� � � � � �อลิสซอน เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูคนเก่งของ ลิเวอร์พูล กล่าวว่าตนตั้งใจจะอยู่ช่วยทีมไปอีกนานเพื่อตอบแทนต้นสังกัดที่เคยให้กำลังใจตนเป็นอย่างดีในตอนที่เสียคุณพ่อแบบกะทันหัน
� � � � �เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 อลิสซอน ได้รับข่าวร้ายเมื่อ โชเซ่ อโกสตินโญ่ บิดาของเขาเกิดเสียชีวิตจากอุบัติเหตุการจมน้ำตรงทะเลสาบที่อยู่ใกล้กับบ้านพักของตัวเอง ซึ่งตอนนั้นนายทวารชาวบราซิเลียนไม่สามารถเดินทางกลับไปร่วมงานศพของคุณพ่อที่บ้านเกิดได้เพราะตอนนั้นเชื้อโควิด-19 อยู่ในช่วงที่มีการระบาดหนักจนหลายประเทศสั่งจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ ทำให้ อลิสซอน ต้องร่วมชมพิธีศพแบบออนไลน์แทน
� � � � �นายด่านวัย 30 ปี เผยว่า "ตอนนั้นผมไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าชีวิตของผมจะต้องเจอกับช่วงเวลาแบบนั้น ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเสียพ่อหรือแม่หรือคนที่เรารักอย่างรวดเร็วหรือกะทันหันอย่างนั้น แต่ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดมันก็มีหลายคนที่ต้องเสียคนที่รักไปเหมือนกัน และผมคิดว่าโลกอยู่ในสภาพที่ทุกคนพร้อมที่จะแสดงความรักต่อคนอื่น"
� � � � �"ที่จริงมันไม่ได้มาจากคนที่ ลิเวอร์พูล เท่านั้นหรอกนะ แต่ยังไงซะบรรดาหนุ่มๆ (หมายถึงนักเตะ ลิเวอร์พูล) ของที่นี่ก็วางตัวได้ยอดเยี่ยมมากๆ ทุกคนเลย เช่นเดียวกับเหล่าสตาฟฟ์และแฟนบอล พวกเขารู้สึกเจ็บปวดไปพร้อมกับผม และพวกเขาก็ผลักดันให้ผมไปข้างหน้า ผมสัมผัสได้ถึงความรักและแนวทางที่พวกเขารับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขาช่วยผมกับครอบครัวของผมให้ผ่านช่วงเวลานั้นไปได้"
� � � � �"มันไม่ได้มีแค่จากที่นี่ (แอนฟิลด์) เท่านั้น แต่ทุกคนในโลกฟุตบอลปฏิบัติกับผมดีมากๆ ผมรู้สึกซาบซึ้งสุดๆ ผมได้รับจดหมายจากกุนซือหลายคน และจากสโมสรบางสโมสรที่ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะได้รับจดหมายจากพวกเขาด้วยซ้ำ ทุกข้อความการให้กำลังใจมันผลักดันให้ผมเดินไปข้างหน้า"
� � � � �"สิ่งที่ช่วยผมได้มากที่สุดคือศรัทธาของผมและสิ่งที่ผมเชื่อมั่น มันทำให้ผมยังใช้ชีวิตต่อไปแบบแข็งแกร่งได้, ทำให้ผมเดินไปข้างหน้าได้, ทำให้มองไปข้างหน้าได้, ทำให้ใช้ชีวิตอยู่กับลูกๆ ได้ และทำให้ผมมีแรงกระตุ้นมากพอที่จะเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากมากๆได้"
� � � � �"แน่นอนว่าตอนที่ผมต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรแห่งนี้น่ะผมก็รำลึกถึงเรื่องที่ว่าทุกคนเคยอยู่เคียงข้างผม ซึ่งผมก็อยากอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเหลือสโมสรเช่นกัน รวมถึงช่วยสร้างประวัติศาสตร์ต่อไป และรักษาบรรยากาศแบบครอบครัวแบบที่เรามีอยู่ในตอนนี้ต่อไปด้วย"