแล้วเราไม่ได้แชมป์อะไรเลย ผมอยากได้แชมป์โดยที่ทำผลงานได้ดีแบบนั้นตามไปด้วย ถ้ามันเป็นแบบนั้นได้มันก็จะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมสุดๆ"
ซาลาห์ เสริมว่าหนึ่งในเป้าหมายของตนในตอนนี้คือการช่วยให้เหล่าเพื่อนร่วมทีมที่อายุน้อยกว่าตนสามารถพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นนักเตะที่เก่งขึ้นได้ โดยพอถูกถามถึงเป้าหมายที่เขาเขียนเอาไว้ให้กับตัวเอง เจ้าตัวก็บอกว่า "ผมเขียนถึงเรื่องที่อยากทำให้ดีขึ้นกว่าเมื่อช่วงซัมเมอร์ปีก่อน ผมอยากช่วยให้เพื่อนร่วมทีมของผมก้าวไปอีกระดับให้ได้ ตอนนี้หลายคนยังอายุน้อยมากๆ ไม่ว่าจะเป็น ลูโช่ (หลุยส์ ดิอาซ), ดาร์วิน (นูนเญซ), ฮาร์วี่ย์ (เอลเลียตต์), ดอม (โดมินิก โซโบซไล) ทุกคนยังอายุน้อยสุดๆ และผมก็อยากช่วยให้พวกเขาก้าวไปอีกระดับเพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของเกมฟุตบอล ผมอยากมอบประสบการณ์ให้กับเหล่านักเตะอายุน้อย, ช่วยให้พวกเขาพัฒนาตัวเองได้และเป็นนักเตะที่ดีขึ้นได้ ก็หวังว่าพวกเขาจะเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผมมอบให้กับพวกเขาได้"
"คุณไม่มีทางได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ด้วยตัวของคุณเพียงคนเดียวได้ คุณไม่มีทางชนะด้วยตัวคนเดียวได้ ดังนั้นคนอื่นๆ ก็ต้องเล่นให้ดีขึ้นด้วย นั่นคือหนึ่งในเรื่องที่สำคัญ ผมคิดว่าทุกวันนี้ผมคุยกับเพื่อนร่วมทีมมากกว่าแต่ก่อน ผมพยายามทำความเข้าใจอารมณ์ของพวกเขามากขึ้นเพราะมันเป็นส่วนสำคัญของเกมฟุตบอล มันเป็นเรื่องที่ช่วยผู้จัดการทีมได้เยอะ ผมจำเป็นต้องคุยกับพวกเขาเกือบทุกวัน นักเตะบางคนมีอาการกระวนกระวาย ผมพยายามช่วยพวกเขาเพราะผมมั่นใจว่าเมื่อพวกเขาใจเย็นแล้วน่ะพวกเขาก็จะสามารถโชว์ฟอร์มที่ดีได้, สามารถแสดงความเป็นตัวเองออกมาได้ และสามารถช่วยให้ทีมเป็นแชมป์ได้