��� แฟนบอล ลิเวอร์พูล หัวใจพองโตไปตามๆกันเมื่อทีมรักมีโอกาสเร่งเครื่องแซงหน้า แมนฯ ซิตี้ เข้าป้ายคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ไปครองด้วยจำนวนผลต่างประตูได้เสียที่เหนือกว่า
��� จากความปราชัยของ เรือใบสีฟ้า ที่มีต่อ สเปอร์ส คารังตัวเองด้วยสกอร์ 3-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาส่งผลให้สถานการณ์ในอันดับตารางคะนนเพิ่มความสนใจมากขึ้นไปอีกเนื่องจาก ไก่เดือยทอง มอบโอกาสการลุ้นคว้าแชมป์ให้กับ หงส์แดง เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
��� ถึงขณะนี้ ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เก็บไปแล้ว 57 แต้มจากการลงเล่น 25 นัดหลังเปิดบ้านยิงประตูแซงชนะ นอริช ได้ 3-2 ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ยังหยุดที่ 63 แต้ม แต่ลงเล่นมากกว่าหนึ่งนัด (26 นัด) โดยทั้งสองทีมมีช่องว่างของคะแนนลดลงเหลือ 6 แต้มแล้ว
��� ด้วยเหตุนี้ ความเกรงกริ่ง หงส์แดง ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่มองว่าทีมดังแห่งเมอร์ซีย์ไซด์เป็นขวากหนามสำคัญของพวกเขาต่อการคว้าแชมป์ทั้ง พรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนส์ลีก ในซีซั่นนี้กำลังส่อแววมีโอกาสเป็นจริงเช่นกันเนื่องจากทั้งสองทีมยังเหลือโปรแกรมดวลกันเองอีกหนึ่งนัดที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ในวันที่ 9 เม.ย.ซึ่งส่อเค้าว่าจะเป็นเกมตัดสินแชมป์ได้ไม่น้อย
��� อย่างไรก็ดี เร้ด แมชีน จำเป็นต้องชนะเกมที่ตกค้างของตัวเองให้ได้ก่อน และจากนั้นหากพวกเขาบุกไปพิชิต เรือใบสีฟ้า ได้อีกก็เท่ากับว่าทั้งสองทีมจะมีแต้มเท่ากัน แต่ด้วยเหตุที่ ลิเวอร์พูล มีผลต่างประตูได้เสียที่น้อยกว่า พวกเขาจึงจำเป็นต้องสอยตาข่ายฝ่ายตรงข้ามจากนี้ไปให้มากขึ้นสถานเดียว และมากกว่าทีมจ่าฝูงให้ได้หากต้องการได้ชูโทรฟี่ พรีเมียร์ลีก แทนทีมเต็งแชมป์อย่าง แมนฯ ซิตี้ ในท้ายที่สุดด้วยผลต่างประตูได้เสียที่เหนือกว่า
��� สำหรับผลต่างประตูได้เสียจนถึงขณะนี้ เรือใบสีฟ้า ยิงได้ 63 ประตู และเสีย 17 ประตู (+46) ขณะที่ หงส์แดง ยิงได้ 64 ประตู และเสีย 20 ประตู (+44) ซึ่งเท่ากับว่าทีมของ คล็อปป์ เป็นรองแค่สองประตูเท่านั้น
��� ทั้งนี้ โปรแกรมของทั้งสองทีมในลีกนัดต่อๆ ไปก่อนถึงคิวห้ำหั่นกันมีดังนี้
��� - แมนฯ ซิตี้
��� เอฟเวอร์ตัน (เยือน)
��� แมนฯ ยูไนเต็ด (เหย้า)
��� ไบรท์ตัน (เหย้า)
��� เบิร์นลีย์ (เยือน)
��� ลิเวอร์พูล (เหย้า)
��� - ลิเวอร์พูล
���� ลีดส์ (เหย้า)
��� เวสต์แฮม (เหย้า)
��� ไบรท์ตัน (เยือน)
��� อาร์เซน่อล (เยือน)
��� แมนฯ ยูไนเต็ด (เหย้า)
��� วัตฟอร์ด (เหย้า)
��� แมนฯ ซิตี้ (เยือน)