� � � � �ไบรท์ตัน โชว์ฟอร์มสุดโหดเหนือกว่าแบบหมดจดไล่ทุบ ลิเวอร์พูล ไปแบบหมดสภาพ โดยได้ ซอลลี่ มาร์ช จัดสองตุงบวกกับลูกยิงสุดเหนือชั้นของ แดนนี่ เวลเบ็ค ซัดปิดกล่อง พาทัพ "นกนางนวล" ขยับแซง "หงส์แดง" ขึ้นมารั้งที่ 7 ของตาราง พร้อมทำให้ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ แพ้สองนัดติดต่อกัน

� � � � �การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2565 ที่สนาม ดิ เอเม็กซ์ คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม ระหว่าง ไบรท์ตัน พบ ลิเวอร์พูล�

� � � � �ไบรท์ตัน ของกุนซือ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ คว้าชัยมาได้ 2 เกมติดรวมทุกรายการล่าสุดบุกไปถล่ม มิดเดิลสโบรช์ ในศึกเอฟเอ คัพ ขาดลอย 5-1�

� � � � �ทางฝั่ง ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังไม่มี เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, ดิโอโก้ โชต้า, อาร์ตูร์ เมโล่ และ หลุยส์ ดิอาซ ที่ยังบาดเจ็บอยู่ทั้งหมด�

� � � � �ครึ่งแรกเริ่มมากลายเป็น ไบรท์ตัน ที่ครองเกมขึงบุกใส่มากกว่า และมาได้ทักท่ายก่อนในนาทีที่ 8 จากจังหวะที่ ซอลลี่ มาร์ช ได้บอลทางกราบขวาก่อนลากมาปั่นด้วยซ้ายไปเสาไกล แต่ไปติดบล็อก เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ที่เคลียร์ทิ้งออกไปได้แบบหวุดหวิด�

� � � � �หลังจากนั้นยังเป็นโอกาสลุ้นของ ไบรท์ตัน ในนาที 29 ปาสกาล โกรสส์ แทงทะลุช่องให้ คาโอรุ มิโตมะ ใช้ความเร็วกระชากหลุดเดี่ยวมายิงในเขตโทษแต่บอลหลุดเสาไกลออกไป�

� � � � �ช่วงท้ายครึ่งแรก นาที 41 อีวาน เฟอร์กูสัน หลุดเดี่ยวก่อนจะโดน อลีสซง รวบล้มลงไป ผู้ตัดสินชี้จุดโทษให้กับ ไบรท์ตัน แต่ทว่ามาได้ VAR ช่วยเอาไว้หลังจาก เฟอร์กูสัน อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อนแล้ว�

� � � � �ครึ่งหลังเริ่มมาได้แค่ 2 นาที ไบรท์ตัน ขึ้นนำจนได้ 1-0 จากจังหวะที่ โฌแอล มาติป ออกบอลจากหน้าเขตโทษพลาด ก่อนที่บอลจะมาถึง คาโอรุ มิโตมะ กึ่ยิงกึ่งผ่านไปเสาไกลให้ ซอลลี่ มาร์ช หลุดเดี่ยใาชาร์จจ่อๆไม่เหลือ�

� � � � �เท่านั้นไม่พอนาที 53 ไบรท์ตัน ขยับหนีห่างเป็น 2-0 อีวาน เฟอร์กูสัน แทงทะลุช่องให้ ซอลลี่ มาร์ช หลุดเข้าเขตโทษแล้วปั่นด้วยซ้ายส่งบอลเสียบเสาไกลเข้าไปแบบงามหยด�

� � � � �ลิเวอร์พูล ได้ตอบโต้มาบ้าง นาที 55 เทรนท์ เปิดบอลเข้าเขตโทษให้ แชมเบอร์เลน ได้ทิ้งตัวโหม่งจ่อๆแต่ไม่มีน้ำหนักไปเข้าซองของ โรเบิร์ต ซานเชซ

� � � � �ทีมเยือนได้บุกมากขึ้นนาที 79 ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ตัวสำรองได้บอลหน้าเขตโทษก่อนส่องด้วยซ้ายแต่บอลหลุดกรอบไปเยอะ�

� � � � �โอกาสของ ลิเวอร์พูล ใกล้เคียงขึ้นเรื่อยๆ นาที 77 เทรนท์ เปิดบอลเข้าเขตโทษให้ โคดี้ กัคโป ชาร์จจ่อๆ แต่ โรเบิร์ต ซานเชซ โชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งออกมาได้

� � � � �แต่ถึงกระนั้น นาที่ 81 ไบรท์ตัน หนีห่างไปเป็น 3-0 ซอลลี่ มาร์ช โหม่งบอลชงต่อให้ แดนนี่ เวลเบ็ค กระดกบอลดึงหลบ โจ โกเมซ ก่อนจะยิงระยะเผาขนเข้าไปแบบเหนือชั้น

� � � � �เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ไบรท์ตัน ถล่ม ลิเวอร์พูล 3-0 ขยับแซง "หงส์แดง" ขึ้นมารั้งที่ 7 ของตาราง พร้อมทำให้ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ แพ้สองนัดติดต่อกัน�

� � � � �ไบรท์ตัน (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ - โยเอล เฟลท์มัน, ลูอิส ดังค์, อดัม เว็บสเตอร์, เปร์วิส เอสตูปินญาน - มอยเสส ไกเซโด้, ปาสกาล โกรสส์ - ซอลลี่ มาร์ช, อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์, คาโอรุ มิโตมะ - อีวาน เฟอร์กูสัน

� � � � �ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, อิบราฮิมา โกนาเต้, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลกันตาร่า - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, อเล็กซ์ อ็อกเลด แชมเบอร์เลน, โคดี้ กัคโป