��������� ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าทีม ลิเวอร์พูล ยอมรับตามตรงว่ามีปัญหาหนักอกที่ไม่อาจเจรจากับ เจอร์เก้น คล็อปป์ เจ้านายชาวเยอรมันได้โดยตรงจึงส่งผลต่อฟอร์มในสนาม แต่มั่นใจว่ากำลังปรับตัวกับสโมสรได้ทีละน้อย
���������
��������� นูนเญซ ถูก คล็อปป์ คว้ามาจาก เบนฟิก้า ด้วยค่าตัวมหาศาล 64 ล้านปอนด์ (ราว 2766 ล้านบาท) ในช่วงซัมเมอร์ แต่จากภาพรวมในต้นซีซั่น สตาร์วัย 23 ปียังสร้างความประทับใจให้กับสาวก เดอะ ค็อป ได้ไม่มากพอซึ่งแม้เขาจะยิงประตูได้ตั้งแต่นัดประเดิมสนามในเกมบุกไปตีเสมอ ฟูแล่ม 2-2� แต่ก็โดนไล่ออกในเกมต่อมาที่ทีมเปิดบ้านเจ๊ากับ คริสตัล พาเลซ 1-1 กระทั่งติดโทษแบนสามนัด
��������� ขณะเดียวกัน ในเกมล่าสุดที่ หงส์แดง เปิดบ้านพิชิต เรนเจอร์ส ได้ 2-0 ในศึก แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กองหน้าทีมชาติ อุรุกวัย ก็เพิ่มสกอร์ของตัวเองให้กับสโมสรไม่ได้แม้จะหลุดไปคลำเป้าถี่ยิบ
��������� จากผลงานที่ไม่สู้ดี นูนเญซ เผยเหตุผลหลักว่าภาษาเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้เขาไม่อาจสื่อสารกับ คล็อปป์ ได้โดยตรง
��������� "ผมไม่เข้าใจว่าเจ้านายพูดอะไร เราไม่ได้คุยกันมากนัก ผมไม่รู้ภาษาอังกฤษ และเขาไม่รู้ภาษสเปน" นูนเญซ เอ่ยเมื่อ 5 ต.ค.
��������� ด้วยเหตุนี้ สตาร์ละตินจึงต้องอาศัย เป๊ป ไลจ์นเดอร์ส กับ วิตอร์ มาโตส สองลูกมือของ� คล็อปป์ ซึ่งพูดภาษา โปรตุกีส ได้ช่วยถ่ายทอดคำพูดของเจ้านายให้เขารับรู้อีกทอดแม้จะไม่สมบูรณ์เท่ากับการได้คุยกับผู้จัดการทีมโดยตรงก็ตาม
��������� "พวกเขาแปลให้ผมตอนที่ คล็อปป์ คุยกับนักเตะทั้งทีม พวกเขานั่งข้างๆผม และอธิบายว่าผมต้องทำอะไร"
��������� "หากพวกเขาไม่ได้อธิบายให้ผมฟัง ผมก็ต้องเดินลงไปในสนามโดยไม่รู้เลยว่าผมต้องทำอะไรบ้าง"
��������� "แต่ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับโค้ชซึ่งสนับสนุนผม มอบความมั่นใจให้ผม และผมต้องตอบแทนเขาในสนาม"
��������� "ความจริงก็คือผมต้องปรับตัว และมันยากนิดหน่อย แต่ผมเชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไป และผมได้ซ้อมกับทีมมากขึ้น ผมจะปรับตัวได้ทีละน้อย"
��������� "ใบแดงเป็นช่วงเวลาที่แย่สำหรับผม ผมรู้ว่าก่อความผิดพลาดอย่างแรง และตอนนี้ผมตระหนักแล้วว่ามันจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก"
��������� "ผมต้องเยือกเย็นในระหว่างเกม ผมต้องพูดให้น้อยลง เราล้วนก่อความผิดพลาด และผมรู้ว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ผมต้องเรียนรู้"
��������� "สิ่งที่สำคัญคือผมต้องยิงประตูให้ทีม แต่ผมสามารถช่วยทีมในด้านอื่นได้เช่นกันหากว่าผมจะยิงประตูไม่ได้"
��������� "เมื่อประตูแรกมาถึง มันจะมีตามมาอีก ผมเคยผ่านช่วงเวลาแบบนี้มาก่อน และผมระส่ำเล็กน้อยเพราะสุดท้ายแล้วเราใช้ชีวิตด้วยการยิงประตู"
��������� "ผมต้องเยือกเย็น โค้ชสนับสนุนผมเสมอ เพื่อนร่วมทีมสนับสนุนผมตลอดเวลา ผมจะพยายามช่วยทีมเสมอด้วยการยิงประตู หรือหากไม่มีประตู ผมจะพยายามช่วยอย่างดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้"