� � � � อิวิก้า โทโดรอฟ อดีตโค้ช ผู้มอบโอกาสให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์� ที่ อัล โมคาวลูน สโมสรแรกในอียิปห์ เผยว่าเขารู้ได้ตั้งแต่ครั้งแรกว่าดาวเตะรายนี้มีพรสวรรค์จะก้าวขึ้นมาเป็นยอดแข้งของโลก
� � � � ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนธันวาคม ปี 2010 โทโดรอฟ เพิ่งเข้ารับงานคุม อัล โมคาวลูน ได้ไม่นาน ซึ่งวันหนึ่งเขาตัดสินใจที่จะเดินทางไปดูทีมเยาวชนของสโมสรลงเล่นตรงแถวชานเมืองของกรุงไคโร และวันนั้นแข้งวัย 18 ปีเล่นได้โดดเด่นมากๆ จนทำให้ โทโดรอฟ อึ้งสุดๆ
� � � � "หลังจากได้เห็นเขาเป็นครั้งแรกแล้วน่ะผมรู้ได้ทันทีเลยว่าเขาคือนักเตะพรสวรรค์สูงที่หาได้ยาก" โทโดรอฟ ซึ่งตอนนี้เป็นคนว่างงาน เปิดอก "ตอนนั้น โม เล่นกับทีมเยาวชน ทีมกำลังตามหลังอยู่ 0-1 จนกระทั่งถึงช่วง 16 นาทีสุดท้าย โม ถูกส่งลงสนามในตอนนั้นแล้วเขาก็ทำประตูได้พร้อมกับทำแอสซิสต์ได้ด้วย"
� � � � ถ้าเป็นกุนซือหลายคนนั้นอาจจะลังเลแล้วเลือกที่จะขอดูฟอร์มของ ซาลาห์ ในการเล่นให้ทีมเยาวชนอีกสักพัก แต่ไม่ใช่สำหรับ โทโดรอฟ เพราะกุนซือชาวเซอร์เบียตัดสินใจที่จะให้เขาได้เล่นกับทีมชุดใหญ่ในอีกไม่กี่วันต่อมา
� � � � ที่จริง ซาลาห์ เคยขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ อัล โมคาวลูน ตั้งแต่ในช่วงที่ทีมมี โมฮาเหม็ด ราดวาน เป็นกุนซือแล้ว แต่วันนั้นเขาทำผลงานได้ไม่ดีเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม ในการลงเล่นนัดแรกภายใต้ยุคของ โทโดรอฟ นั้น เขาโชว์ฟอร์มเก่งได้ทันทีจนทำประตูให้กับทีมได้ในเกมที่เสมอกับ อัล-อาห์ลี ยักษ์ใหญ่ของอียิปต์ 1-1 เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ปี 2010
� � � � "หลังจากจบเกมระดับเยาวชนในเกมนั้นได้ 4 วันแล้วน่ะผมก็ตัดสินใจที่จะให้โอกาสเขาได้เจอกับ อัล-อาห์ลี ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ของอียิปต์ทันที ผมกล้าพอที่จะใช้งานเขา แล้วเขาก็ทำประตูได้ ส่วนที่เหลือมันเป็นยังไง เราทุกคนคงจะรู้กันดีอยู่แล้ว มันทำให้เรามั่นใจว่าเราจะไม่ตกชั้นไปเล่นในดิวิชั่น 2"
� � � � แน่นอน ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้ดีว่า โทโดรอฟ พอใจกับการที่เขาเป็นเหมือนผู้ค้นพบความเก่งกาจของ ซาลาห์ อย่างมาก "เวลามันผ่านไปเร็วเลยนะ แต่ผมภูมิใจในตัว โม สุดๆ เพราะเขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดของโลกไปแล้ว ถ้าวันนั้นผมไม่ได้ไปดูเกมเยาวชนนัดนั้นแล้วล่ะก็ ตอนนี้เขาก็อาจจะเล่นอยู่ในระดับดิวิชั่น 2 ของ อียิปต์ ก็ได้"
� � � � โทโดรอฟ ยังบอกเล่าถึงการฝึกฝีเท้า ซาลาห์ ของตัวเองด้วย "ซาลาห์ เป็นนักเตะที่เร็วมากๆ แต่มันเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องพัฒนาเรื่องการใช้ความเร็วในสนามและความสามารถในการควบคุมการเคลื่อนที่ของเขาในระหว่างที่เขาวิ่งอยู่ เราทำงานร่วมกันในด้านการคุมบอลและการทำประตูของเขา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือพรสวรรค์ของเขา"
� � � � "ช่วงที่เราอยู่ด้วยกัน ผมกระตุ้นเขาว่าอย่าไปฟังคำพูดของคนอื่น และใช้สัญชาตญาณของตัวเองในตอนที่เขาได้ครองบอล ผมภูมิใจและมีความสุขกับสิ่งที่เขาทำได้มากๆ เพราะเขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมและเป็นคนที่ดี"
� � � � แม้ว่าจะทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง แต่จนถึงตอนนี้ ซาลาห์ ยังไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับรางวัล บัลลง ดอร์ เลย ซึ่งแน่นอนว่าในฐานะอาจารย์คนหนึ่งแล้วนั้น โทโดรอฟ อยากเห็น ซาลาห์ ได้รางวัลดังกล่าวบ้าง�
� � � � "เขามีทุกอย่างพร้อมสรรพที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขกับการอยู่ที่ ลิเวอร์พูล ที่นั่นมีทั้งทีมที่ยอดเยี่ยมและมีโค้ชชั้นยอดที่เชื่อใจในตัวเขา"
� � � � "ผมหวังว่าเขาจะได้รางวัล บัลลง ดอร์ มาประดับอาชีพการเล่นบ้าง ถ้าเกิด ลิเวอร์พูล ได้นักเตะชั้นยอดมาร่วมทีมอีกสัก 3 หรือ 4 คนแล้วล่ะก็ เขาอาจจะได้รางวัล บัลลง ดอร์ ในตอนที่อยู่กับทีมก็ได้"