����� ลิเวอร์พูล สร้างสถิติเป็นทีมแรกในอังกฤษที่ลงเล่นทุกนานทีจากการแข่งขันทุกรายการภายในซีซั่นเดียว หลังจากพวกเขาทะลุเข้าไปลุยนัดชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยก่อนหน้านี้เคย เข้าชิงคาราบาว คัพ ตามด้วยต้องลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่เหลืออยู่ รวมทั้งรอบชิง เอฟเอ คัพ
��� "เดอะ เร้ดส์" สร้างผลงานดีมีคุณภาพในเกมพบ บียาร์เรอัล ในเกม 2 เมื่อพวกเขาตามหลัง 0-2 แต่สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาชนะ 3-2 ทำให้สกอร์รวม 2 แมตช์ ลิเวอร์พูล ชนะ 5-2 ได้ผ่านเข้าไปเล่นนัดชิงที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
��� สำหรับการทะลุเข้าไปเล่นรอบชิงชนะเลิศ ถ้วยใบโตยุโรป ทำให้ทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ กลายเป็นสโมสรจากประเทศอังกฤษทีมแรกที่ลงสนามทุกนาทีจาก การแข่งขันทุกรายการภายในซีซั่นเดียว
��� "หงส์แดง" มีลุ้นสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ 4 รายการ โดยพวกเขามีคิวเตรียมเผชิญหน้ากับ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ในเกมรอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ขณะ เดียวกันก็ยังได้ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เนื่องจากตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพียงแต้มเดียวเท่านั้น โดยก่อนหน้านี้พวกเขาเพิ่งจะคว้าแชมป์คาราบาว คัพ
��� ตบท้ายด้วยการเตรียมเล่นนัดชิงโทรฟี่ถ้วย "บิ๊กเอียร์" ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่สถิติเดียวที่ ลิเวอร์พูล สร้างเอาไว้ เพราะการยิงสามประตู ในเกมเยือน บียาร์เรอัล ทำให้พวกเขาทำลายสถิติสโมสรด้วยการยิงประตูมากที่สุดในฤดูกาลเดียว
��� ปัจจุบัน ลิเวอร์พูล ตะบันไปแล้ว 139 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ และพวกเขายังเหลืออีก 6 แมตช์ให้ลงสนามซึ่งแน่นอนว่ามีโอกาสที่จะขยายสถิติออกไปอีก� โดยก่อนหน้านี้ซีซั่นที่ดีที่สุดของพวกเขาในเรื่องการยิงประตูเกิดขึ้นในฤดูกาล 1985/1986 เมื่อ "หงส์แดง" ตะบันไป 138 ประตู
��� นอกจากนี้ ยอดทีมแห่งถิ่นแอนฟิลด์ ยังเป็นสโมสรแรกในเกาะอังกฤษ ที่ได้ลงเล่นเกมนัดชิงชนะเลิศในรายการระดับเมเจอร์ ได้แก่ แชมเปี้ยนส์ ลีก, เอฟเอ คัพ และ� คาราบาว คัพ
��� ขณะเดียวกันการผ่านเข้าไปเล่นรอบชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 10 ทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่ 4 ที่ได้เข้าชิงยูโรเปี้ยน คัพ (แชมเปี้ยนส์ ลีก) มากที่สุดตามหลัง เรอัล� มาดริด (16 สมัย), เอซี มิลาน (11 สมัย) และ บาเยิร์น มิวนิค (11 สมัย)
��� ในส่วนของ คล็อปป์ ยังสร้างสถิติในการเป็นผู้จัดการทีมที่นำสโมสรเข้าชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก มากที่สุด 4 สมัย (ลิเวอร์พูล 3 สมัย, ดอร์ทมุนด์ 1 สมัย) เทียบเท่า มา ร์เซลโล่ ลิปปี้, เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ คาร์โล อันเชลอตติ