� � � � �'หงส์แดง' ลิเวอร์พูล งัดผลงานมาสเตอร์พีค 'กัคโป-นูนเญซ' กดเบิ้ล พร้อม โม ซาลาห์ พังตาข่ายเกมแดงเดือดอีกแล้ว ก่อนยำใหญ่ 'ผีแดง' แมนยู เละเทะ 7-0 ขยับขึ้นที่ 5 แต่แข่งมากกว่า นิวคาสเซิ่ล ขณะที่ ผีแดง รั้งที่ 3 เหมือนเดิม
� � � � �สนาม : แอนฟิลด์
� � � � �ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแดงเดือด คืนวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา "ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ผลงานกำลังยอดเยี่ยมเพิ่งคว้าโทรฟี่คาราบาวคัพมาครองหนึ่งใบแล้ว ยังมีลุ้นแชมป์อีกสามรายการที่เหลือ ยกทัพเยือน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่จำเป็นต้องเฮเพื่อต่อความหวังแย่งโควตาบอลยุโรป ชปล.
� � � � �เริ่มเกมช่วงสิบนาทีแรก ดีโอโก้ ดาโลต์ ดันสูงกลางสนามไหลออกขวาหน้ากรอบเขตโทษ อันโตนี่ เลี้ยงตัดมาปั่นติดเซฟ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ล้มตัวปัดออกหลัง
� � � � �ถัดมานาที 22 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จ่ายบอลเร็วมาที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ถ่ายบอลออกซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แต่งบอลก่อนสบโอกาสยิงติด ลิซานโดร มาร์ติเนซ ปักหลักขวางหน้ากรอบประตู
� � � � �อีกสี่นาที เฟร็ด ทิ่มบอลทะลุช่อง ดีโอโก้ ดาโลต์ รอครอสบอลทางขวาข้ามมาในเขตโทษอีกฟาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส ปรี่ทิ้งตัวโขกบอลย้อนกระดอนออกข้างแสาแรก
� � � � �ช็อตต่อมานาทีเดียว ดาบิด เด เคอา วางบอลให้ ลุค ชอว์ ตัดสินใจบอมบ์ขึ้นหน้า มาร์คัส แรชฟอร์ด สปีดยกเท้าจิ้มเร็วไม่ผ่าน อลิสซอน เบ็คเกอร์ ที่ไม่เสียสมาธิ
� � � � �ผีแดงมีลุ้นอีกครั้งนาที 33 ลุค ชอว์ โยนฟรีคิกริมสนามด้านซ้ายบอลลอยเข้าหัว ดีโอโก้ ดาโลต์ ได้โหม่งเต็มแรงทว่านายทวารเจ้าถิ่นอยู่ถูกตำแหน่งรับสบาย
� � � � �ท้ายครึ่งแรกนาที 42 บรูโน่ แฟร์นันด์ส เปิดฟรีคิกกลางสนาม กาเซมีโร่ ออกตัววิ่งตั้งหัวโหม่งบอลซุกตาข่ายสำเร็จ แต่เจ้าตัวล้ำหน้าซะก่อน ปีศาจแดงชวดออกนำน่าเสียดาย
� � � � �แต่แล้วนาทีเดียว หงส์แดง เป็นฝ่ายเฮก่อน 1-0 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดเรียดอ้อมเกมรับทีมเยือนให้ โคดี้ กัคโป สอดมาเก็บพร้อมโยกหลบ ราฟาแอล วาราน ก่อนปั่นหนี ดาบิด เด เคอา เสียบตาข่ายทางขวา
� � � � �หมด 45 นาทีแรก ลิเวอร์พูล ออกนำ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0
� � � � �ต้นครึ่งหลังนาที 47 ฟาบินโญ่ งัดบอลหน้ากรอบเขตโทษ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งมาแตะบอลชน ลุค ชอว์ เขตโทษด้านขวาเด้งหา ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ซัดกึ่งผ่านเจอ ดาร์วิน นูนเญซ ตั้งหัวโขกหน้าประตู เจ้าถิ่นหนี 2-0
� � � � �สองนาทีถัดมา แมนยู เร่งเอาคืน อันโตนี่ กระชากบอลก่อนสบจังหวะซัดนอกกรอบ บอลตรงกรอบแต่ไร้พิษสงเข้าซอง อลิสซอน เบ็คเกอร์
� � � � �ยังไม่พอนาที 50 สกอร์ไหล 3-0 โคดี้ กัคโป ส่งบอลไปที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สปีดเก็บบอลลากหลอก ลิซานโดร มาร์ติเนซ ทิ่มบอลไปที่หัวหอกชาวดัตช์สอดชิพหนี ดาบิด เด เคอา ซุกตาข่าย
� � � � �หงส์แดงหวิดบวกเพิ่มนาที 58 อิบราฮิม่า โกนาเต้ เติมช่วยเกมรุก เกือบมีชื่อพังสกอร์เจ้าตัวเทคตัวโหม่งบอลออกข้างกรอบทางขวาเพียงนิดเดียวเท่านั้น
� � � � �เกมผ่านเข้านาที 66 ดาร์วิน นูนเญซ ได้บอลสวนกลับจ่ายทีแรกบอลแฉลบ สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ บอลเด้งมาหา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตะบันเต็มเท้าในเขตโทษเสยเพดานตาข่ายแบบที่ ดาบิด เด เคอา หมดสิทธิ์ป้องกัน เจ้าบ้านฉีกเละ 4-0
� � � � �ทีมเยือนพยายามเอาคืนนาที 73 มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษแตะหลบ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ก่อนกองหน้าผีแดงรีบซัดบอลไร้ดวงดันชนโคนเสาแรกเหลี่ยมนอก
� � � � �จากนั้นสามนาทียั หงส์แดง ทิ้ง 5-0� จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จับบอลเคลียร์ทิ้งแล้วหยอดบอลไปที่ ดาร์วิน นูนเญซ กระโดดโหม่งระยะ 7 หลาลอยลิ่วกองก้นตาข่ายอีกเม็ด
� � � � �เจ้าบ้านนำสบายในนาที 83 ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ หลุดมาทางกราบขวาทิ่มยัดในเขตโทษ ลุค ชอว์ เตะทิ้งอัดโดนเพื่อนกระดอนเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หวดเม็ดสองเกมนี้นำ หงส์แดง ฉีก ผีแดง 6-0
� � � � �สิ่งที่เหลือเชื่อเกิดขึ้นในนาที 89 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยืนโล่งทางขวา ก่อนจ่ายไปที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ตัวสำรองโฉบแตะแล้วซัดลอดขา ดาบิด เด เคอา ซุกประตูปิดท้าย จบเกม ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 7-0 ขยับขึ้นที่ 5 แต่แข่งมากกว่า นิวคาสเซิ่ล ขณะที่ ผีแดง รั้งที่ 3 เหมือนเดิม
� � � � �รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
� � � � �ลิเวอร์พูล (4-3-3): อลิสซอน เบ็คเกอร์,เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์,แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (สเตฟาน บายเซติช น.78),ฟาบินโญ่ (เจมส์ มิลเนอร์ น.79),ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ (เคอร์ติส โจนส์ น.86),โมฮาเหม็ด ซาลาห์,โคดี้ กัคโป (โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ น.78),ดาร์วิน นูนเญซ (ดีโอโก้ โชต้า น.79)
� � � � �แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1): ดาบิด เด เคอา,ดีโอโก้ ดาโลต์,ราฟาแอล วาราน,ลิซานโดร มาร์ติเนซ (ไทเรลล์ มาลาเซีย น.77),ลุค ชอว์,กาเซมีโร่ (มาร์เชล ซาบิตเซอร์ น.77),เฟร็ด (สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ น.59),อันโตนี่,บรูโน่ แฟร์นันด์ส,มาร์คัส แรชฟอร์ด (แอนโทนี่ย์ อีแลงก้า น.86),เวาท์ เว็กฮอร์สท์ (อเลฮานโดร การ์นาโช่ น.59)