กลายเป็นเรื่องดราม่าเกมระหว่าง ฟอเรสต์ กับ ลิเวอร์พูล บนศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยฝั่งเจ้าบ้านมองว่า จริง ๆ แล้วพวกเขาควรได้บอลกลับไปเล่น และสื่อดังอย่าง ดิ แอธเลติก ได้เผยกฎเรื่องการดรอปบอลคืนผู้รักษาประตู
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ผู้ตัดสิน พอล เทียร์นี่ย์ เป่าหยุดเกมจากจังหวะที่ อิบราฮิม่า โกนาเต้ ล้มเจ็บในกรอบเขตโทษตัวเอง ขณะที่ฝั่ง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ กำลังได้บอลอยู่บริเวณนอกกรอบเขตโทษ
แต่กลายเป็นว่า เมื่อเกมกลับมาเล่นไหม เทียร์นี่ย์ ดันไปให้ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตู ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายได้บอลแทนที่จะเป็น ฟอเรสต์ เพราะตอนแรกพวกเขาเป็นฝ่ายครอบครองบอลอยู่
ซึ่งนั่นทำให้ ฟอเรสต์ เสียประโยชน์จนนำไปสู่การเสียประตูชัยตอนช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 9 ที่ ดาร์วิน นูนเญซ ขึ้นโขกส่งบอลซุกก้นตาข่าย และเป็นฝ่ายพ่ายคาบ้านต่อ "หงส์แดง" 0-1 แล้วมีเหตุการณ์วุ่นวายเล็กน้อยจน อีวานเจลอส มารินาคิส เจ้าของสโมสรวิ่งเข้าไปหาผู้ตัดสิน
ด้าน มาร์ค แคลตเท่นเบิร์ก อดีตกรรมการคนดังที่ทำงานเป็นฝ่ายวิเคราะห์การตัดสินให้กับ ฟอเรสต์ มองว่า เทียร์นีย์ ทำหน้าที่ผิดพลาด และ ฟอเรสต์ ควรได้บอลกลับไปเล่น
ขณะเดียวกัน ดิ แอธเลติก สื่อดังได้เปิดเผยกฎเรื่องการคืนบอลหลังเกิดอาการบาดเจ็บศรีษะ ซึ่งการจะส่งบอลกลับไปคืนผู้รักษาประตูฝ่ายเกมรับในกรอบเขตโทษ ก็ต่อเมื่อ บอลอยู่ในกรอบเขตโทษหรือจังหวะสัมผัสบอลครั้งสุดท้ายอยู่ในพื้นที่เขตโทษ
และตามกฎข้อที่ 9.1 ผู้ตัดสินจะดรอปบอลให้ผู้เล่นคนใดคนหนึ่งของทีมที่จับบอลล่าสุดในตำแหน่งนั้น ๆ ที่ผู้เล่นสัมผัสบอล แล้วผู้เล่นคนอื่น ๆ (ทั้งสองทีม) จะต้องอยู่ห่างจากลูกบอลเป็นระยะ 4.5 หลา (4 เมตร) จนกว่าจะเริ่มเล่นใหม่ ซึ่งการเล่นต่อ จะเกิดขึ้นเมื่อบอลกระทบตกบอลพื้นแล้ว
ทั้งนี้ สื่อดังกล่าวบอกว่า กรณีที่เกิดขึ้นที่ ซิตี้ กราวด์ นั้น ชัดเจนว่า คัลลั่ม ฮอดสัน-โอดอย ปีกทีมเจ้าถิ่นครองบอลอยู่นอกกรอบเขตโทษ ก่อนที่ผู้ตัดสินเป่าหยุด