� � � � ลิเวอร์พูล จัดพิธีอำลา โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, เจมส์ มิลเนอร์, นาบี เกอิต้า และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ที่กำลังหมดสัญญา และต่างจะอำลาทีมช่วงซัมเมอร์นี้ อย่างสมเกียรติ หลังจบเกม พรีเมียร์ลีก นัดสุดท้ายที่ แอนฟิลด์ ประจำฤดูกาล 2022-23 ที่ "หงส์แดง" ทำได้แค่เสมอ แอสตัน วิลล่า 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมา�
� � � �ฟีร์มีโน่ และ มิลเนอร์ ได้ลงสนามเป็นตัวสำรองในช่วงครึ่งหลัง โดยที่ ฟีร์มีโน่ สวมบทฮีโร่ ทำประตูตีเสมอ 1-1 ให้กับ ลิเวอร์พูล นาทีที่ 89 ทำให้ "หงส์แดง" ยังคงมีความหวังเล็กๆ ในการจบท็อปโฟร์ ก่อนลงเตะนัดสุดท้ายช่วงสุดสัปดาห์หน้า ด้วยการออกไปเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน ที่ตกชั้นเรียบร้อย�
� � � �หลังจบเกมบรรดานักเตะ ลิเวอร์พูล, ทีมงาน และกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้เข้าแถวต้อนรับ เกอิต้า, มิลเนอร์, อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ ฟีร์มีโน่ เดินลงสู่สนาม เพื่อรับของที่ระลึกจากสโมสร ซึ่งได้รับเกียรติโดย เซอร์ เคนนี่ ดัลกลิช ตำนานผู้ยิ่งใหญ่แห่งถิ่น แอนฟิลด์��
� � � �ฟีร์มีโน่ เจ้าของเสื้อหมายเลข 9 ที่จะกลายเป็นอีกหนึ่งตำนาน ลิเวอร์พูล ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ระหว่างที่เดินไปขอบคุณเหล่าสาวก "เดอะ ค็อป" ที่ร้องเพลงเชียร์ประจำตัว "ซี เซนญอร์" (Si Senor) ดังกึกก้องสนาม�
� � � �ทั้งนี้ มิลเนอร์ อยู่กับ ลิเวอร์พูล มาตั้งแต่ปี 2015 โดยลงเล่นให้ทีมไปแล้ว 331 นัด ทำได้ 26 ประตู ส่วน ฟีร์มีโน่ อยู่กับทีมมาตั้งแต่ปี 2015 เช่นกัน ลงเล่น 361 นัด ทำได้ 110 ประตู ขณะที่ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ซึ่งย้ายมาจาก อาร์เซน่อล ในปี 2017 ลงเล่นทั้งสิ้น 146 นัด ทำได้ 18 ประตู ส่วน เกอิต้า ที่ย้ายมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก เมื่อปี 2018 ลงเล่นทั้งสิ้น 129 นัด ทำได้ 11 ประตู
� � � �ทั้งสี่คนต่างเป็นส่วนหนึ่งในทีม "หงส์แดง" ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่้คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ในปี 2019 ก่อนช่วยทีมผงาดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก มาครองอย่างยิ่งใหญ่ในฤดูกาล 2019-20 ด้วยการโกยได้ถึง 99 แต้ม และถือเป็นแชมป์ลีกครั้งแรกของสโมสรในรอบ 30 ปี�
� � � �หลังจากนั้นพวกเขายังได้แชมป์ เอฟเอ คัพ และ คาราบาว คัพ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ก่อนได้แชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ช่วงต้นฤดูกาลนี้ โดย มิลเนอร์ กับ ฟีร์มีโน่ ถือเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยทีมทะลุเข้าถึงรอบชิงฯ ถ้วย คาราบาว คัพ และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ในฤดูกาลแรก (2015-16) ที่ คล็อปป์ คุมทัพ "หงส์แดง" ด้วย