������ เกมพรีเมียร์ลีกนัดที่ 30 ลิเวอร์พูล ขยับแซง แมนฯ ซิตี้ ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงในรอบ 4 เดือน แม้จะเป็นการนำจ่าฝูงแค่ 42 นาทีก็ตาม หลังเปิดรังทุบ วัตฟอร์ด 2-0 จากประตูของ โชต้า และ ฟาบินโญ่ ที่กดจุดโทษปิดกล่อง��
��� ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 2 เมษายน 2565 ที่สนาม แอนฟิลด์ ระหว่าง ลิเวอร์พูล รองฝูง ที่ต้องการคว้า 3 แต้มเพื่อแซง แมนฯ ซิตี้ ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงชั่วคราว พบ วัตฟอร์ด ทีมอันดับ 18 ของตาราง
��� เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีการหมุนเวียนผู้เล่นบางตำแหน่งแนวรุกพัก ซาดิโอ มาเน่ ไว้ที่ม้านั่งสำรอง แล้วส่ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ลงมาเล่นร่วมกับ โม ซาลาห์ และ ดีโอโก้ โชต้า ส่วน เทรนต์ มีชื่อกลับมาอยู่ในม้านั่งสำรองเรียบร้อยแล้ว
��� ด้าน วัตฟอร์ด ของ รอย ฮ็อดจ์สัน เกมนี้มีการปรับทัพในแนวรุกดร็อป เอ็มมานูเอล เดนนิส และ โจชัว คิง ไว้ที่ม้านั่งสำรอง โดยใช้ อิสไมล่า ซาร์, คูโช่ และ ชูเอา เปโดร ประสานงานร่วมกัน
��� เปิดฉากมาไม่ถึงนาที ลิเวอร์พูล เปิดฉากบุกใส่ทันที และมาได้โอกาสทักทายครั้งแรกจากจังหวะที่ โม ซาลาห์ เก็บตก ได้ที่เสาไกลแล้วกดด้วยซ้ายบอลหลุดกรอบออกไป
��� หลังจากนั้น วัตฟอร์ด ได้โอกาสสวนมาบ้าง และเกือบขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 6 ซาเมียร์ เบิ้ลจากหน้าปากประตูบอลมาถึง อิสไมล่า ซาร์ ได้ตะบันด้วยขวาหน้าเขตโทษแบบไม่จับบอลข้ามคานไปนิดเดียว
��� นาที 12 วัตฟอร์ด ได้ลุ้นอีกหนจากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวา อิสไมล่า ซาร์ เปิดมาเข้าหัว คูโช่ สอดมาโหม่งที่เสาแรก แต่บอลยังตรงตัว อลิสซอน รับไว้ได้�
����
��� เกมรุกของ ลิเวอร์พูล ดูจะช็อตไปดื้อๆ และกลายเป็น วัตฟอร์ด ได้เปิดเกมบุกใส่มากขึ้น นาที 22 หวิดขึ้นนำอีกหน ยูราจ์ คุชก้า หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษไปยิงที่เสาแรก แต่ อลิสซอน ออกมาปิดมุมได้เร็วใช้เท้าเซฟออกไปได้��
��� อย่างไรก็ตาม นาที 23 ลิเวอร์พูล ได้โต้กลับมาทันควันและขึ้นนำ 1-0 จนได้ เมื่อ โจ โกเมซ เติมขึ้นมาเปิดจากกราบขวาเข้าเขตโทษให้ ดิโอโก้ โชต้า พุ่งโฉบตัดหน้า เบน ฟอสเตอร์ ส่งบอลตุงตาข่าย�
��� จากนั้นนาที 38 ลิเวอร์พูล เกือบได้เม็ดสองจากจังหวะต่อบอลสั้นกันที่หน้าเขตโทษแล้วเป็น มาติป ไขว้บอลไปที่ว่างให้ โชต้า ได้ซัดโล่งๆที่เสาไกล แต่ยังติดเซฟ ฟอสเตอร์
��� เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ วัตฟอร์ด 1-0
��� ครึ่งหลังเกมดำเนินมาถึงนาที 52 ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นจากลูกยิงหน้าเขตโทษของ โชต้า แต่บอลเหินข้ามคานไปไกล
��� นาที 56 "หงส์แดง" เกือบได้ลูกสองจากจังหวะเตะมุม โดยคราวนี้เป็น ฟานไดค์ ที่ได้โหม่งจ่อๆแต่บอลเหินข้ามคาน
��� วัตฟอร์ด ได้สวนกลับมาและเกือบตามตีเสมอในนาทีที่ 57 จากจังหวะที่ คูโช่ ตักบอลให้ ซาร์ หลุดเข้าเขตโทษ แล้วถวายพานให้ ชูเอา เปโดร ได้ซัดเน้นๆบอลพุ่งหลุดเสาไกลออกไปหวุดหวิด
��� นาที 59 ลิเวอร์พูล ได้ลูกฟรีคิกริมเส้นฝั่งขวา ติอาโก้ เปิดมาเข้าหัว โชต้า ได้โขกเต็มหัวบอลยังเหินข้ามคาน
��� นาที 62 เจ้าถิ่นใช้โควต้าเปลี่ยนตัวคนแรกส่ง ฟาบินโญ่ ลงมาแทน เคอร์ติส โจนส์�
��� ถัดมา นาที 66 ฟาบินโญ่ ตักบอลเข้าเขตโทษให้ ซาลาห์ ได้โหนโหม่งบอลไปตกใต้คาน
��� เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 88 คุชก้า ไปเจตนาทำฟาวล์ใส่ โชต้า ในเขตโทษ ผู้ตัดสินเช็ก VAR ก่อนจะย้อนกลับมาเป่าให้จุดโทษกับ ลิเวอร์พูล แล้วเป็น ฟาบินโญ่ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ทีมขึ้นนำ วัตฟอร์ด 2-0 ในนาทีที่ 89
��� เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูล ชนะ วัตฟอร์ด 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 72 แต้ม ทิ้ง "เรือใบสีฟ้า" สองคะแนน
���
�� รายชื่อผู้เล่นทื้งสองทีม
�� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - โจ โกเมซ, โจเอล มาติป, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เคอร์ติส โจนส์ (ฟาบินโญ่ น.62), ติอาโก้ อัลกานตาร่า (เจมส์ มิลเนอร์ น.90) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ซาดิโอ มาเน่ น.69), โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ดิโอโก้ โชต้า
�� วัตฟอร์ด (4-3-3) : เบน ฟอสเตอร์ - กิโก้ เฟเมเนีย, คริสติย็อง กาบาเซเล่, "ซาเมียร์" กาเอตาโน่ เดอ ซูซ่า ซานโต๊ส, ฮาสซาน กามาร่า - มุสซ่า ซิสโซโก้, อิมราน ลูซ่า (ทอม เคลฟเวอรี่ น.78), ยูราจ์ คุชก้า - อิสไมล่า ซาร์, คูโช่ (เอ็มมานูเอล เดนนิส น.78), ชูเอา เปโดร (โจชัว คิง น.78)