��������� โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หัวหอกทีม ลิเวอร์พูล แสดงความมีน้ำใจอีกตามเคยเมื่อล่าสุดควักกระเป๋า 3 ล้านเหรียญอียิปต์มอบให้กับบ้านเกิดเพื่อช่วยสร้างโบสถ์ขึ้นมาใหม่หลังเกิดเหตุไฟไหม้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 41 ศพ
��������� ซาลาห์ สตาร์ทีม หงส์แดง ตัดสินใจยื่นมือช่วยเหลือบ้านเกิดอีกครั้งหลังเกิดเหตุไฟไหม้โบสถ์ อาบู ซิฟิน ในเมือง กิซ่า ซึ่งมีคริสตศาสนิกชนร่วมพิธีมากถึง 1,000 คน และเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากโดย ซีเอ็นเอ็น ระบุว่าในจำนวนนี้เป็นเด็กอย่างน้อย 18 ศพด้วยเชื่อว่าน่าจะเป็นผลมาจากไฟฟ้าลัดวงจร
��������� ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว อับเดล ฟัตตาห์ อัล ซีซี่ ประธานาธิบดี อียิปต์ ได้แถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้ประสบเหตุ และสั่งให้กองทัพสร้างโบสถ์ขึ้นมาใหม่ กระทั่งมาได้ ซาลาห์ ช่วยบริจาคเงินเป็นจำนวน 3 ล้านเหรียญอียิปต์ (ราว 5.5 ล้านบาท) ตามที่ ออน ไทม์ สปอร์ตส์ สื่อเมืองมัมมี่เผย
��������� ทั้งนี้ ซาลาห์ ได้ชื่อว่าเป็นพ่อค้าแข้งที่บริจาคเงินช่วยเหลือเรื่องต่างๆอยู่เป็นประจำโดยในปี 2022 ซันเดย์ ไทม์ส เผยว่าดาวยิงทีม เร้ด แมชีน รั้งอันดับแปดของผู้ที่มีน้ำใจมากที่สุดในยูเค อีกทั้งเมื่อไม่นานมานี้สื่อเจ้าดังกล่าวคาดการณ์ว่าเขาบริจาคเงินไปแล้วกว่า 2.5 ล้านปอนด์ (ราว 107 ล้านบาท) ซึ่งเทียบได้เป็น 6% จากความมั่งคั่ง 41 ล้านปอนด์ (ราว 1,769 ล้านบาท)ของเขา
��������� มีการเปิดเผยเพิ่มว่า คิง ออฟ อียิปต์ บริจาคเงินครั้งที่มากที่สุดในปี 2019 ซึ่งเขามอบเงิน 2.4 ล้านปอนด์ (ราว 103 ล้านบาท) ให้กับสถาบันมะเร็งแห่งอียิปต์ซึ่งอาคารได้รับความเสียหายหลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดด้วยคาร์บอมบ์
��������� เท่านั้นไม่พอ ซาลาห์ ซึ่งเกิดในเมือง นากริก ยังมอบเงินให้ภูมิลำเนานำไปสร้างโรงพยาบาล , โรงเรียน ,ศูนย์เยาวชน และหน่วยรถกู้ชีพ ตลอดจนมอบที่ดินอีกห้าเอเคอร์ติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียให้ชาวเมืองได้มีน้ำสะอาดได้ใช้ด้วยซึ่งรวมแล้วเป็นเงินเกินกว่า 400,000 ปอนด์ (ราว 17.2 ล้านบาท)
��������� ขณะเดียวกัน กองหน้าวัย 30 ปีเคยบริจาคเงิน 26,612 ปอนด์ (ราว 1.1 ล้านบาท) ให้กับสมาคมอดีตนักเตะอียิปต์ด้วยเพื่อช่วยเหลือพวกเขาหลังจากรีไทร์ และต้องมีชีวิตที่ยากลำบาก