���� โครงการพันแปดร้อยล้านฟุตบอลโลกทุกๆสองปีของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ส่อแววล่มไม่เป็นท่าเมื่อล่าสุด พรีเมียร์ลีก แถลงอย่างเป็นทางการยืนยันว่าทั้ง 20 สโมสรมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่ขอร่วมสังฆกรรมด้วย
���� ฟีฟ่า เพียรพยายามเพิ่มโปรแกรมฟุตบอลโลกเข้ามาในปฏิทินลูกหนังท่ามกลางเสียงคัดค้านของหลายฝ่ายโดยยืนยันว่าฟุตบอลโลกทุกๆสองปี แทนที่จะเป็นสี่ปีเหมือนที่เป็นอยู่เป็นที่ยอมรับของแฟนบอล และจะทำให้นักเตะได้มีส่วนร่วมบ่อยขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
���� พร้อมกันนี้ ฟีฟ่า ยังมอบหมายให้ อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตกุนซือ อาร์เซน่อล ในฐานะหัวหน้าฝ่ายพัฒนาวงการลูกหนังโลกของพวกเขาเดินสายโปรโมทโฆษณาชวนเชื่อแผนดังกล่าวอย่างหนักโดยอดีตผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศสชี้ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย และมั่นใจว่าสามารถระเบิดทัวร์นาเมนต์ได้โดยไม่ยุ่งยากอะไร
���� ต่อกรณีดังกล่าว สหพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ (คอนเมโบล) ได้ประกาศจุดยืนไปก่อนแล้วเมื่อเดือนต.ค. ว่าขอแอนตี้แผนดังกล่าว และจะไม่ส่งทีมร่วมฟาดแข้งอย่างแน่นอน
���� กระทั่งล่าสุดเมื่อ 11 พ.ย. พรีเมียร์ลีก ก็แถลงอย่างเป็นทางการไม่เอาด้วยกับแผนของ ฟีฟ่า หลังจากพวกเขาจำต้องปรับเปลี่ยนช่วงเบรกระยะสั้นๆในช่วงกลางซีซั่นหน้าของ พรีเมียร์ลีก เพื่อเปิดทางให้นักเตะของชาติต่างๆผละไปรวมตัวฟิตซ้อมกับทีมชาติก่อนฟาดแข้งฟุตบอลโลกปีหน้าที่ กาตาร์ ซึ่ง ฟีฟ่า สร้างปัญหาย้ายเวลาจากหน้าร้อนหลังจบซีซั่นของลีกยุโรปมาเตะในหน้าหนาวแทนซึ่งเป็นการสร้างปัญหาให้ลีกยักษ์ใหญ่ต้องวุ่นวายกับการปรับโครงสร้างภายใน
���� "พรีเมียร์ลีก ยืนยันที่จะคัดค้านการเปลี่ยนปฏิทินฟุตบอลของ ฟีฟ่า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของนักเตะ รวมถึงประเพณีฟุตบอลในประเทศ" ริชาร์ด มาสเตอร์ส ซีอีโอ ของ พรีเมียร์ลีก ระบุ
���� "เราเปิดกว้างให้กับการปรับเปลี่ยน และไอเดียใหม่ๆ แต่พวกมันจะต้องสมดุลย์กับโปรแกรมฟุตบอลในประเทศและเกมทีมชาติเพื่อทำให้วงการฟุตบอลโดยรวมเกิดการพัฒนา"
���� "โครงการนี้ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่เราจะยุ่งเกี่ยวด้วย เราจะทำงานต่อกับกลุ่มกองเชียร์ นักเตะ และผู้ถือหุ้นเพื่อหาสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดของเกมฟุตบอลในระยะยาว"
���� ก่อนหน้านี้ สโมสรใน พรีเมียร์ลีก ได้แยกตัวออกจาก ยูโรเปี้ยนซูเปอร์ลีก มาแล้วหลังถูก สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ขู่แบน และถูกกองเชียร์ของทีมรุมสวดยับ แม้สามทีมที่ร่วมก่อตั้งอย่าง ยูเวนตุส , เรอัล มาดริด และ บาร์ซ่า ยังยืนกรานที่จะเดินหน้าต่อเพื่อแยกตัวออกจากศึก แชมเปี้ยนส์ลีก โดยยืนยันว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกสโมสร