��������� ลิเวอร์พูล เล่นส่งท้ายก่อนพักเบรกบอลโลกได้สวยเปิดรังอัด เซาแธมป์ตัน ที่มี เนธาน โจนส์ ประเดิมคุมทีม โดยได้ ดาร์วิน นูนเญซ จัดสองตุงบวกกับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ อีกหนึ่งประตู ช่วยให้ "หงส์แดง" ขยับขึ้นมารั้งที่ 6 มีแต้มตามหลังพื้นที่ท็อปโฟร์เหลือ 5 คะแนน
��������� การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2565 ที่สนาม เอติฮัด สเตดี้ยม ระหว่าง แมนฯ ซิตี้ รองจ่าฝูงพบ เบรนท์ฟอร์ด ทีมอันดับ 11 ของตาราง
��������� "หงส์แดง" จะไม่มี เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของทีมคุมทีมข้างสนาม หลังเอฟเอ ชนะอุทธรณ์โทษแบนจากกรณีที่กุนซือชาวเยอรมัน แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมแมตช์ที่ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำเกมนี้จะให้ เป๊ป ลินเดอร์ส ผู้ช่วยทำหน้าที่แทน ขณะที่ 11 ตัวจริงแนวรุกส่ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ดาร์วิน นูนเญซ ลงประสานงาน
��������� ครึ่งแรกเปิดฉากมาได้เพียง 6 นาที ลิเวอร์พูล ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะฟรีคิก แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดมาเข้าหัวของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ โฉบมาโหม่งเปลี่ยนทางส่งบอลเสียบเสาไกลเข้าไปแบบสุดสวย
��������� อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 9 เซาแธมป์ตัน ไล่ตีเสมอทันควัน 1-1 จากจังหวะฟรีคิกเช่นกัน เจมส์ วอร์ด เพราส์ เปิดบอลเข้าเขตโทษให้ เช อดัมส์ สอดมาโหม่งแบบเน้นๆส่งบอลเข้าประตูไป
��������� เกมเปิดหน้าแลกกันสนุก นาที 22 ลิเวอร์พูล แซงนำอีกครั้งเป็น 2-1 เมื่อ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ตักบอลให้ ดาร์วิน นูนเญซ หลุดเดี่ยวมายิงระยะเผาขนไม่เหลือ
��������� จากนั้น นาที 30 ลิเวอร์พูล น่าได้ประตูที่สามจากจังหวะที่ นูนเญซ ตอกส้นให้ ฟีร์มีโน่ หลุดมายิงจ่อๆแต่ยังติดเซฟ กาวิน บาซูนู
��������� แต่ถึงกระนั้นก่อนจบครึ่งแรก นาที 42 ลิเวอร์พูล ทิ้งห่างเป็น 3-1 โรเบริตสัน หลุดมาถึงสุดเส้นหลังแล้วปาดเรียดไปที่หน้าปากประตูให้ นูนเญซ ชาร์จจ่อๆไม่เหลือ และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
��������� ครึ่งหลัง นาที 50 ลิเวอร์พูล ลุ้นได้ประตูที่ 4 จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้ายบอลมาเข้าหัว ฟีร์มีโน่ ที่ชิงโหม่งได้ก่อนบอลข้ามคานไปนิดเดียว
��������� เซาแธมป์ตัน ได้โอกาสบุกใส่มากขึ้นนาที 62 น่าได้ประตูที่สองสุดๆเมื่อ โมฮาเหม็ด เอลยูนุสซี่ หลุดเดี่ยวแต่ยิงไปติดเซฟ อลีสซง
��������� นาที 72 โรเบิร์ตสัน ได้ครอสบอลจากกราบซ้ายไปที่เสาแรกให้ ฟาน ไดค์ สอดมาโหม่งบอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียว
��������� จากนั้นนาที 77 เซาแธมป์ตัน ยังชวดได้ประตูไล่มาอีกครั้งเมื่อ เช อดัมส์ ได้โหม่งจ่อๆ แต่ยังติดเซฟ อลีสซง ปีดปลายมือไปแบบหวุดหวิด
��������� เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาแธมป์ตัน 3-1 ขยับขึ้นมารั้งที่ 6 มีแต้มตามหลังพื้นที่ท็อปโฟร์เหลือ 4 คะแนน
��������� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
��������� ลิเวอร์พูล (4-3-1-2) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (แน็ต ฟิลลิปส์ น.87 ), โจ โกเมซ, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (คอตตาส ซิมิกาส น.86) - ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ (เจมส์ มิลเนอร์ น.68), ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลกันตาร่า - โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (อเล็กซ์ อ็อกเหลด แชมเบอร์เลน น.75) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ (ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ น.87)
��������� เซาแธมป์ตัน (4-2-3-1) : กาวิน บาซูนู - คาเลต้า คาร์ (เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์ ไนลส์ น.59), อาร์เมล เบลล่า-ค็อทแชป, โมฮัมเหม็ด ซาลิซู, โรแม็ง แปร์โรด์ - เจมส์ วอร์ด เพราส์, ลาเวีย - สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง (ธีโอ วัลค็อตต์ น.58), อดัม อาร์มสตรอง, โมฮาเหม็ด เอลยูนุสซี่ - เช อดัมส์