����� เหล่าผู้บริหารของทีมใน พรีเมียร์ลีก กำลังกลัวว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในตอนนี้อาจจะถึงขั้นทำให้มีมาตรการที่สั่งห้ามนักเตะลงสนามเด็ดขาดหากยังไม่ได้รับวัคซีน ตามการเปิดเผยของ เดอะ ซัน สื่อของอังกฤษ โดยเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาก็มีการเปิดเผยว่ามีแข้งใน พรีเมียร์ลีก ราว 81 เปอร์เซ็นต์ที่รับวัคซีนไปแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม
��� บรรดาผู้บริหารของสโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังกังวลว่ามันอาจจะถึงขั้นมีมาตรการห้ามนักเตะลงเล่น ถ้าหากแข้งคนนั้นๆ ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามรายงานของ เดอะ ซัน สื่อของเมืองผู้ดี
��� ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกยังอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง โดยนอกจากเชื้อสายพันธุ์เดลต้ายังคงแพร่ระบาดในหลายๆ ที่แล้วนั้น มันยังมีสายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อโอมิครอนโผล่ขึ้นมาด้วย โดยว่ากันว่าเชื้อสายพันธุ์ใหม่นี้แพร่ระบาดได้ง่ายกว่าสายพันธุ์เดลต้า แต่อาการของคนติดเชื้อจะไม่รุนแรงเท่ากับสายพันธุ์เดลต้า
��� ทั้งนี้ ในตอนนี้คนที่ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนก็เริ่มมีให้เห็นใน สหราชอาณาจักร มากในระดับหนึ่งแล้ว โดยมันถึงขั้นทำให้รัฐบาลของที่นั่นประกาศใช้มาตรการ "โควิด แพลน บี" เลย โดยหนึ่งในข้อกำหนดของมาตรการที่ว่าก็คือตั้งแต่วันพุธหน้าเป็นต้นไปนั้น หากแฟนบอลอยากจะเข้าชมเกมในสนามพวกเขาก็ต้องแสดง "วัคซีน พาสปอร์ต หรือหลักฐานที่ยืนยันว่ารับวัคซีนแล้วซะก่อน
��� อย่างไรก็ตาม เดอะ ซัน บอกว่าตอนนี้คนใหญ่คนโตของแต่ละทีมใน พรีเมียร์ลีก กลัวกันว่ามาตรการอาจจะรุนแรงขึ้นจนถึงขั้นที่ว่านักเตะที่ยังไม่ได้รับวัคซีนจะหมดสิทธิ์ลงสนามไปด้วย ซึ่งหากอ้างอิงจากการเปิดเผยของ พรีเมียร์ลีก เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมานั้น มันก็มีนักเตะ 81 เปอร์เซ็นต์ที่ได้รับวัคซีนไปอย่างน้อย 1 เข็ม ส่วนคนที่ได้รับไปแล้ว 2 เข็มนั้นมีเพียง 68 เปอร์เซ็นต์ โดยช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาบางสโมสรก็พยายามกระตุ้นให้นักเตะของพวกเขารับวัคซีนกันมากขึ้น แต่ไม่มีการระบุที่แน่ชัดว่าจำนวนนักเตะที่ได้รับวัคซีนนั้นมีเพิ่มขึ้นเยอะแค่ไหน