คู่เอกประจำแมตช์ 5 ของรอบลีก เฟส เมื่อ ลิเวอร์พูล จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก และหนึ่งเดียวที่ชนะรวดทั้ง 4 เกมแรกรายการนี้ รอรับมือ เรอัล มาดริด แชมป์เก่า ซึ่งยังถือเป็น "รีแมตช์" นัดชิงปี 2018 และ 2022 อีกต่างหาก

เวลา : 03.00 น. 

ถ่ายทอดสด : บีอิน สปอร์ตส์ 1

สนาม : แอนฟิลด์

ลิเวอร์พูล - ได้ข่าวดีเมื่อ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวาท่านรองฟิตซ้อมเต็มรูปแบบพร้อมทวงตำแหน่งกลับมาจากเจ้าหนู คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์  ด้านดูโอละติน อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ หลุยส์ ดีอาซ ที่เป็นแค่ตัวสำรองในเกมพรีเมียร์ลีกล่าสุดเพราะเดินทางไกลรับใช้ชาติมา ก็น่าจะได้กลับมาออกสตาร์ท ส่วนคีย์แมนที่เหลืออยู่กันครบนำโดยกัปตัน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, ไรอัน กราเฟนแบร์ค รวมถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่กำลังมีประเด็นคลุมเครือเรื่องสัญญาใหม่ ตัวเจ็บตอนนี้เหลือเพียง อลีสซง เบ็คเกอร์, ดีโอโก้ โชต้า และ เฟเดริโก้ เคียซ่า

เรอัล มาดริด - คาร์โล อันเชล็อตติ แบโผ 19 แข้งลุยเมอร์ซีย์ไซด์ ท่ามกลางโรคเดี้ยงรุมเร้า ล่าสุด วินิซิอุส จูเนียร์ ดาวยิงแซมบ้าเจ็บเพิ่มพักแข้งตามรอย โอเรเลียง ชูอาเมนี่, โรดรีโก้, ดาวิด อลาบา ตลอดจน ดานี่ การ์บาฆาล และ เอแดร์ มิลิเตา ซึ่งต่างก็ปิดเทอมไปก่อนเพื่อนแล้ว การจัดทัพเมื่อไม่มี วินิ คาดว่าจะใช้ บราฮิม ดีอาซ อดีตแข้งทีมเยาวชน แมนฯ ซิตี้ ลงทำเกมช่วย อาร์ด้า กือแลร์ วันเดอร์คิดแดนเติร์ก และ จู๊ด เบลลิงแฮม เจ้าของรางวัลแข้งยอดเยี่ยมลา ลีกา ซีซั่นก่อน คอยสนับสนุนหน้าเป้าอย่าง คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ส่วนแนวรับได้ ลูกัส บาซเกซ ผ่านความฟิตส่งผลให้ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ จะได้กลับไปเล่นกลาง หลังถูกจับยืนแบ็กขวาแก้ขัดจัดไป 1 ฟรีคิกในเกมบุกถล่ม เลกาเนส

ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : ควีวิน เคลเลเฮอร์ - เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, คอสตาส ซิมิกาส - อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเฟนแบร์ค - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิค โซโบซไล, หลุยส์ ดีอาซ - ดาร์วิน นูนเญซ

เรอัล มาดริด (4-2-3-1) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - ลูกัส บาซเกซ, ราอูล อาเซนซิโอ, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, แฟร์กล็องด์ เมนดี้ - เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า, ลูก้า โมดริช - อาร์ด้า กือแลร์, จู๊ด เบลลิงแฮม, บราฮิม ดีอาซ - คีลิยัน เอ็มบัปเป้

ที่ผ่านมา หงส์แดง แพ้ทางอย่างรุนแรงเจอเมื่อไรสภาพไหนก็เจ๊งเรียบ แต่คราวนี้เปลี่ยนจาก คล็อปป์ มาเป็นโค้ชใหม่ อาร์เน่อ รูปทรงเกมต่างกัน อีกทั้งฝั่ง ราชันชุดขาว ยังประสบปัญหาบาดเจ็บ ตัวหลักแทบทั้งสิ้น เชื่อว่าน่าถึงคราว ลิเวอร์พูล ปลดแอกได้สักที

ผลการแข่งขันที่คาดจาก Siamsport : ลิเวอร์พูล ชนะ เรอัล มาดริด 3-1

ผลการแข่งขันที่คาดจากทีมงาน Liverpool.in.th : เสมอกัน 2-2