������ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ยันไม่เคยคิดเรื่องการแก้แค้น เรอัล มาดริด ที่เคยทำให้ช้ำใจในเกมนัดชิงโทรฟี่ "บิ๊กเอียร์" เมื่อ 4 ปีก่อน ชี้แนวคิดเรื่องการแก้แค้นไม่ดีเอาซะเลย แต่เข้าใจสิ่งที่ โม ซาลาห์ พูด หลังเตรียมนำ "หงส์แดง" ดวล "ราชันชุดขาว" ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส วันเสาร์ที่ 28 พ.ค.นี้
��� เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ยืนยันการแก้แค้นจากความพ่ายแพ้ เรอัล มาดริด ในเกมนัดชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2018 ไม่ได้อยู่ในความคิดของเขาแม้แต่นิดเดียว
��� ในแมตช์ดังกล่าว "หงส์แดง" ต้องเสีย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไปตั้งแต่ช่วงกลางครึ่งแรก ขณะที่ ลอริส คาริอุส นายทวารชาวเยอรมัน ทำเรื่องงามหน้าเล่นผิดพลาดจนเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทีมต้องพ่าย "ราชันชุดขาว" ที่กรุงเคียฟ เมื่อ 4 ปีก่อน และทำให้ เรอัล ผงาดคว้าโทรฟี่ "บิ๊กเอียร์" 3 ซีซั่นติดต่อกัน
��� ก่อนหน้านี้ ซาลาห์ เคยออกมาประกาศก่อนเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมว่าเขาอยากแก้แค้น แชมป์ลา ลีกา ประจำฤดูกาลนี้ หลังได้รับบาดเจ็บหนักจนต้องออกจากสนามด้วยน้ำมือของ เซร์คิโอ รามอส
��� อย่างไรก็ตาม นายใหญ่ชาวเยอรมัน ยืนยันว่าการแก้แค้นไม่ใช่แนวคิดที่ดีเอาซะเลย และเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องที่จะทำแบบนั้น แม้จะเข้าใจ ซาลาห์ ที่ให้สัมภาษณ์แบบนั้น
��� จากคำถามที่ว่าเขารู้สึกมีแรงกระตุ้นพิเศษไหมในการที่จะเล่นนัดชิงที่กรุงปารีส หลังเคยเจ็บปวดเมื่อปี 2018 คล็อปป์ กล่าวว่า "ไม่เลย แม้มันเป็นค่ำคืนที่เลวร้ายสำหรับเราในปี 2018 ที่จะทำใจได้ สถานการณ์ต่าง ๆ, แนวทางที่เราเสียประตู, โม บาดเจ็บ"
��� "เราเดินทางไปที่นั่นเหมือนกับรถสามล้อคันเล็กๆ หลังจบฤดูกาลที่แสนยาวนาน นักเตะกลับมาแค่ทันเวลาเพื่อลงเล่นเกมนัดชิง และเราไม่สามารถหาใครมาทดแทน โม ได้ นั่นเป็นเรื่องราวเกมนัดชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก ในครั้งนั้น แต่ผมไม่เชื่อเรื่องการแก้แค้น"
��� "ผมไม่คิดว่าคุณจะได้ยินเรื่องการแก้แค้นเป็นแนวคิดที่สุดยอด ผมเข้าใจเรื่องนี้ แต่ผมไม่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่จะทำ ผมเข้าใจสิ่งที่ โม พูดว่าเขาอยากทำให้มันถูกต้อง ผมก็เช่นกัน แต่ในเยอรมนีเราจะพูดกับคุณว่าจะมีครั้งที่สองในชีวิตเสมอ"
��� "นั่นเหมือนดูเหมือนเป็นการขู่มากกว่าสิ่งที่มีอยู่จริง มันก็เหมือนกับการพยายามทำตัวให้ดีขึ้นกว่าครั้งแรก เพราะถ้าคุณได้พบกันอีกครั้ง คุณจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง ไม่มีอะไรทั้งนั้นระหว่างผมกับเรา และ เรอัล มาดริด มันเป็นเพียงเกมฟุตบอลที่ยกระดับสูงขึ้น" คล็อปป์ ร่ายยาว