����� เคบียู สปอร์ต โพล เผยผลสำรวจมุมมองแฟนลูกหนังไทยในเกมคู่หยุดโลก ระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปะทะ ลิเวอร์พูล ซึ่งจะมีขึ้นที่ราชมังคลากีฬาสถาน 12 ก.ค.นี้ กระแสแรงสุดๆ ร้อยละ 89 ให้ความสนใจยันไม่พลาดชมเกมบิ๊กแมตช์แดงเดือด นอกเกาะอังกฤษรอบนี้ มองราคาบัตรเข้าชมในสภาวะโควิด-19 และเศรษฐกิจเวลานี้ ค่อนข้างสูง แต่ยังเชื่อหากการแข่งขันเกิดขึ้นจะสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวสิทธิประโยชน์ และแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทยในการเล่นกีฬา
�� จากการที่ภาคเอกชนเตรียมจัดการแข่งขันฟุตบอลรายการพิเศษ "THE MACT Bangkok Century Cup 2022" หรือ ศึกแดงเดือด ด้วยการเชิญ 2 สโมสรดังจากประเทศอังกฤษ ประกอบด้วย สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และสโมสรลิเวอร์พูล มาแข่งขันที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2565 นั้น เพื่อเป็นการสะท้อนมุมมองและส่งเสริมการมีส่วนของประชาชนที่เกี่ยวกับการจัดการแข่งขันในรายการดังกล่าว เคบียู สปอร์ต โพล ( KBU SPORT POLL) โดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต จึงสำรวจคิดเห็นเรื่อง "ปรากฎการณ์ศึกแดงเดือดกับมุมมองของแฟนลูกหนัง"
��� สำหรับการสำรวจดังกล่าวดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ระหว่างวันที่ 26-28 กุมภาพันธ์ 2565 โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชนทั่วไปทุกสาขาอาชีพ ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,383 คน โดยแบ่งเป็นเพศชาย 825 คน คิดเป็น ร้อยละ 59.66� เพศหญิง 558 คนคิดเป็น ร้อยละ 40.34 ซึ่งผลการวิเคราะห์ในภาพรวมพบว่า ความสนใจที่จะติดตามการแข่งขัน ส่วนใหญ่ร้อยละ 89.93 สนใจ รองลงมาร้อยละ 7.46 ยังไม่ตัดสินใจ และร้อยละ 2.61 ไม่สนใจ�
��� ส่วนช่องทางที่จะติดตามการแข่งขัน ส่วนใหญ่ร้อยละ 41.11 ระบุว่าจะติดตามผ่านการถ่ายทอดสดทางวิทยุโทรทัศน์ รองลงมาร้อยละ 30.47 ติดตามผ่านทางโซเชียลมีเดีย และร้อยละ 28.42 ติดตามที่สนามการแข่งขัน และอื่นๆร้อยละ 3.01 ส่วนคำถามถึงความเหมาะสมของการกำหนดราคาบัตรเข้าชมกับภาพเศรษฐกิจสังคมไทย ส่วนใหญ่ร้อยละ 37.81 ไม่เหมาะสม รองลงมาร้อยละ 35.93 เหมาะสม และร้อยละ 26.26 ไม่แสดงความคิดเห็น
��� ประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับจากการจัดการแข่งขัน ส่วนใหญ่ร้อยละ 29.13 มองว่าสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวและสิทธิประโยชน์ รองลงมาร้อยละ 25.29 การเผยแพร่ชื่อเสียงของประเทศ ร้อยละ 16.13� การสร้างแรงบันดาลใจในมิติของกีฬาฟุตบอลให้กับเด็กและเยาวชน ร้อยละ 14.08 การสร้างความสุขและความสนใจในมิติของกีฬาให้กับประชาชน ร้อยละ 12.57 การยอมรับจากนานาประเทศ และอื่นๆร้อยละ 2.80
���� ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เผยว่า จากผลการสำรวจดังกล่าว จะเห็นได้ว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่สนใจที่จะติดตามการแข่งขันรายการดังกล่าวทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่าการที่สองสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการลูกหนังระดับโลกจะออกมาดวลแข้งกันนอกเกาะอังกฤษคงจะไม่ง่ายนัก และประเด็นที่น่าสนใจคือเรื่องของความเหมาะสมในการกำหนดราคาบัตรเข้าชมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมไทยนั้นพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีมุมมองที่ใกล้เคียงกันถึงแม้ว่าจะเอนเอียงไปในทางที่ไม่เหมาะสมอยู่บ้างก็ตาม
��� ผศ.ดร.รัฐพงศ์ เผยอีกว่า ต่อกรณีดังกล่าว หากวิเคราะห์จากสภาพเศรษฐกิจของประเทศตลอดจนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการเข้าถึงด้านการสื่อสารในยุคดิจิทัลด้วยแล้วคงจะชี้ให้เห็นว่ารายได้ของประชน ณ ปัจจุบันอาจจะยังมีไม่มากพอสำหรับการซื้อตั๋วเข้าไปชมที่สนาม แต่ในทางกลับกันส่วนใหญ่ต่างมุ่งที่จะติดตามชมการแข่งขันผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์และโซเชียลมีเดียตามลำดับ
��� "แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมองในมิติของการลงทุนที่ภาคเอกชนทุ่มลงไปนั้นต้องยอมรับว่าประโยชน์ต่างๆที่ประเทศไทยจะได้จากการจัดศึกแดงเดือดในครั้งนี้กลุ่มตัวอย่างได้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าประโยชน์จะเกิดกับประเทศและสังคมอย่างเต็มๆในหลากหลายมิติไม่ว่าจะเป็นมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจที่มาจากการท่องเที่ยวหรือชื่อเสียงของประเทศและอื่นๆที่จะตามมาอีกมากมาย"
��� "ดังนั้นเพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนอีเวนต์กีฬาระดับโลกของประเทศโดยเฉพาะรายการดังกล่าวซึ่งไม่ง่ายนักที่จะจัดได้บ่อยครั้งหากรัฐบาลหรือหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องจะจัดสรรงบประมาณบางส่วนที่สามารถดำเนินการได้เข้าไปสนับสนุนบ้างก็น่าจะเป็นประโยชน์กับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการสร้างขวัญกำลังใจให้กับภาคเอกชนที่มุ่งมั่นเพื่อสังคมและชื่อเสียงของประเทศ"