� � � � � �เจ๊าสุดมันส์! เกมที่รังเหย้า เซาแธมป์ตัน ยิงกันสลุต ลิเวอร์พูล นำก่อน 2 เม็ดก่อนโดนเจ้าถิ่นยิงแซง 4 ลูกรวด สุดท้ายมีฮึดตามตีเจ๊าและได้ลุ้นแซงนำช่วงท้ายเกมจากโอกาสหลายต่อหลายครั้ง แต่ควานหาลูก 5 ไม่ได้ ก่อนจะจบแบ่งแต้มส่งท้ายนัดปิดฤดูกาล งานนี้ "บ็อบบี้ ฟีร์มีโน่" ยิงสั่งลาเกมสุดท้ายในสีเสื้อ "หงส์แดง"
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ (นัดปิดฤดูกาล)
�
� � � � �วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม 2566
� � � � � �สนาม : เซนต์ แมรี่ส์�
� � � � � �เจ้าถิ่น เซาแธมป์ตัน ฟอร์มออกทะเลตลอดทั้งฤดูกาลจนจองพื้นที่ร่วงไปเล่น แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลหน้าก่อนใครเพื่อน โดยฟอร์ม 5 นัดหลังสุดประสบความปราชัยรวดทุกเกม โดย รูเบน เซเยส เฮดโค้ชเลือดกระทิงดุที่จะคุมทีมนัดสุดท้ายก่อนแยกทางกับ "เดอะ เซนต์ส" ขนผู้เล่นอย่าง เจมส์ วอร์ด-เพราส์, ธีโอ วัลคอตต์, โรเมโอ ลาเวีย ลงรับมือ ลิเวอร์พูล
�
� � � � �ขณะที่ "หงส์แดง" ภายใต้กุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เร่งเครื่องช่วงท้ายซีซั่นเพื่อหวังชิงโควต้าไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่กลับไปสะดุดนัดก่อนที่ยื้อแบ่งแต้มกับ แอสตัน วิลล่า ทำให้เกมนัดสุดท้าย ไม่เหลืออะไรให้ลุ้น แต่พวกเขาก็สามารถการันตีอันดับ 5 คว้าตั๋ว ยูโรปา ลีก เป็นที่แน่นอนแล้ว
�
� � � � �บอสเจเค สลับเปลี่ยนผู้เล่นหลายราย โดยให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโร่ กับ เจมส์ มิลเนอร์ ที่จะอำลาทีมเมื่อหมดสัญญาได้โอกาสสตาร์ทตัวจริง เช่นเดียวกับ โจ โกเมซ กับ โฌแอล มาติป ที่ได้จับคู่เซนเตอร์แบ็ก ส่วน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยังนำทัพแนวรุกเช่นเดิม โดยในใบรายชื่อไร้ อลิสซอน เบ็คเกอร์ และ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์�
�
� � � � �เซาแธมป์ตัน ต่อบอลหน้าปากประตูอยู่ดี ๆ กลับกลายเป็นว่า โรเมโอ ลาเวีย ที่โดนผู้เล่นทีมเยือนไล่กดดันจนผ่านบอลพลาดไปเข้าทางปืนของ ดีโอโก้ โชต้า ยิงสวนเข้าไปอย่างง่ายดาย นาทีที่ 10 ลิเวอร์พูล ออกนำ 1-0
�
� � � � �ถัดมา 4 นาที โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ดาวเตะแซมบ้า "หงส์แดง" รับบอลต่อจาก ฟาบินโญ่ แล้วโชว์สเตปหลอกแนวรับ"นักบุญ" สองรายจนเสียหลัก ก่อนจะแตะบอลอีกหนึ่งครั้งแล้วซัดเรียดส่งบอลผ่าน อเล็กซ์ แม็คาร์ธี่ เข้าประตูไป ทีมเยือนหนีเป็น 2-0�
�
� � � � �เจ้าถิ่นกลับคืนสู่เกมได้ไว นาที 18 คาร์ลอส อัลคาราซ ลากบอลตัดเข้ากลางแล้วจิ้มต่อให้ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ ซัดเรียดด้วยขวาหมดสิทธิ์ที่ ควีวิน เคลเลเฮอร์ จะป้องกันได้ทำให้ "เดอะ เซนต์ส" ไล่ตามมา 1-2�
�
� � � � �แฟนบอลเจ้าบ้านได้เฮลั่น เมื่อ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ไปเสียบอลตรงเกือบเส้นครึ่งสนาม จากนั้น ธีโอ วัลคอตต์ แทงทะลุช่องให้ คามาลดีน ซูเลมาน่า ตวัดยิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษ ควีวิน เคเลเฮอร์ ล้มตัวเซฟไม่ทันเข้าประตู เซาธ์ฯ ตีเสมอ "หงส์แดง" 2-2 ตอนนาที 28 และเป็นสกอร์แรกของศูนย์หน้าชาวกาน่า บนเวที พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้
�
� � � � �หมดครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกัน 2-2
�
� � � � �ครึ่งหลังผ่านไป 2 นาที เซาแธมป์ตัน เล่นเกมโต้กลับ บอลเข้าเท้า คามาลดีน ซูเลมาน่า ใช้ความเร็วลากเลื้อยตั้งแต่แดนตัวเองจนถึงหน้ากรอบเขตโทษโดยที่ไม่มีผู้เล่น ลิเวอร์พูล เข้าหาบอล ก่อนจะตัดสินใจยิงส่งบอลซุกก้นตาข่ายพา "นักบุญ" แซงนำ 3-2 อย่างเหลือเชื่อ
�
� � � � �นาที 57 เจอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนตัวทีเดียว 4 คนรวด โดยส่ง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โคดี้ กัคโป และ หลุยส์ ดิอาซ ลงเล่นแทน คอสตาส ซิมิกาส, ฟาบินโญ่, เคอร์ติส โจนส์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ตามลำดับ
�
� � � � �แม้จะเปลี่ยนเกมแต่ ลิเวอร์พูล ยังไม่มีอะไรดีขึ้น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จ่ายบอลพลาดโดน อดัม อาร์มสตรอง ฉกได้แล้วลากบอลจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วยิงผ่าน ควีวิน เคลเลเฮอร์ เข้าที่เสาไกล "นักบุญแดนใต้" หนีห่างเป็น 4-2�
�
� � � � �ลิเวอร์พูล ยังไม่ยอมแพ้ นาที 72 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แปะบอลไปที่เสาสองให้ โคดี้ กัคโป แท็บอินเข้าไปง่าย ๆ ทีมเยือนตีตื้นขึ้นมา 3-4�
�
� � � � �จากนั้นนาทีเดียว โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไหลบอลต่อให้ ดีโอโก้ โชต้า หลุดเข้าไปถึงในกรอบเขตโทษแล้วหวดด้วยขวาเต็มข้อจนตาจ่ายสนั่น "หงส์แดง" กลับมาทวงประตูตีเสมอ 4-4 ในนาที 73
�
� � � � �นาที 80 ทีมเยือนเกือบพลิกแซง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วางบอลยาวให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดไปกระดกบอลข้ามหัว อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ แต่สุดท้ายบอลไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย�
�
� � � � �ท้ายเกมนาที 89 "หงส์แดง" บุกหนักหวังทำประตูชัย โคดี้ กัคโป จ่ายบอลให้ โม ซาลาห์ เลือกแปเน้น ๆ แต่ทาง อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ย์ ปัดทิ้งออกหลังได้อย่างยอดเยี่ยม
�
� � � � �หมดเวลาการแข่งขัน เซาแธมป์ตัน เปิดบ้านแบ่งแต้ม ลิเวอร์พูล 4-4 ทำให้ "เดอะ เซนต์ส" จบซีซั่นด้วยการมี 25 คะแนนรั้งบ๊วยของลีก ส่วน "หงส์แดง" จบอันดับที่ 5 เก็บได้ 67 คะแนนคว้าสิทธิ์ไปเล่น ยูโรปา ลีก ซีซั่นหน้า
�
� � � � �รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
�
� � � � �เซาแธมป์ตัน : อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่, ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส,� ยาน เบดนาเร็ค, ลีอันโก้, เจมส์ บรี, โมฮาเหม็ด เอลยูนุสซี่(สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง น.64), เจมส์ วอร์ด-พราวส์(ซามูเอล อาโม่-อเมยอว์ น.87), โรเมโอ ลาเวีย(อดัม อาร์มสตรอง น.63), ธีโอ วัลคอตต์(ติโน่ ลีฟลาเมนโต้ น.77), การ์ลอส อัลการาซ, คามาลดีน ซูเลมาน่า(โดมินิค บัลลาร์ด น.86)
�
� � � � �สำรอง : กาวิน บูซานู, ดูเฌ่ ซาเลต้า-ซาร์, โจ อาริโบ, คามารี่ ดอยล์
�
� � � � �ลิเวอร์พูล : ควีวิน เคลเลเฮอร์, คอสตาส ซิมิกาส(ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ น.57), โจ โกเมซ, โฌแอล มาติป, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟาบินโญ่(จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.57), เจมส์ มิลเนอร์, เคอร์ติส โจนส์(โคดี้ กัคโป น.57) , ดิโอโก้ โชต้า, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่(หลุยส์ ดิอาซ น.57),โมฮาเหม็ด ซาลาห์
�
� � � � �สำรอง : อาเดรียน, รีซ วิลเลี่ยมส์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, อาร์ตูร์ เมโล่, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่
�
� � � � �ผู้ตัดสิน : ดาร์เรน อิงแลนด์�