������ ลิเวอร์พูล ไม่พลาดบุกเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 3-1 โดยได้ ฟาบินโญ่ ที่มาซัดจุดโทษตอกฝาโลงในช่วงท้ายเกมส่ง "หงส์แดง" เก็บเพิ่มเป็น 48 คะแนนบีบช่องว่างจาก แมนฯ ซิตี้ จ่าฝูงเหลือ 9 แต้มแต่ยังเหลือเกมในมือมากกว่าอีกหนึ่งนัด ในศึกพรีเมียร์ลีก
��� ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม 2565 ที่สนามเซลเฮิร์สท์ พาร์ค ระหว่าง คริสตัล พาเลซ ทีมอันดับ 13 พบ ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูงของตาราง
��� ปาทริค วิเอร่า กุนซือคริสตัล พาเลซ พาทีมเสมอไบรท์ตัน 1-1 ในเกมล่าสุด ทำให้ไม่แพ้มา 2 เกมแล้ว โดยนัดนี้ 3 แนวรุกใช้ ไมเคิ่ล โอลิเซ่, อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ และ ฟิลิปเป้ มาเตต้า ลงล่าตาข่าย
��� ด้าน ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ พาทีมถล่มเบรนท์ฟอร์ดขาดลอย 3-0 ในเกมลีกล่าสุด เกมนี้ส่ง ดิโอโก้ โชต้า, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด แชมเบอร์เลน ผนึกกำลังร่วมกัน
��� เปิดฉากครึ่งแรกมา ลิเวอร์พุล เดินเกมบุกใส่ทันที และมาได้โอกาสลุ้นก่อนในนาทีที่ 5 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จ่ายย้อนมาที่หน้าเขตโทษให้ เคอร์ติส โจนส์ กึ่งยิงกึ่งผ่านแต่บอลแรงเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว
��� สองนาทีถัดมา ลิเวอร์พูล ลุ้นต่อเนื่อง โฌแอล มาติป เก็บบอลได้ที่แถวสองก่อนแตะต่อให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กดเน้นๆหน้าเขตโทษ บิเซนเต้ ไกวต้า ต้องอองแรงพุ่งปัดทิ้งออกมา
��� จนกระทั่งนาทีที่ 8 ความพยายามของ ลิเวอร์พูล ก็มาสัมฤทธิ์ผลขึ้นนำเร็ว 1-0 จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้าย โรเบิร์ตสัน เปิดมาเข้าหัว เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ โฉบมาโขกเน้นๆส่งบอลตุงตาข่าย
��� เกมรุกของ ลิเวอร์พูล ยังกระหน่ำมาเป็นพายุ นาที 12� โรเบิร์ตสัน ตักบอลไปที่เสาไกลให้ แชมเบอร์เลน สอดมายิงโล่งๆแต่บอลไปเข้าข้างตาข่าย
��� นาทีที่ 24 ลิเวอร์พูล หวิดได้ลูกสองจากจังหวะขึ้นเกมมาทางฝั่งซ้ายบอลมาถึง ฟีร์มีโน่ ในเขตโทษก่อนจะไหลย้อนให้ ฟาบินโญ่ วิ่งมากดด้วยขวาเน้นๆบอลข้ามคานไปนิดเดียวเท่านั้น
��� จากนั้นาที 32 สกอร์หนีห่างเป็น 2-0 จนได้เมื่อ โรเบิร์ตสัน ตักบอลไปที่เสาไกลให้ แชมเบอร์เลน จับก่อนหนึ่งจังหวะแล้วตั้งป้อมซัดด้วยซ้ายโล่งๆยัดเสาแรกไปแบบง่ายๆ����
��� พาเลซ นานจะได้สวนกลับมาบ้างและเกือบตามตีไข่แตกได้ในนาทีที่ 39 จากจังหวะที่ โฌแอล มาติป จ่ายบอลในแนวรับพลาดบอลไปเข้าทาง ไมเคิ่ล โอลิเซ่ ได้บอลในเขตโทษได้ซัดคนเดียวโล่งๆ แต่ยังติดเซฟ อลิสซง เบ็คเกอร์
��� จากนั้นนาที 41 พาเลซ ชวดได้ประตูอีกครั้ง ไมเคิ่ล โอลิเ แทงทะลุช่องให้ ฟิลิปเป้ มาเตต้า หลุดเดี่ยวมาซัดโล่งๆแต่ อลิสซง เบ็คเกอร์ ก็ยังเซฟช่วยทีมได้อีกครั้ง
��� ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล บุกนำ พาเลซ 2-0
��� ครึ่งหลังเล่นมาได้ 55 นาที กลายเป็น พาเลซ ที่ตามตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ แทงทะลุช่องให้ ฟิลิปเป้ มาเตต้า หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าเขตโทษ ก่อนจะไหลถวายพายต่อให้� อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ ยิงโล่งๆเข้าประตูไป
��� รูปเกมของเจ้าถิ่นในครึ่งหลังดูคักคักกว่าในครึ่งแรกอย่างเห็นได้ชัด นาที 58 เกือบจะตามตีเสมอจากจังหวะสอดมายิงนอกกรอบของ โยอาคิม อันเดอร์เซ่น บอลหลุดเสาแรกออกไปนิดเดียวเท่านั้น
��� ก่อนในนาทีที่ 60 เจอร์เก้น คล็อปป์ จะมีการปรับหมากเปลี่ยนตัวคนแรกส่ง ทาคูมิ มินามิโนะ ลงมาเล่นแทน อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด แชมเบอร์เลน
��� เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 83 พาเลซ เกือบตีเสมออีกครั้ง โยอาคิม อันเดอร์เซ่น วางบอลจากแนวรับมาให้ ไมเคิ่ล โอลิเซ่ ได้ซัดในเขตโทษบอลกำลังจะเสียบเสาไกล แต่ อลีสซง ยังปัดทิ้งออกไปได้อีก
��� ช่วงท้ายเกมนาที 86 ดิโอโก้ โชต้า ลากบอลเข้าเขตโทษก่อนจะโดน บิเซนเต้ ไหวต้า รวบล้มลงไป ผู้ตัดสินต้องย้อนไปเช็ก VAR ด้วยตัวเอง ก่อนจะกลับมาเป่าให้จุดโทษกับ "หงส์แดง" แล้วเป็น ฟาบินโญ่ ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ ลิเวอร์พูล ทิ้งห่างเป็น 3-1
��� เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูล บุกเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 48 คะแนนบีบช่องว่างจาก แมนฯ ซิตี้ จ่าฝูงเหลือ 9 แต้มแต่ยังเหลือเกมในมือมากกว่าอีกหนึ่งนัด
����� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
������ คริสตัล พาเลซ (4-3-3) : บิเซนเต้ ไกวต้า - โจเอล วอร์ด, โยอาคิม อันเดอร์เซ่น, มาร์ค เกฮี, ไทริค มิทเชลล์ - คอเนอร์ กัลลาเกอร์, วิลล์ ฮิวจ์ส, เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ - ไมเคิ่ล โอลิเซ่, อ็อดซอนน์ เอดูอาร์, ฟิลิปเป้ มาเตต้า
�
�������� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, เคอร์ติส โจนส์ - ดิโอโก้ โชต้า, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด แชมเบอร์เลน