เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ แนวรับกัปตันทีมลิเวอร์พูล เปิดใจมีอยู่หนึ่งเรื่องที่คาใจตนและไม่น่าทำเลยคือการที่ไปพูดกับกล้องตอนฉลองแชมป์คาราบาว คัพ เพราะมันอาจทำให้หลายคนเข้าใจผิด แต่ยอมรับว่าตอนนั้นเขาโดนอารมณ์พาไปล้วนๆ เนื่องจากต้องการปลดปล่อยจากการที่โดนวิจารณ์มาตลอด
แนวรับชาวดัตช์ได้รับการแต่งตั้งจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ ให้สวมปลอกแขนผู้นำทีมแทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ตัดสินใจอำลาถิ่นแอนฟิลด์ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และเจ้าตัวก็ไม่ทำให้สโมสรผิดหวัง เมื่อโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งจนกลายเป็นหัวใจหลักในแนวรับ
อดีตสตาร์ "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน ลงสนามให้กับต้นสังกัดไปแล้ว 35 เกมในทุกรายการสำหรับฤดูกาลนี้ และยังเป็นพี่ใหญ่คอยประคับประคองบรรดาแนวรับดาวรุ่งอย่าง จาร์เรลล์ ควอนซาห์ และ คอนเนอร์ แบรดลี่ย์ ที่ก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้เป็นอย่างดี
ฟาน ไดค์ เพิ่งจะสวมบทฮีโร่โหม่งประตูชัยนำ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์คาราบาว คัพ และยังเป็นการชูโทรฟี่แรกในฐานะกัปตันทีมของเขาด้วย กระนั้นมีเรื่องหนึ่งที่ แนวรับวัย 32 ปี รู้สึกเสียใจนั่นก็คือตอนที่เจ้าตัวและพองเพื่อนฉลองแชมป์ในห้องแต่งตัว เขาหันไปพูดกับกล้องว่า "พวกเขาคิดว่าผมจบแล้ว" ซึ่งเป็นการส่งข้อความไปยังใครก็ตามที่สงสัยในศักยภาพของเขา
ปราการหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เปิดใจว่าตนไม่ควรพูดอะไรแบบนั้นออกไป แต่ที่ทำไปตอนนั้นเป็นเพราะอารมณ์พาไปล้วนๆ "ผมไม่ควรพูดแบบนั้นเลย เพราะผมไม่อยากให้มีการเข้าใจผิด นั่นเป็นส่วนหนึ่งของอารมณ์ที่ออกมาจากผม เพราะมีความรู้สึกมากมายที่ผ่านเข้ามาในร่างกายของผมในวันนั้น"
"เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมามันน่าผิดหวัง ไม่ใช่ผิดหวังกับแนวทางที่ผมเล่นแย่ ผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้นทั้งหมด ผมแค่คิดว่าผมเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน และขาดความคงเส้นคงวาอย่างที่ผมตั้งเอาไว้ในทุกๆ เกม ผมเข้าใจได้เป็นอย่างดีกับเสียงวิจารณ์ในเรื่องนี้ แต่ผมเป็นมนุษย์คนหนึ่ง และทนไม่ได้กับการโดนแบบนั้นมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องพอสมควร แต่ผมไม่ควรจะพูดแบบนั้นเลยจริงๆ" ฟาน ไดค์ ระบุ