���� "หงส์แดง" เสียรังวัดนิดหน่อยหลังโดน เบนฟิก้า รัวท้ายเกมไล่ตีเสมอจบ 3-3 นัดนี้ ฟีร์มีโน่ เหมาคนเดียวสองเม็ด ส่งให้ ลิเวอร์พูล เข้ารอบตัดเชือกด้วยสกอร์รวม 6-4 เข้าไปพบกับ บียาร์เรอัล ซึ่งนับเป็นหนที่ 3 ในรอบ 5 ซีซั่นหลังที่ทะลุเข้ามาตัดเชือกได้ ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
��� ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง เมื่อวันพุธที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล กลับมาเล่นในแอนฟิลด์ รับมือ เบนฟิก้า โดยเกมแรก "หงส์แดง" บุกไปเอาชนะมาได้ 3-1
��� เจอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนทีมถึง 7 ตำแหน่งจากเกมที่บุกเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมพรีเมียร์ลีกมาล่าสุด เพื่อพักไว้ดวลกับ "เรือใบสีฟ้า" อีกหนในศึกเอฟเอ คัพ รอบรองฯวันเสาร์นี้ โดยส่งทั้ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยืนล่าตาข่ายร่วมกับ ดีโอโก้ โชต้า และหลุยส์ ดิอาซ� ส่วนทางฝั่ง เบนฟิก้า มีตัวความหวังอย่าง ดาร์วิน นูนเญซ ดาวยิงตัวเก่ง
��� เปิดจากครึ่งแรก นาที 13 เบนฟิก้า หวิดได้ลุ้นขึ้นนำจากบอลสวนกลับขึ้นมาถึง เอแวร์ตอน ตะบันด้วยขวานอกกรอบ บอลพุ่งถากเสาไกลออกไปแบบได้เสียว
��� นาที 21 "เดอะ ค็อป" ได้เฮกันลั่นแอนฟิลด์หลัง ลิเวอร์พูล ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ คอสตาส ซิมิคาส เปิดบอลโค้งมาให้ อิบราฮิมา โกนาเต้ โขกบอลตกพื้นเบียดเสาเข้าไปอย่างเด็ดขาด
��� อีกสองนาทีถัดมา เอแวร์ตอน จ่ายทะลุให้ ดาร์วิน นูนเญซ หลุดเข้าไปชิพบอลเข้าไปตุงตาข่ายแต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน
��� นาที 26 หลุยส์ ดิอาซ กระชากลากเลื้อยเข้าไปซัดด้วยซ้ายนอกกรอบบอลพุ่งตรงกรอบก่อนจะโดน โอดิสเซอัส วลาโชดิมอส นายด่านเหยี่ยวลิสบอนเหินปัดออกไปหวุดหวิด
��� นาที 32 เบนฟิก้า มาไล่ตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ จากจังหวะที่ ดิโอโก้ กอนซัลเวส แทงบอลไปแฉลบ เจมส์ มิลเนอร์ ก่อนถึง กอนชาโล่ รามอส หลุดเข้าไปซัดบอลผ่านอลีสซงเข้าไปตุงตาข่าย วีเออาร์ ยืนยันไม่ล้ำหน้า สกอร์รวมไล่มา 2-4
��� นาที 38 หงส์แดง ชวดได้เม็ดสองอย่างน่าเสียดายหลัง ฟีร์มีโน่ หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบก่อนใจกว้างเป็นแม่น้ำถวายพานไหลไปเสาไกลให้ ดิอาซ ที่กำลังจะกระทุ้งบอลเข้ากรอบอยู่แล้วแต่โดน อเล็กซ์ กริมัลโด้ แหย่ขาสกัดออกหลังไปหวุดหวิด
��� จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล เสมอกับ เบนฟิก้า 1-1
��� กลับมาเล่นในครึ่งหลัง นาที 55 หงส์แดง ขยับสกอร์หนีอีกครั้งเป็น 2-1 จากจังหวะที่ ดิอาซ จับบอลยาวก่อนไปถึง วลาโชดิมอส แต่นายด่านเหยี่ยวลิสบอนรับบอลพลาด กระนั้น ยาน แฟร์ต็องเกน ก็ยังเคลียร์ไม่ดีสกัดไปเข้าทาง โชต้า ทางด้านซ้ายก่อนที่มิดฟิลด์ฝอยทองจะครอสมาหน้าประตูให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดง่ายๆตุงตาข่าย ทำให้สกอร์รวมสองนัด ลิเวอร์พูล นำโด่ง 5-2
��� นาที 65 เสียงเชียร์ในแอนฟิลด์เฮลั่นอีก หลัง ซิมิคาส เปิดฟรีคิกด้วยซ้ายมาหน้าประตู โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ หนีตัวประกบวิ่งไปแปสวนตัว วลาโชดิมอส เข้าไปอย่างเฉียบขาด เป็นเม็ดที่สองในเกมนี้พร้อมมีลุ้นแฮตทริก ช่วยให้ ลิเวอร์พูล นำห่างเป็น 3-1 พร้อมสกอร์รวมหนีเบนฟิก้าไปแล้วถึง 6-2
��� นาที 73 เบนฟิก้า ไล่มาอีกครั้งเป็น 2-3 จากจังหวะที่ โรมัน ยาเรมชุค หลุดเดี่ยวเข้าไปแตะหลบ อลีสซง แล้วแปนิ่มเข้าไป แม้ว่าผู้ตัดสินจะเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน แต่วีเออาร์เช็กแล้วว่าไม่ล้ำหน้าทำให้ทีมเยือนมีสกอร์รวมไล่มาเป็น 3-6
��� นาที 82 แฟนเบนฟิก้ามาเฮอีกครั้งหลัง เอแวร์ตอน หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปก่อนจะปล่อยให้ ดาร์วิน นูนเญซ เอี่ยวตัวซัดผ่านตัวอลีสซงเข้าไปอย่างคมกริบ และแม้ว่าผู้ตัดสินจะเป่าล้ำหน้าก่อนแต่ วีเออาร์เช็กแล้วไม่ล้ำหน้าเนื่องจาก ชูเอา มาริโอ ยืนต่ำกว่า โกนาเต้ ทำให้ได้ประตูไล่ตีเสมอ 3-3 สกอร์รวมไล่มา 4-6
��� นาทีสุดท้าย ซาลาห์ โชว์พลิ้วล็อกหนีก่อนจ่ายไปเสาไกลให้ มาเน่ ยิงเข้าไปง่ายๆ แต่เป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน
��� จบเกม ลิเวอร์พูล เสมอกับ เบนฟิก้า 3-3 แต่สกอร์รวมสองนัดเข้ารอบรองชนะเลิศด้วยประตูรวม 6-4 เข้าไปพบกับ บียาร์เรอัล ซึ่งจะแข่งรอบตัดเชือกนัดแรกในวันที่ 26-27 เม.ย.นี้ ลิเวอร์พูล กับ แมนฯซิตี้ จะได้เล่นในบ้านก่อน ส่วนนัดสองจะแข่งขันในวันที่ 3-4 พ.ค. ผู้ชนะจะเข้าไปชิงชนะเลิศที่สังเวียน สต๊าด เดอ ฟรองซ์ ประเทศฝรั่งเศส วันที่ 28 พฤษภาคมนี้
��� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
��
��� ลิเวอร์พูล (4-3-3) :� อลิสซอน เบ็คเกอร์ - โจ โกเมซ, อิบราฮิมา โกนาเต้, โจแอล มาติป, คอสตาส ซิมิคาส - นาบี เกอิต้า, เจมส์ มิลเนอร์ (ติอาโก้ อัลกันตาร่า น.58) , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (ฟาบินโญ่ น.58) - ดีโอโก้ โชต้า (โมฮาเหม็ด ซาลาห์ น.57) , โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (ดิว็อก โอริกี น.90+1) , หลุยส์ ดิอาซ (ซาดิโอ มาเน่ น.66)
��� เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์�
��� เบนฟิก้า (4-4-2) : โอดิสเซอัส วลาโชดิมอส - กิลแบร์โต้ (กิล ดิอาซ น.90+1), นิโกลัส โอตาเมนดี้, ยาน แฟร์ต็องเกน, อเล็กซ์ กริมัลโด้ - ดิโอโก้ กอนซัลเวส (โรมัน ยาเรมชุค น.46), ยูเลียน ไวเกิ้ล, อเดล ทารับต์ (ชูเอา มาริโอ น.66), เอแวร์ตอน (อังเดร อัลเมด้า น.90+1) - กอนชาโล่ รามอส (เปาโล แบร์นาร์โด้ น.78), ดาร์วิน นูนเญซ
��� เทรนเนอร์ : เนลซอน เวริสซิโม่
��� ผู้ตัดสิน : เซอร์ดาร์ โกซูบูยุค (ฮอลแลนด์)