จาเรลล์ ควอนซาห์ กองหลังดาวรุ่งของลิเวอร์พูล มีความสุขที่เคยได้เป็นสักขีพยานในการคว้าแชมป์คาราบาว คัพ ของทีม เมื่อปี 2022 ซึ่งเขาเองก็กระหายที่จะคว้าโอกาสช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จในถ้วยใบนี้ได้อีกครั้ง
ควอนซาห์ 20 ปีอยู่ในกลุ่มแฟนบอลในเวมบลีย์ ตอนที่ทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์เอาชนะเชลซีในการดวลจุดโทษคว้าแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2022 โดยในฤดูกาลนี้เขามีโอกาสได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่หลายนัด รวมถึงในคาราบาว คัพ รอบ 3 ที่ผ่านมาเขาก็เป็นคนแอสซิสต์ให้ทีมเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ มาด้วย
มันชัดเจนอย่างมากจากที่ได้เห็นในแต่ละวัน ทุกคนกระหาย ทุกคนต้องการถ้วยรางวัล และนี่มาจากเอกลักษณ์ของสโมสร ควอนซาห์กล่าว
ตอนนั้น (นัดชิงปี 2022) ผมอยู่บนอัฒจันทร์ บรรยากาศที่ยอดเยี่ยม เราอยู่ติดกับอัฒจันทร์ฝั่งของลิเวอร์พูล และนักเตะดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ก็อยู่ตรงนั้น
เห็นได้ชัดว่าคุณคึกคักไปกับทีม และการมีส่วนร่วมก็มีความหมายกับผมมากเช่นกัน
ควอนซาห์พูดถึงช่วงปรีซีซั่น ที่เขาได้รับโอกาสจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ ให้มาซ้อมกับทีมด้วย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเข้าสู่ทีมชุดใหญ่
"พยายามจะแสดงให้เห็นสิ่งที่ผมสามารถทำได้บ้าง มันเป็นแค่นั้นจริงๆ ผมไม่ได้คิดไปไกลจนเกินไป ไม่มีประโยชน์ที่จะวางแผนตลอดฤดูกาล เพราะว่าในวงการฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้นได้ ผมพร้อมสำหรับทุกเกม ทุกการฝึกซ้อมที่เราทำ ผมเพิ่งเริ่มต้นซัมเมอร์กับทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลก ยู-20 และผมคิดว่าตัวเองทำได้ดีตรงนั้น ซึ่งผมมีความมั่นใจมากที่จะลงมา ผมก็แค่อยากจะโชว์ฟอร์ม และท้าทายเพื่อแย่งตำแหน่งจริงๆ"
จริงๆ ควอนซาห์นั้นเคยมีชื่ออยู่ที่ม้านั่งสำรองของทีมชุดใหญ่ในฤดูกาลก่อนแล้ว แต่ในเวลานั้นยังไม่มีโอกาสได้สัมผัสการลงสนาม
"ใช่ ในช่วงเวลานั้นคุณคิดว่าตัวคุณเองพร้อม แต่เมื่อย้อนมองกลับไป ผมไม่ได้อยู่ใกล้กับจุดที่ผมต้องการจะอยู่ ดังนั้นหากผมทำต่อไปมันอาจจะออกมาอีกเรื่องหนึ่ง นั่นเป็นเพียงการพูดจาก (นั้น) ผมคิดว่าผมเป็นผู้ใหญ่แล้วในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ดังนั้นการนั่งบนม้าสำรองจึงเป็นโอกาสอย่างแน่นอนที่จะรับมันเข้าไป ซึมซับทุกอย่างเข้าไป ผมอยู่บนม้าสำรองในเกมกับสเปอร์ส และแน่นอนว่าสนามนั้น เมื่อมันดังมันจะดังขึ้นเรื่อยๆ ผมว่ามันจะช่วยผมได้เป็นอย่างมากเช่นกัน"
ควอนซาห์ยังได้พูดถึงความรู้สึกหลังการประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่ของเขาในเกมที่ทีมกลับมาชนะนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
"มันบ้ามาก คุณไม่สามารถบรรยายมันออกมาเป็นคำพูดจริงๆ มันเป็นเพียงความรู้สึกที่ท่วมท้นสำหรับครอบครัวของผมที่มีความภาคภูมิใจอย่างมากมาย ผู้คนมากมายที่เห็นผมมาตั้งแต่ตอนเด็กๆ ที่พาผมไปซ้อมครึ่งวัน ให้เวลาพิเศษกับผม ดังนั้นแค่สามารถตอบแทนครอบครัวด้วยความรักทั้งหมดแบบนี้ และสิ่งที่พวกเขาทำให้กับผมน่าจะเป็นความรู้สึกที่ดีที่สุด หลังจากการประเดิมสนามของผม นี่คือความรู้สึกที่ดีที่สุดที่ผมสามารถเพลิดเพลินกับตัวเอง"
"คุณก็แค่ต้องเล่นกับสิ่งที่ตรงหน้ากับคุณจริงๆ ตราบใดที่ผมสามารถลงเล่นมากขึ้นเรื่อยๆ ผมจะเรียกจังหวะ ผมเป็นนักเตะที่มีแนวโน้มที่จะเล่นได้ดีขึ้นตอนที่ผมลงเล่นเกมต่างๆ มากขึ้น และ (ได้รับ) จังหวะ ซึ่งยิ่งจะเป็นการเสริมสร้างต่อไป หวังเป็นอย่างยิ่งจะมีเกมให้ลงเล่นมากขึ้นสองสามเกม และถ้ามันสม่ำเสมอ ผมจะเริ่มแสดงให้เห็นระดับที่ผมคิดว่าผมเป็น"
"ผมพยายามจะเล่นอย่างที่ผมเล่นตอนที่ผมยัเงด็ก ผมเป็นที่รู้จักกันดีเสมอในฐานะเซนเตอร์แบ็กที่พาบอลขึ้นมา บางครั้งก็เคยทำมันมากเกินไป มักจะเลี้ยงบอลเยอะมาก เคยทำอะไรบ้างๆ หลายอย่างซึ่งแน่นอนว่าผมจะไม่ทำแล้วในตอนนี้! แค่พยายามจะเป็นอิสระ และรักษาตัวตน และผมคิดว่านี่คือวิธีที่ดีที่สุดที่จะเป็น เพราะว่าคุณจะแสดงมันออกมาด้วยความมั่นใจอย่างเต็มที่