���� พอล เมอร์สัน อดีตกองกลางทีม อาร์เซน่อล ออกโรงยัน แมนฯ ซิตี้ ไม่มีความจำเป็นต้องอิจฉาตาร้อน ลิเวอร์พูล หากว่าสุดท้ายแล้ว เรือใบสีฟ้า จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้แค่รายการเดียวในซีซั่นนี้ ขณะที่ หงส์แดง ผงาดคว้าแชมป์ได้สามรายการ
��� ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2021/22 จะปิดฉากรูดม่านอวสานในวันอาทิตย์นี้ (22 พ.ค.) โดย แมนฯ ซิตี้ จะป้องกันแชมป์ได้สำเร็จหากเอาชนะ แอสตัน วิลล่า ได้ในเกมที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม
��� ถึงกระนั้น ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะพลาดไม่ได้เด็ดขาดเนื่องจากมีแต้มนำ ลิเวอร์พูล แค่แต้มเดียวเท่านั้นโดยในเกมปิดซีซั่น ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะได้เล่นในรังของตัวเองเช่นกันต้อนรับการมาเยือนของ วูล์ฟส์
��� นอกจากยังมีลุ้นซิวแชมป์ พรีเมียร์ลีก แล้ว หงส์แดง ซึ่งได้แชมป์ไปแล้วสองรายการทั้ง คาราบาวคัพ และ เอฟเอคัพ มีโอกาสสร้างชื่อคว้าแชมป์ได้ทั้งสี่รายการเป็นทีมแรกของอังกฤษด้วยเนื่องจากพวกเขารอเตะกับ เรอัล มาดริด ในเกมชิงชนะเลิศถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก วันที่ 28 พ.ค.
��� ต่อสถานการณ์การลุ้นคว้าความสำเร็จระหว่าง แมนฯ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล เมอร์สัน ตำนานทีม ปืนใหญ่ จัดแจงแสดงมุมมองว่าในกรณีที่ แมนฯ ซิตี้ ไม่พลาดซะเอง และคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ในวันสุดท้าย ขณะที่ ลิเวอร์พูล คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ฟุตบอลถ้วยได้สำเร็จ กวาร์ดิโอล่า ก็ไม่มีอะไรให้ต้องอิจฉา คล็อปป์ เนื่องจากการคว้าแชมป์ลีกต้องอาศัยการโลสร้างผลงานโชว์ฟอร์มที่ดีอย่างต่อเนื่องตลอด 38 นัด ต่างไปจากการคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยแต่ละใบที่ลงสนามเพียงไม่กี่นัดเท่านั้น
��� "เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะยังเป็นผู้จัดการทีมแห่งปีหาก แมนฯ ซิตี้ ได้แชมป์ลีก และตอนนี้มันยากกว่าตอนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำสำเร็จ" เมอร์สัน ระบุเมื่อ 21 พ.ค.
��� "พรีเมียร์ลีก คือที่สุด มันเป็นการแข่งขัน 38 นัดที่ยากที่สุดในโลก หากคุณได้แชมป์ คุณคือที่สุด เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำงานได้อย่างเหลือเชื่อที่ ลิเวอร์พูล ในซีซั่นนี้ แต่หากเขาไม่ได้แชมป์ลีก เขาก็ไม่ใช่ผู้จัดการทีมแห่งปีสำหรับผม"
��� "ถ้าคุณคิดว่า ซิตี้ ควรผิดหวังหากพวกเขาได้แชมป์ลีกรายการเดียว และ ลิเวอร์พูล ได้สามแชมป์ คุณคิดผิด ผมไม่มองอย่างนั้นเลย"
��� ยิ่งไปกว่านั้น ต่อการเหมาคว้าสองแชมป์ฟุตบอลถ้วยในประเทศของ ลิเวอร์พูล กูรูคนดังชี้ชัดด้วยว่าทีมของ คล็อปป์ ไม่ได้ชนะในเกมเนื่องจากเสมอกับ เชลซี ทั้งสองรายการ และต้องอาศัยการดวลลูกโทษชี้ขาด
��� "ไม่ต้องนับรวม แชมเปี้ยนส์ลีก เช่นกัน มันเป็นแค่เรื่องของอีโก้เท่านั้น คุณสามารถแพ้มากกว่าใน พรีเมียร์ลีก ตลอดทั้งซีซั่น และคุณยังคว้าแชมป์ได้!"