�������� กสทช.รับลูก "บิ๊กป้อม" อนุมัติงบฯ พันล้านซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกให้คนไทยดูฟรี เตรียมคลายล็อกกฏ "มัสต์แฮฟ" เปิดช่องเอกชนลงทุนได้ ชี้จะควักทุกๆ4 ปีคงไม่ได้ ด้านผู้ว่าฯ "ก้องศักด" ยันปิดดีลทันคู่เปิดสนาม "กาตาร์ พบ เอกวาดอร์" 20 พ.ย. แน่นอน
�������� ความคืบหน้าเรื่องการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 20 พ.ย. - 18 ธ.ค.65� ซึ่งคู่เปิดสนามจะเปิดฉากฟาดแข้งนัดแรก ในคืนวันที่ 20 พ.ย.นี้ โดยก่อนหน้านี้ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นำงบของ กสทช.ไปใช้ในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดโดยไม่ต้องรบกวนภาคเอกชนนั้น
�������� นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง กสทช. กำลังรอหนังสือชี้แจงรายละเอียดที่มาของการของบประมาณ หลังจากได้ให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ทำหนังสือชี้แจงงบประมาณที่ได้ร้องขอในการประชุมบอร์ด กสทช.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถ้าหนังสือชี้แจงดังกล่าวมาภายในวันที่ 4 พ.ย.65� ก็จะสามารถนำเข้าขออนุมัติต่อที่ประชุมบอร์ด กสทช. ที่มีประจำทุกวันพุธ ในสัปดาห์หน้า (9 พ.ย.) ได้ แต่ถ้าหากเอกสารมาไม่ทัน ก็อาจจะต้องเรียกประชุมบอร์ดแบบเร่งด่วนเพื่อพิจารณาแทนเนื่องจากการแข่งขันใกล้เข้ามาแล้ว ส่วนเรื่องที่ว่าจะใช้เวลากี่วันในการปิดดีลกับเอเยนต์ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เป็นหน้าที่ของ กกท. เพราะเป็นผู้ติดต่อโดยตรง ทาง กสทช. เป็นเพียงผู้สนับสนุนงบประมาณในการนำไปซื้อลิขสิทธิ์เท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ นายไตรรัตน์ เคยเปิดเผยเมื่อวันที่ 2 พ.ย.65 ว่า งบประมาณที่ กกท.ได้ขอรับการสนับสนุนเข้ามาก่อนหน้านี้มีจำนวน 1,600 ล้านบาทด้วยกัน
�������� ด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เผยว่า หนังสือชี้แจงค่าใช้จ่ายได้ส่งให้กับทาง กสทช.แล้ว แต่จะต้องรอดูว่าจะมีการพิจารณาได้วันไหนบ้าง ส่วนตัวเลขคงไม่สามารถบอกได้ว่าเท่าไหร่ แต่ไม่ได้ต่างจากที่ส่งไปให้ กสทช. ก่อนหน้านี้มากนัก ซึ่งตัวเลขจะมีทั้งส่วนที่เป็นค่าลิขสิทธิ์, การจัดตั้งสถานีกระจายสัญญาณ, การประชาสัมพันธ์, การดำเนินการต่างๆ แต่ส่วนนี้ไม่ได้ขอจาก กสทช. เราจะขอ กสทช. แค่ค่าลิขสิทธิ์เท่านั้น
�������� ดร.ก้องศักด เผยอีกว่า หลังจากที่ กสทช. อนุมัติ ก็จะมีการทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (เอ็มโอยู) จากนั้นเมื่อเงินเข้ามาถึง กกท. ก็จะนำเอาไปจ่ายค่าลิขสิทธิ์ต่อไป คาดว่าใช้เวลาไม่นานหลังจากการเซ็นบันทึกข้อตกลง ยืนยันว่าคนไทยจะได้ดูการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ทันนัดแรกที่จะเปิดฉากวันที่ 20 พ.ย. 2565 แน่นอน
�������� ผู้ว่าการ กกท. ยังเผยอีกว่า ที่ผ่านมา มีการพูดคุยคร่าวๆเรื่องการถ่ายทอดสดบ้างแล้ว แต่ต้องรอดูเงื่อนไขของ กสทช. อีกครั้งว่ามีอย่างไรบ้าง แต่จะได้รับชมผ่านทางฟรีทีวีทุกนัดอย่างแน่นอน ส่วนจะกี่ช่องก็คงต้องดูความพร้อมของแต่ละช่องอีกครั้งหนึ่ง
�������� ทั้งนี้ ฟุตบอลโลก 2022 นัดเปิดสนามจะเป็นการพบกันระหว่าง "เจ้าภาพ" กาตาร์ กับ เอกวาดอร์ ในวันที่ 20 พ.ย.65 เวลา 23.00 น. (เวลาไทย)
�������� ส่วนกฎระเบียบของ กสทช. ทั้ง Must Have ที่ประชาชนชาวไทยจะต้องได้รับชม 7 มหกรรมกีฬาผ่านทางฟรีทีวีแบบไม่มีค่าใช้จ่าย ได้แก่ ซีเกมส์, อาเซียนพาราเกมส์, เอเชียนเกมส์, เอเชียนพาราเกมส์, โอลิมปิกเกมส์, พาราลิมปิกเกมส์ และฟุตบอลโลก รวมถึงกฎ Must Carry ที่ผู้ถือลิขสิทธิ์จะต้องให้ผู้ชมได้รับชมผ่านทางทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาในการซื้อลิขสิทธิ์รายการกีฬาต่างๆ
�������� เกี่ยวกับประเด็นนี้ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. เผยว่า ด้วยทั้ง 2 กฎ Must Have และ Must Carry� ทำให้เกิดปัญหาพอสมควร เพราะอย่าง Must Carry เวลาเจ้าของลิขสิทธิ์ขาย ก็ขายแยกแพลตฟอร์ม ถ้านำไปถ่ายในแพลตฟอร์มอื่น จะโดนปรับได้ ทำให้ภาคเอกชนเองไม่กล้าลงทุน ดังนั้นคงจะต้องปรับแก้ไขเพื่อให้ทุกฝ่ายได้ทำงานกันง่ายขึ้น ซึ่งคงจะมีการพูดคุยกันหลังจบฟุตบอลโลกครั้งนี้ เพราะจะมาให้ กสทช. เป็นผู้ออกเงินทุกครั้งคงไม่ได้
�������� รักษาการเลขา กสทช. กล่าวเพิ่มเติมว่า จริงๆ แล้วก็มองว่าควรทำให้เหมือนต่างประเทศคือ ประชาชนต้องเสียเงินดูบางคู่เองบ้าง แต่ด้วยความที่คนไทยเป็นคนโอบอ้อมอารี หน่วยงานภาครัฐเองก็อยากให้คนไทยได้รับชมกัน จึงอยากทำออกมาให้ดีที่สุด อย่างไรก็ตามถ้าระเบียบที่ กสทช. ออกมามีปัญหา ก็คงต้องแก้ให้มันเหมาะสม ให้เอกชนสามารถเข้ามาลงทุน และไปหากำไรด้านอื่นๆ มาทดแทนได้ จะทำให้มีคนกล้าลงทุน และเชื่อว่ามีคนอยากลงทุนกันเยอะ
�������� "การได้ดูฟรีมันดีที่สุด ก็อยากให้ได้ดูฟรีกัน แต่ก็คงต้องปรับกฎให้เอกชนสามารถเข้ามาลงทุนได้ก่อน ส่วนรัฐจะมาช่วยสนับสนุนให้ประชาชนได้ดูฟรี ก็ค่อยมาว่ากันต่อไป" นายไตรรัตน์ กล่าวปิดท้าย