��������� "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล พลิกสถานการณ์ผ่านเข้าสู่รอบรองฯ ในศึก คาราบาว คัพ ได้แบบสุดระทึก ชนิดสะใจเหล่าสาวก "เดอะ ค็อป" หลังจากที่เปิดบ้านดวลจุดโทษชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 5-4 เมื่อคืนวันพุธที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยที่กำลังจะแพ้ในเกม 90 นาทีอยู่แล้ว แต่มาได้ ทาคุมิ มินามิโนะ ซัดประตูตีเจ๊า 3-3 นาทีที่ 90+5 ก่อนพลิกเป็นฝ่ายได้เฮในช่วงดวลเป้าแบบสุดมันส์
��������� สนาม : แอนฟิลด์
���������� เจอร์เก้น คล็อปป์ ยอดกุนซือ "หงส์แดง" เน้นใช้บริการกลุ่มแข้งสำรองและดาวรุ่งตามคาด แต่เลือกส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน คุมแดนกลาง และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยืนหน้าเป้า ส่วน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ "จิ้งจอกสยาม" จัดนักเตะดาวดังลงเล่นเพียบ อาทิเช่น แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, ชักลาร์ โซยุนชู, ยูริ ตีเลอมันส์, เจมส์ แมดดิสัน และ เจมี่ วาร์ดี้
��������� นาทีที่ 6 เลสเตอร์ มีโอกาสทองจากการหลุดเข้าไปยิงของ แพทสัน ดาก้า แต่ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ปัดบอลออกหลังไปได้
��������� อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 10 เลสเตอร์ ออกนำสำเร็จ จากจังหวะที่ เจมส์ แมดดิสัน ได้แทงบอลทะลุช่องให้ เจมี่ วาร์ดี้ กดเสียบมุมล่างอย่างเฉียบขาด
��������� เท่านั้นยังไม่พอ นาทีที่ 13 "จิ้งจอกสยาม" ได้เพิ่มอีกประตู โดย แพตสัน ดาก้า ได้ตบบอลเข้ากลางให้ วาร์ดี้ กระทุ้งเข้าไป ซึ่งถือเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้
��������� กระนั้นนาทีที่ 19 ลิเวอร์พูล ได้ประตูตีไข่แตกเป็น 1-2 จากจังหวะที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ได้ครองบอลในกรอบเขตโทษ ก่อนแตะคืนหลังให้ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน กดด้วยขวา ส่งบอลฝ่าผู้เล่น เลสเตอร์ เข้าไปตุงตาข่ายอย่างเด็ดขาด
��������� นาทีที่ 34 "จิ้งจอกสยาม" หนีห่างเป็นสองประตูอีกครั้ง โดย ลิเวอร์พูล เสียบอลแดนกลาง และเป็น แมดดิสัน ถือโอกาสส่องไกลด้วยขวา ส่งบอลแสกหน้า เคลเลเฮอร์ เข้าไปอย่างสุดสวย
������� หลังจากนั้น วาร์ดี้ เกือบทำแฮตทริกได้ เมื่อมีโอกาสได้ยิงเน้นๆ แต่บอลพุ่งชนเสาอย่างน่าเสียดาย
������� จบครึ่งแรก : ลิเวอร์พูล ตาม เลสเตอร์ ซิตี้ 1-3
������� ช่วง 20 นาทีแรกของครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล มีรูปเกมที่ดูดีขึ้น ทว่ายังทำประตูตีตื้นทีมเยือนไม่ได้ แต่ก็มีโอกาสได้เสียวจากจังหวะที่ ฟีร์มีโน่ ยิงติดบล็อก ชักลาร์ โซยุนชู�
��������� นาทีที่ 68 ลิเวอร์พูล ไล่ขึ้นมาเป็น 2-3 ได้สำเร็จ จากจังหวะที่ ทาคุมิ มินามิโนะ ผ่านบอลให้ ดีโอโก้ โชต้า ที่ลงสำรองช่วงครึ่งหลัง จบสกอร์ด้วยซ้ายอย่างเฉียบขาด�
������� นาทีที่ 82 "หงส์แดง" หวิดได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ นาบี เกอิต้า ได้ส่องไกล ไปเข้าทาง โชต้า โหม่งบอลเปลี่ยนทาง ทว่า ชไมเคิ่ล เซฟได้อย่างเหลือเชื่อ
��������� นาทีที่ 90+5 ลิเวอร์พูล ตีเสมอเป็น 3-3 ได้สำเร็จ จากการยิงของ มินามิโนะ ซึ่งก็ต้องชื่นชม เจมส์ มิลเนอร์ ที่วางบอลเข้ามาได้อย่างแม่นยำ
���������� จบเกม 90 นาที : ลิเวอร์พูล เสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ สุดมันส์ 3-3 ต้องไปตัดสินกันด้วยการยิงจุดโทษ
���������� - ยูริ ตีเลอมันส์ (เลสเตอร์) : เข้า
���������� - เจมส์ มิลเนอร์ (ลิเวอร์พูล) : เข้า
����������� - เจมส์ แมดดิสัน (เลสเตอร์) : เข้า
���������� - โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (ลิเวอร์พูล) : เข้า
����������� - มาร์ค อัลไบรท์ตัน (เลสเตอร์) : เข้า
���������� - อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (ลิเวอร์พูล) : เข้า
���������� - ลุค โธมัส (เลสเตอร์) : ไม่เข้า
���������� - นาบี เกอิต้า (ลิเวอร์พูล) : เข้า
���������� - เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ (เลสเตอร์) : เข้า
���������� - ทาคุมิ มินามิโนะ (ลิเวอร์พูล) : ไม่เข้า
���������� - ไรอัน เบอร์ทรานด์ (เลสเตอร์) : ไม่เข้า
���������� - ดีโอโก้ โชต้า (ลิเวอร์พูล) : เข้า
���������� ลิเวอร์พูล ชนะดวลจุดโทษ 5-4 ผ่านเข้าสู่รอบรองฯ คาราบาว คัพ ได้แบบสุดระทึก
���������� รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
���������� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวิน เคลเลเฮอร์ - คอนเนอร์ แบรดลี่ย์ (ดีเอโก้ โชต้า น. 46), โจ โกเมซ, บิลลี่ คูเมติโอ (อิบราฮิมา โกนาเต้ น. 46), คอสตาส ซิมิคาส (โอเว่น เบ็ค) - ไทเลอร์ มอร์ตัน (เจมส์ มิลเนอร์ น. 46), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (นาบี เกอิต้า น. 59), อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน - เนโก วิลเลี่ยมส์, ทาคูมิ มินามิโนะ, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่
���������� เลสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - ริคาร์โด้ เปเรยร่า (มาร์ค อัลไบรท์ตัน น. 42), วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ชักลาร์ โซยุนชู (ยานนิค เวสเตอร์การ์ด น. 60), ลุค โธมัส - ยูริ ตีเลมันส์, บูบาการี่ ซูมาเร่ - เจมส์ แมดดิสัน, เคียร์แนน ดูว์สบิวรี่-ฮอลล์ (ไรอัล เบอร์ทรานด์ น. 60), แพตสัน ดาก้า (เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ น. 56) - เจมี่ วาร์ดี้�
���������� ผู้ตัดสิน : แอนดี้ แมดลี่ย์