������ ดีลเทคโอเวอร์ เชลซี กำลังอยู่ในสภาพที่สุ่มเสี่ยงต่อการล้มเหลว หลังจาก โรมัน อบราโมวิช ขอให้มีการคืนเงินที่เขาเคยปล่อยให้ทีมกู้ยืม ซึ่งทางภาครัฐของสหราชอาณาจักรไม่เห็นด้วย โดยในกรณีที่ร้ายแรงที่สุดนั้นมันก็อาจจะทำให้ เชลซี ถูกขับออกจากลีกในซีซั่นหน้าได้เลย ตามรายงานของ เดอะ ซัน สื่อของอังกฤษ
��� การเทคโอเวอร์ เชลซี อาจล้มเหลว หลังจากที่ โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย แสดงความต้องการให้มีการคืนเงินที่เขาเคยให้สโมสรกู้ยืม ตามการเปิดเผยของ เดอะ ซัน สื่อของประเทศอังกฤษ
��� "สิงโตน้ำเงินคราม" จำเป็นต้องหาเจ้าของรายใหม่ภายหลัง อบราโมวิช โดนรัฐบาลของสหราชอาณาจักรคว่ำบาตรจากการที่ถูกมองว่าสนิทสนมกับ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของ รัสเซีย โดยที่ผ่านมา ปูติน ถูกหลายฝ่ายตำหนิอย่างหนักจากการส่งกองทัพเข้ารุกราน ยูเครน ซึ่งการโดนคว่ำบาตรมันก็ส่งผลให้ทรัพย์สินของ อบราโมวิช มีสภาพเหมือนโดนภาครัฐยึดไปด้วย
��� ทั้งนี้ เดิมที อบราโมวิช แสดงเจตนารมณ์ว่าพร้อมจะขาย เชลซี โดยไม่คิดที่จะเอาผลประโยชน์ใดๆ เพื่อที่ทีมจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เดอะ ซัน ระบุว่า อบราโมวิช ขอให้มีการคืนเงินที่เขาเคยให้สโมสรกู้ยืมไปสำหรับการเป็นเครื่องมือในการลงทุนแบบครบทุกบาททุกสตางค์ด้วย ซึ่งจำนวนเงินที่ว่าก็สูงถึง 1.6 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 68,800 ล้านบาท) เลยทีเดียว โดยฝั่ง อบราโมวิช และ เชลซี มองว่าเงินส่วนดังกล่าวมันไม่ได้เข้าข่ายทำให้เกิดผลประโยชน์ตามที่ อบราโมวิช เคยลั่นวาจาเอาไว้ และมองว่าการคืนเงินเป็นหนึ่งในกระบวนการที่สำคัญสำหรับการขายทีม
��� อย่างไรก็ตาม กระทรวงวัฒนธรรม, สื่อ และกีฬา มองว่านี่เป็นการผิดคำสัญญา จนตัดสินใจระงับขั้นตอนต่างๆ เอาไว้ก่อน โดยกระทรวงดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีอำนาจตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการเลือกว่าจะยินยอมให้กลุ่มทุนอื่นๆ เข้ามาเป็นเจ้าของรายใหม่ของ เชลซี หรือไม่
��� ถ้าหาก อบราโมวิช ยังยืนกรานที่จะขอเงินจำนวนดังกล่าวคืน มันก็มีโอกาสที่ดีลต่างๆ จะโดนบล็อก ซึ่งสุดท้ายแล้วหากการเจรจามันล่มลง เชลซี ก็มีโอกาสที่จะถูกขับออกจาก พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลหน้าได้เลย โดยเดิมทีเชื่อกันว่า ท็อดด์ โบห์ลี่ เศรษฐีจากสหรัฐอเมริกาใกล้ที่จะเทคโอเวอร์ เชลซี ได้แล้ว