�������� "บิ๊กแมตช์" คั่วแชมป์ลีกจบด้วยการแบ่งแต้มหลัง "เรือใบสีฟ้า" ทะยานออกนำถึง 2 ครั้งแต่มาโดน ลิเวอร์พูล ไล่ตีเสมอ 2-2 โดยลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เก็บเพิ่มเป็น 74 คะแนนยึดจ่าฝูงทิ้ง "หงส์แดง" 1 แต้มเหมือนเดิม ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
�������� สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
��� "บิ๊กแมตช์" พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา ระหว่างจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดเอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของรองจ่าฝูง ลิเวอร์พูล นัดนี้หากทีมใดคว้าชัยได้มีโอกาสที่จะเป็นแชมป์สูง
��� เป๊ป กวาร์ดิโอล่า บอสใหญ่ทัพเรือใบ เกมนี้ส่ง กาเบรียล เชซุส ยืนหน้าเป้าโดยมีตัวปั้นเกมสุดจี๊ดอย่าง ฟิล โฟเด้น และราฮีม สเตอร์ลิง ขณะที่ "หงส์แดง" ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ คว้าชัย 5 นัดรวดมาทุกรายการ แถมสถิติเกมเยือนชนะมา 8 นัดติดทุกถ้วยอีกด้วย เกมนี้จัดเต็ม สามแนวรุกส่ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และดีโอโก้ โชต้า ที่ออกสตาร์ทตัวจริงก่อน หลุยส์ ดิอาซ
��� เปิดฉากมาแค่ 5 นาทีแรก เจ้าบ้าน "เรือใบสีฟ้า" ชิงขึ้นนำก่อนอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ได้ฟรีคิกก่อนที่ แบร์นาโด้ ซิลวา จะเล่นเร็วจ่ายให้ เควิน เดอ บรอยน์ ลากเข้ามาแล้วอัดด้วยซ้ายแฉลบ โจเอล มาติป บอลพุ่งไปชนเสาด้านในเข้าไปให้ แมนฯซิตี้ ขึ้นนำ 1-0
��� แต่นาทีที่ 13 ลิเวอร์พูล มาไล่ตีเสมอ 1-1 คืนได้สำเร็จ บอลเริ่มจาก แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน� ตักไปเสาไกลให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เติมมาแปะคืนเข้ากลางให้ ดีโอโก้ โชต้า ได้ยิงไม่ถึง 6 หลาแฉลบมือ อลิสซอน เข้าไป เป็นประตูที่ 15 ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้
��� นาที 25 เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกหลัง เควิน เดอ บรอยน์ วางฟรีคิกไปให้ โรดรี้ หลุดกับดักล้ำหน้าโขกเข้ากลาง จอห์น สโตนส์ พยายามพุ่งตามชาร์ทแต่ไม่ทันบอลหลุดหลังออกไปอย่างน่าเสียดาย
��� อีก 4 นาทีถัดมา กานเซโล่ หักบอลคืนมาให้ เควิน เดอ บรอยน์ ก่อนจับด้วยซ้ายแล้วอัดด้วยขวาบอลพุ่งถากเสาแรกออกไปแบบได้เสียว
��� กระทั่ง นาที 36 แมนซิตี้ ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 จากจังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม ชูเอา กานเซโล่ เปิดด้วยขวามาเสาไกลให้ กาเบรียล เชซุส อ้อมหลัง เทรนท์ หลุดเข้าไปแปผ่านตัว อลิสซอน เข้าไป
��� จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำ ลิเวอร์พูล 2-1
��� เปิดฉากครึ่งหลังเพียง 50 วินาที "หงส์แดง" ตามตีเสมอ 2-2 จากบอลทางฝั่งขวา จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ฝากมาหน้ากรอบ 18 หลาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดึงได้ช่องแทงเข้าเขตโทษข้ามไปเสาไกลถึง ซาดิโอ มาเน่ หลุดกับดักล้ำหน้าสอดมาซัดสวนตัว เอแดร์ซอน โมราเอส ตุงตาข่าย
��� นาทีที่ 52 ลิเวอร์พูล หวิดแซงนำ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เบิ้ลบอลออกขวาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดกับดักล้ำหน้าดีดไซค์ก้อยเข้าเขตโทษโค้งมาถึง ดีโอโก้ โชต้า เหยียดขาชาร์จไปติดเซฟ เอแดร์ซอน โมราเอส
��� 60 นาทีผ่าน "เรือใบสีฟ้า" ออกหมัดบ้างจากบอลยาวของ ชูเอา กานเซโล่ ทิ้งเข้าเขตโทษข้ามหัว แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน มาเข้าทาง กาเบรียล เชซุส โยกตัดเข้าในปั๊มได้ช่องซัดผ่าน อลิสซอน เบ็คเกอร์ ไปติดบล็อค เฟอร์จิล ฟาน ไดค์
��� 3 นาทีต่อมา เจ้าถิ่น หวิดทะยานออกนำ เควิน เดอ บรอยน์ แทงบอลออกขวาให้ ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงลอดขา อลิสซอน เบ็คเกอร์ ตุงตาข่ายเสียดายโดน วีเออาร์ จับล้ำหน้า
��� ต่อมานาทีที่ 70 จากจังหวะประสานงานหน้าเขตโทษ ซาดิโอ มาเน่ หักข้อยกออกขวาถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รับบอลในเขตโทษโยกเข้าในปั่นด้วยซ้ายแฉลบต้นขา อายเมริค ลาปอร์กต์ หลุดเสาไกลนิดเดียว
��� นาทีที่ 73 ราฮีม สเตอร์ลิง ชิงเหลี่ยมเก็บบอลไหลมาเข้าทาง เควิน เดอ บรอยน์ แทงเร็วออกขวาให้ กาเบรียล เชซุส หลุดเข้ามาในเขตโทษแต่จังหวะสุดท้ายเลือกตะบันยัดเสาแรกหลุดออกหลังอย่างน่าผิดหวัง
��� ท้ายเกม แมนฯ ซิตี้ มาได้เสียวส่งท้ายจากฟรีคิกระยะไกลของ ริยาด มาห์เรซ วิ่งมาปั่นด้วยซ้ายบอลโค้งข้ามกำแพงผ่านมือ อลิสซอน เบ็คเกอร์ โค้งหลุดเสาแรกออกไปนิดเดียว
��� ช่วงทดเจ็บ เจ้าถิ่น พลาดโอกาสเป็นจังหวะสวนกลับ เควิน เดอ บรอยน์ แหวกหนีขึ้นมาจ่ายแทยงออกขวาถึง ริยาด มาห์เรซ ดึงหนีแนวรับ ลิเวอร์พูล ยกข้ามหัว อลิสซอน เบ็คเกอร์ ข้ามคานเหลือเชื่อ
��� หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม แมนฯ ซิตี้ 2 ลิเวอร์พูล 2
�
��� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
��� แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, อายเมริค ลาปอร์กต์, ชูเอา กานเซโล่ - เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, แบร์นาโด้ ซิลวา - ราฮีม สเตอร์ลิง (ริยาด มาห์เรซ น.75), กาเบรียล เชซุส (แจ็ค กรีลิช น.83), ฟิล โฟเด้น
ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
��� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจเอล มาติป, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (นาบี เกอิต้า น.70), ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลคันตาร่า - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า (หลุยส์ ดิอาซ น.78), ซาดิโอ มาเน่ (โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ น.84)
��� ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
��� ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์