� � � � �เชลซี ที่เพิ่งปลด เกรแฮม พอตเตอร์ สร้างโอกาสได้มากกว่าแถมส่งบอลเข้าก้นตาข่ายถึงสองครั้ง แต่โดนจับล้ำหน้า และแฮนด์บอล ก่อนทำอะไร ลิเวอร์พูล ไม่ได้แบ่งแต้มกันไป 0-0 "สิงห์บลูส์" ยังรั้งอันดับ 11 ส่วน "หงส์แดง" อยู่ที่ 8 ตามท็อปโฟร์ 7 คะแนน ก่อนสุดสัปดาห์นี้มีคิวเปิดแอนฟิลด์รับจ่าฝูง อาร์เซน่อล
� � � � �สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์�
� � � � �เชลซี ไม่ชนะใครมา 2 เกมติดต่อกันในลีกหลังเปิดบ้านพ่ายให้กับ แอสตัน วิลล่า 0-2 ในเกมลีกนัดล่าสุด ทำให้ สิงโตน้ำเงินคราม มี 38 แต้มจากการลงสนามไปแล้ว 28 เกมในฤดูกาลนี้�
� � � � �ทางด้าน ลิเวอร์พูล แพ้มา 3 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการหลังจากที่ออกไปพ่ายให้กับ แมนฯ ซิตี้ 1-4 ในเกมลีกนัดล่าสุด ทำให้ หงส์แดง มี 42 แต้มจากการลงสนามไปแล้ว 27 เกมในฤดูกาลนี้�
� � � � �เปิดฉากครึ่งแรก 4 นาที "สิงห์บลูส์" ทักทายก่อนจากจังหวะสวนกลับ ชูเอา เฟลิกซ์ แหวกขึ้นมาจากครึ่งสนามจี้เข้าเขตโทษล็อคหนี โฌแอล มาติป แต่ยังซัดไปติดบล็อค มาติป ตามมาแก้ตัวได้ทัน
� � � � �จากจัวหวะต่อเนื่องคราวนี้เป็น ไค ฮาแวร์ทซ์ พาบอลหนีขึ้นมาทางขวายัดเข้าเขตโทษแฉลบ อิบราฮิม่า โกนาเต้ กลายเป็นตั้งให้ มาเตโอ โควาซิช แต่งหนี อลิสซอน เบ็คเกอร์ หักข้อซัดไปติดบล็อค โกนาเต้ ตามมาเซฟไว้จากบนเส้น�
� � � � �นาทีที่ 12 จากบอลยาวของ คาลิดู คูลิบาลี่ ทิ้งเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ เบน ชิลเวลล์ สอดมาเก็บปาดเข้ากรอบ 6 หลาถึง ไค ฮาแวร์ทซ์ โฉบมาชาร์จตามน้ำติดเซฟ อลิสซอน เบ็คเกอร์
� � � � �ต่อมานาทีที่ 24 เชลซี หวิดได้เฮจากลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายบอลแฉลบย้อนมาเสาไกลเข้าทาง รีซ เจมส์ หวดสวนตุงตาข่ายเสียดาย แอนโธนี่ เทย์เลอร์ จับล้ำหน้าหัวเข่า เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ที่มีส่วนร่วมก่อนยืนยันจาก วีเออาร์
� � � � �30 นาทีผ่าน เจ้าถิ่น จากทำได้ดีกว่ากลายเป็นว่าใช้โอกาสเปลืองทั้ง ไค ฮาแวร์ทซ์ และ ชูเอา เฟลิกซ์ มีลุ้นจบสกอร์หลายครั้งแต่ดูแล้วยังห่างไกลคำว่า เพชฌฆาต
� � � � �ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+3 กลายเป็น "หงส์แดง" หวิดมีหมัดเด็ด โจ โกเมซ เติมขึ้นมาหน้าเขตโทษฝั่งขวาตะบันผีจับยัดหนีบล็อค เบน ชิลเวลล์ เสียดายติดเซฟ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า ตบทิ้งออกหลัง
� � � � �ก่อนจังหวะต่อเนื่องเป็น ฟาบินโญ่ เก็บตกจากลูกเตะมุมได้โอาสซัดหน้ากรอบ 6 หลาฝั่งซ้ายบอลไปติดหัว เวสลี่ย์ โฟฟาน่า ขวิดบางๆเปลี่ยนทางเซฟช่วยทีมเอาไว้ได้เหลือเชื่อ
� � � � �หมดครึ่งเวลาแรก เชลซี 0 ลิเวอร์พูล 0
� � � � �นาทีที่ 47 "สิงห์บลูส์" พลาดโอกาสทองจากความขยันของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ฉกบอลดีดถวายพานให้ มาเตโอ โควาซิช หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษแต่จังหวะซัดพยายามยกหนี อลิสซอน เบ็คเกอร์ เหินข้ามคานเหลือเชื่อ
� � � � �3 นาทีต่อมา เจ้าถิ่น เกือบได้เฮอีกรอบ ไค ฮาแวร์ทซ์ หลุดเดี่ยวอีกรอบยกไปติด อลิสซอน เบ็คเกอร์ เด้งมาชนตัวเองไหลเข้าประตู ผู้ตัดสิน ได้รับสัณญานจาก วีเออาร์ ก่อนเป่าริบสกอร์เนื่องจากบอลไปโดนแขน ฮาแวร์ทซ์
� � � � �60 นาทีผ่าน เชลซี ยังคงทำได้ดีกว่า รีซ เจมส์ ซัดฟรีคิกระยะร่วม 30 หลาเหินข้ามคาน ก่อนเป็น ชูเอา เฟลิกซ์ เก็บบอลในเขตโทษฝั่งซ้ายโยกได้ช่องหักข้อด้วยขวาก็ยังหลุดออกหลัง
� � � � �ท้ายเกมนาทีที่ 85 มิไคโล มูดริค ใช้ความเร็วหนีขึ้นมาทางฝั่งซ้ายดีดเข้ากรอบ 6 หลาโค้งเกือบเข้าทาง ไค ฮาแวร์ทซ์ พยายามโฉบมาชาร์จแต่ก็ยังแรงผ่านหน้าประตูหลุดออกไป
� � � � �นาทีที่ 90+5 "สิงห์บลูส์" มาได้เสียวส่งท้าย เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ สอดมาเก็บบอลหน้าเขตโทษฝั่งขวาก้มหน้าอัดเต็มข้อก็ยังกดไม่ลงปลิ้นหลังเท้าหลุดข้ามคานน่าผิดหวัง
� � � � �หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม เชลซี 0 ลิเวอร์พูล 0
� � � � �รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม�
� � � � �เชลซี (3-4-2-1) : เกปา อาร์ริซาบาลาก้า - เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, คาลิดู คูลิบาลี่, มาร์ก กูกูเรยา - รีซ เจมส์, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (คอเนอร์ กัลลาเกอร์ น.69), เบน ชิลเวลล์ (มิไคโล มูดริค น.78) - มาเตโอ โควาซิช, ไค ฮาแวร์ทซ์ - ชูเอา เฟลิกซ์ (ราฮีม สเตอร์ลิง น.85)
� � � � �เทรนเนอร์ : บรูโน่ ซัลตอร์ (ขัดตาทัพ)
� � � � �ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - โจ โกเมซ, อิบราฮิม่า โกนาเต้, โฌแอล มาติป, คอสตาส ซิมิคาส (แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน น.66) - เคอร์ติส โจนส์ (โคดี้ กัคโป น.79), ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน - ดีโอโก้ โชต้า, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (โมฮาเหม็ด ซาลาห์ น.65), ดาร์วิน นูนเญซ (เจมส์ มิลเนอร์ น.79)
� � � � �เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์
� � � � �ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์�