� � � � �เจมส์ เพียร์ซ นักข่าวระดับหัวแถวเผยเหตุผลสำคัญที่ทำให้กลุ่ม เอฟเอสจี เจ้าของสโมสร ลิเวอร์พูล ตัดสินใจแถลงอย่างเป็นกิจลักษณะไม่มีความคิดขายสโมสรเมื่อวันก่อน เพราะในช่วงที่จะขาย ฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด เองก็ดันประกาศขายด้วยทำให้ส่งผลต่อความสนใจในทีม 'หงส์แดง'
� � � � �จอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ เจ้าของทีม ลิเวอร์พูล ประกาศอย่างหนักแน่นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าไม่มีความคิดที่จะขายสโมสรเหมือนที่หลายฝ่ายเข้าใจหลังจากจนถึงขณะนี้สาธารณชนพากันสงสัยว่าไม่มีความเคลื่อนไหวในเรื่องดังกล่าวของสังเวียนแข้ง แอนฟิลด์ เลยโดยเขาระบุว่าต้องการแค่ผู้ร่วมลงทุนเท่านั้น
� � � � �จากการแถลงดังกล่าวของ เฮนรี่ ส่งผลให้สาวก เร้ด แมชีน พากันแสดงออกทางโซเชี่ยลด้วยความไม่สบอารมณ์เนื่องจากส่วนใหญ่ระบุว่ากลุ่ม เอฟเอสจี ไม่คิดทุ่มเงินให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันเสริมทัพมากพอ และอยากให้สโมสรเปลี่ยนเจ้าของใหม่อีกรอบมากกว่า
� � � � �กระทั่งล่าสุดเมื่อ 21 ก.พ. เพียร์ซ นักข่าวของ ดิ แอธเลติก ซึ่งได้รับการยกย่องในเรื่องข้อมูลที่เชื่อถือได้ของทีม� ลิเวอร์พูล ออกโรงชี้แจงว่าเหตุผลที่กลุ่ม เอฟเอสจี ตัดสินใจประกาศไม่ขาย หงส์แดง อย่างเป็นทางการเนื่องจากไม่มีกลุ่มทุนเจ้าไหนติดต่อขอซื้อสโมสรเลยในราคา 4 พันล้านปอนด์ (ราว 167,880 ล้านบาท)� อย่างที่พวกเขาตั้งราคาขายเอาไว้แม้เจ้าของ หงส์แดง จะว่าจ้างให้ โกลด์แมน แซคส์ กับ มอร์แกน สแตนลีย์ สองธนาคารของชาติมองหาผู้ที่สนใจซื้อทีมก็ตาม
� � � � �เพียร์ซ เสริมต่ออีกว่าเป็นเรื่องช่วยไม่ได้เช่นกันที่ ลิเวอร์พูล ประกาศขายทีมในเวลาที่ไล่เลี่ยกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งได้รับข้อเสนอมากกว่าจากหลายกลุ่มทุนซึ่งต้องการเทคโอเวอร์ ผีแดง ต่อจากตระกูล เกลเซอร์ จนเป็นเหตุให้ เร้ด แมชีน ไม่ได้รับการชายตามองเนื่องจากนักธุรกิจพากันแสดงความต้องการเป็นเจ้าของทีม ผีแดง ด้วยกันทั้งนั้นกระทั่งส่งผลให้ เฮนรี่ จำเป็นต้องประกาศไม่คิดขายทีม และหวังแค่ผู้ร่วมลงทุน
� � � � �ด้าน คีแรน แม็กไกวร์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินเผยว่ากลุ่ม เอฟเอสจี น่าจะสนใจขายหุ้นของสโมสรราว 10-15%