��� ติอาโก้ อัลกันตาร่า เพลย์เมคเกอร์ทีม ลิเวอร์พูล ลุ้นก้าวไปเป็นตำนานของศึกลูกหนัง ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์หากพา 'หงส์แดง' เอาชนะเรอัล มาดริด ในเกมนัดชิงชนะเลิศในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้ได้สำเร็จ ซึ่งจะทำให้เขาได้แชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 3
��� ลิเวอร์พูลที่ผ่าน บียาร์เรอัล มาได้ในรอบรองชนะเลิศตีตั๋วเข้าไปรอเล่นนัดชิงชนะเลิศฟุตบอล แชมเปี้ยนส์ลีก กับ เรอัล มาดริด แชมป์ ลา ลีกา ที่เอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ในวันที่ 28 พ.ค.ที่ปารีส
��� ต่อความสำเร็จของ หงส์แดง ติอาโก้ มีโอกาสสร้างชื่อเป็นตำนานของศึก แชมเปี้ยนส์ลีก ได้เช่นกันหากสามารถพาทีมจากเมืองผู้ดีชูโทรฟี่บิ๊กเอียร์ในซีซั่นนี้ได้
���
��� มีการเปิดเผยว่าหากกองกลางสแปนิช-บราซิลเลี่ยนคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก กับถิ่น แอนฟิลด์ ได้ เขาจะได้แชมป์รายการดังกล่าวกับสามสโมสรหลังเคยได้แชมป์กับ บาร์ซ่า ในซีซั่น 2010/11 และ บาเยิร์น ในซีซั่น 2019/20 ซึ่งจะทำให้เขาเป็นพ่อค้าแข้งรายที่สองที่ทำสำเร็จต่อจาก คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติฮอลแลนด์ซึ่งได้แชมป์ใบนี้กับสามสโมสรเป็นคนแรกกับ อาแจ็กซ์ ในซีซั่น 1994/95 ,เรอัล มาดริด ซีซั่น 1997/98 และ เอซี มิลาน ซีซั่น 2002/30 และ 2006/07
��� ด้าน ซามูเอล เอโต้ อดีตกองหน้าแคเมอรูนได้แชมป์หูใหญ่กับสามสโมสรเช่นกันกับ เรอัล มาดริด ซีซั่น 1999/00 ,บาร์ซ่า ซีซั่น 2005/06 ,2008/09 และ อินเตอร์ มิลาน ซีซั่น 2009/10 หากแต่เขาไม่ได้ลงเล่นเลยแม้แต่นาทีเดียวสมัยได้แชมป์กับ ราชันชุดขาว เนื่องจากอยู่ในช่วงย้ายไปเล่นให้ เรอัล มายอร์ก้า แบบยืมตัว