�������� เรียกความมั่นใจก่อนดวลเรือใบ! ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มสุดโหดหลังรัว 6 เม็ดในครึ่งหลังบุกถล่ม เรนเจอร์ส ขาดลอย 7-1 โชต้า สุดร้ายกาจจัด 3 แอสซิสต์ให้ ซาลาห์ ที่ลงมาสำรองตะบันแฮตทริก ขณะที่ ฟีร์มิโน่ ซัดเบิ้ลพาทีม ซิวชัย 3 นัดติดมีเพิ่มเป็น 9 คะแนนรั้งที่ 2 กลุ่ม เอ โอกาสเข้ารอบสดใส ส่วน "เดอะ ไลท์บลูส์" แพ้ 4 นัดติดจมบ๊วยตกรอบแล้ว
�������� ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันพุธที่ 12 ตุลาคม 2565 เป็นการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่มของ กลุ่ม เอ นัดที่ 4 ระหว่างเจ้าบ้าน เรนเจอร์ส เปิดรัง� ไอบร็อกซ์ สเตเดี้ยม พบกับ ลิเวอร์พูล
�������� โจวานนี่ ฟาน บรอง ฮอร์สต์ กุนซือเรนเจอร์ส เกมนี้เน้นสุดๆ หลัง 3 นัดที่ผ่านมาแพ้รวดจมบ๊วยของกลุ่ม นัดนี้ฝากความหวังล่าตาข่ายไว้ที่ แฟชั่น ซากาล่า, ไรอัน เคนท์ และ อันโตนิโอ มีร์โก- โคลัค
�������� ด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ เจอมรสุมกับผลงานที่ย่ำแย่ในลีก แต่ในเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก ชนะมาสองเกมติด นัดนี้พักทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และติอาโก้ ไว้ข้างสนาม จัดคู่หน้าเป็น โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และดาร์วิน นูนเญซ โดยมีตัวทำเกมรุกสนับสนุนทั้ง ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ และฮาร์วีย์ เอลเลียตต์
�������� เปิดฉากครึ่งแรก เจ้าบ้าน เรนเจอร์ส ได้ทักทายตั้งแต่นาทีที่ 4 หลัง จอห์น ลุนด์สแตรม วางยาวถึง แฟชั่น ซากาล่า จับบอลลงก่อนซัดด้วยซ้ายแต่ยังเบาไปเข้ามือ อลิสซอน จากนั้นไม่ถึงนาที ไรอัน เคนท์ ลากตัดเข้ากลางแล้วปั่นด้วยขวาแต่ยังหลุดกรอบออกไป
�������� นาที 17 กลายเป็น เรนเจอร์ส ที่ชิงขึ้นนำก่อน 1-0 หลัง ไรอัน แจ็ค จ่ายบอลเข้ากลางให้ สกอตต์ อาร์ฟิลด์ วิ่งโฉบตัดแนวรับก่อนซัดผ่านมือ อลิสซอน เข้าไปอย่างเด็ดขาดให้
�������� ทว่าลูกทีมของ คล็อปป์ มาไล่ตีเสมอทันควันในนาทีที่ 24 จากจังหวะที่ ลิเวอร์พูล ได้เตะมุมทางด้านขวาก่อนที่ คอสตาส ซิมิกาส จะเปิดมาเสาแรกให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เทกตัวโขกบอลเข้าไปให้ "หงส์แดง" ไล่ตีเสมอ 1-1
�������� ท้ายครึ่งแรก นาที 41 "เดอะ ไลท์บลูส์" เกือบแซงขึ้นนำอีกครั้งหลัง ไรอัน เคนท์ ได้ซัดด้วยขวากว่า 10 หลาแต่ยังไปติด อิบราฮิม่า โกนาเต้ ที่บล็อคช่วยหงส์ไว้ได้
�������� จบครึ่งแรก เรนเจอร์ส เสมอกับ ลิเวอร์พูล 1-1
�������� ครึ่งหลัง นาที 55 "เดอะ ค็อป" ได้เฮกันบ้างหลัง ลิเวอร์พูล พลิกแซงขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ โจ โกเมซ เติมขึ้นมาทางขวาก่อนครอสมาหน้าประตูให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ที่วิ่งสอดขึ้นมาไม่ล้ำหน้าแปเข้าไปอย่างเฉียบขาด เป็นเม็ดที่สองของตัวเองในเกมนี้ มีลุ้นแฮตทริก
�������� นาที 66 ลิเวอร์พูล มาได้เม็ดที่สามนำห่าง หลัง อัลลัน แม็คเกรเกอร์ นายด่านของเจ้าถิ่นออกบอลไม่ดีโดน ฟาบินโญ่ ตัดบอลจากกลางสนามก่อนให้สั้นๆกับ คาร์วัลโญ่ แทงเร็วให้ ฟีร์มิโน่ ชิ่งต่อถึง ดาร์วิน นูนเญซ ซัดผ่านมือ แม็คเกรเกอร์ เข้าไปส่งให้ "หงส์แดง" นำโด่ง 3-1
�������� นาที 75 หงส์แดง นำโด่งเป็น 4-1 จากการประสานงานของสองตัวสำรอง โชต้า ไหลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดเข้าไปตุงตาข่าย
�������� จากนั้นนาที 80 โชต้า คนเดิมจัดแอสซิสต์ที่ 2 ให้ ซาลาห์ ซัดเสาแรกผ่านมือ แม็คเกรเกอร์ เข้าไปอย่างเยือกเย็นพา ลิเวอร์พูล นำห่าง 5-1 และเป็นเม็ดที่สองของเจ้าตัวมีลุ้นแฮตทริก
�������� และไม่ทันขาดคำ คู่หูคนเดิม โชต้า จัดแฮตทริกแอสซิสต์ให้ โม ซาลาห์ ซัดเข้าไปไม่เหลืออีกครั้ง พาทีมนำโด่ง 6-1 พร้อมเป็นเม็ดที่สามเป็นแฮตทริก
�������� เท่านั้นไม่พอ ลิเวอร์พูล มานำห่างเป็น 7-1 หลัง ซาลาห์ ครอสไปหน้าปากประตูให้ โชต้า ซัดติดเซฟ แม็คเกรเกอร์ บอลเลยไปถึง ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ตามซ้ำเข้าไป ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์ ยืนยันให้เป็นประตู
�������� จบเกม ลิเวอร์พูล บุกถล่ม เรนเจอร์ส ขาดลอย 7-1 ซิวชัย 3 นัดติดมีเพิ่มเป็น 9 คะแนนรั้งที่ 2 กลุ่ม เอ โอกาสเข้ารอบสดใส ส่วน "เดอะ ไลท์บลูส์" แพ้ 4 นัดติดจมบ๊วยตกรอบแล้ว
�������� รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
�������� เรนเจอร์ส (4-2-3-1) : อัลลัน แม็คเกรเกอร์ - เจมส์ ทาเวอร์เนียร์, คอนเนอร์ โกลด์สัน (เลออน คิง น.45), เบน เดวิส, บอร์นา บาริซิช - ไรอัน แจ็ค (สตีเฟ่น เดวิส น.60), จอห์น ลุนด์สแตรม - แฟชั่น ซากาล่า (แร็บบี้ มาตอนโด้ น.76), สกอตต์ อาร์ฟิลด์, ไรอัน เคนท์ (สกอตต์ ไรท์ น.76) - อันโตนิโอ มีร์โก- โคลัค (อัลเฟรโด้ โมเรลอส น.76)
�������� ลิเวอร์พูล (4-4-2) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - โจ โกเมซ, อิบราฮิม่า โกนาเต้ (เจมส์ มิลเนอร์ น.79), เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, คอสตาส ซิมิกาส (แอนดี้ โรเบิร์ตสัน น.68) - ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ติอาโก้ อัลกันตาร่า น.67), ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ - โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (ดีโอโก้ โชต้า น.73), ดาร์วิน นูนเญซ (โมฮาเหม็ด ซาลาห์ น.68)