���� "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยังรักษาสถิติไม่แพ้ในลีกซีซั่นนี้ได้ต่อไป แต่รอดตายคาถิ่นทั้งๆที่นำหน้า ไบรท์ตัน แบบหายห่วง 2-0 แล้วโดนบดขยี้หนักจนเสียคืนสองเม็ดชนิดออกอาการร่อแร่หวิดแพ้ในช่วงท้ายด้วยซ้ำในเกมเสมอกับ นกนางนวล 2-2 จากการฟาดแข้งฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษนัดที่สิบเมื่อวันเสาร์ที่ 30 ต.ค. และโดน เชลซี ทีมจ่าฝูงสปีดหนีไปเป็นสามแต้มแล้ว
�������� ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูงทีมเดียวในลีกซีซั่นนี้ที่ยังไม่แพ้ใครกลับมาเล่นในบ้านหลังออกไปสยบ เปรสตัน 2-0 เมื่อกลางสัปดาห์ผ่านเข้ารอบแปดทีมถ้วย คาราบาวคัพ และปรับมาใช้งานทีมชุดใหญ่ตามเดิมโดยที่ อิบราฮิม่า โกนาเต้ ยังได้เป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ขณะที่ นาบี้ เกอิต้า เช็คฟิตผ่านได้ออกสตาร์ตร่วมกับ เคอร์ติส โจนส์ และ ซาดิโอ มาเน่ แต่ไร้ เจมส์ มิลเนอร์ ที่เดี้ยง
������ ส่วน ไบรท์ตัน ซึ่งอยู่ในช่วงฟอร์มแย่ไม่ชนะห้านัดหลังในทุกรายการ และล่าสุดออกไปแพ้ เลสเตอร์ ตกรอบถ้วย คาราบาวคัพ ด้วยการดวลลูกโทษตัดสินมี อดัม ลัลลาน่า อดีตกองกลาง หงส์แดง นำทัพบุกมาเยือนรังเก่า และได้ อีฟส์ บิสซูม่า ที่เจ็บเข่าไปนานหนึ่งเดือนคัมแบ็ค
������� เขี่ยบอลได้แค่ 3 นาที ลิเวอร์พูล ก็น่าจะตาข่ายขาดเมื่อ ซอลลี่ มาร์ช ได้ลูกจ่ายจาก เลอันโดร ทรอสซาร์ หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษด้านซ้ายโดยไม่ล้ำหน้า แต่จังหวะสับไกถูก อลิสซอนปัดได้เยี่ยม
������ และแล้วนาทีต่อมา เจ้าบ้านก็ตอบโต้ได้อย่างสาสมเมื่อ ฟาน ไดค์ ตักบอลยาวจากแดนกลางขึ้นทางขวาให้ โม ซาลาห์ พาเข้าเขตโทษแล้วไหลคืนให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วิ่งเข้าซัดระยะ 20 หลาแบบไม่ต้องจับส่งบอลเสียบเสาไกลให้ เร้ด แมชีน นำเร็ว 1-0 เป็นประตูแรกในลีกซีซั่นนี้ของ เฮนโด้
������ เท่านั้นแหละ หงส์แดง ก็คึกคักทันตาเห็น ปูพรมกดดัน นกนางนวล หาช่องทำประตูเพิ่มอย่างต่อเนื่อง กระทั่งนาทีที่ 15 บิสซูม่า เก็บบอลแถวแดนกลางได้จึงตัดสินใจกระชากขึ้นมากระทุ้งเต็มเกือกจาก 23 หลา แต่ อลิสซอนยังเหนียวพุ่งปัดด้วยปลายมือส่งบอลพุ่งกระแทกเสา
����� ผ่านมาถึงนาทีที่ 19 เกอิต้า ก็ลงไปนั่งกุมแข้งขวา และโดนเปลี่ยนออกจนได้ให้ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ลงไปรับช่วงแทน และในที่สุดนาทีที่ 24 ตัวสำรองของทีมเจ้าบ้านก็บรรจงสาดบอลยาวจากกราบขวาไปเสาไกลอย่างแม่นยำให้ มาเน่ โถมโขกระยะ 10 หลาไม่เหลือเพิ่มสกอร์ให้ ลิเวอร์พูล นำ 2-0
����� เกมของ ลิเวอร์พูล เหนือกว่าชัดเจน และนาทีที่ 34 โรเบิร์ต ซานเชซ� ผู้รักษาประตูทีม ไบรท์ตัน ก็เล่นพลาดมหันต์รับบอลจากเพื่อนร่วมทีมแล้วออกบอลช้าเลยโดน มาเน่ เข้าปั๊มส่งบอลตุงตาข่าย แต่โชคยังดีที่บอลกระทบแขนดาวเตะเซเนกัลก่อนข้ามเส้นประตู จึงเป็นลูกแฮนด์บอลหลังมีการเช็ควีเออาร์
����� และแล้วนาทีที่ 41 สิ่งที่กองเชียร์ เดอะ ค็อป ไม่อยากเชื่อก็บังเกิดเมื่อทีมเยือนต่อเกมขึ้นมาเป็นทอดๆทางฝั่งขวาก่อนที่ อีน็อค เอ็มเวปู จะแสดงความเหนือชั้นรับบอลจาก มาร์ช แล้วตวัดยิงจากหน้าเขตโทษระยะ 25 หลาแบบไม่ต้องแต่งย้อยเสียบใต้เพดานอย่างน่าฮือฮาหลังเห็นว่า อลิสซอนขยับออกมาหน้าเส้นประตูมากไปทำให้สกอร์เปลี่ยนเป็น 2-1 ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดจบเกมในครึ่งแรก
���� ครึ่งหลัง ทีมเยือนชิงบุกใส่ทันที แต่นาทีที่ 48 ก็โดนลูกโต้ของเจ้าบ้านเล่นงานเมื่อ มาเน่ ฉกบอลแถวกลางสนามแล้วลากขึ้นไปไหลให้ ซาลาห์ ทะลุไปซัดตุงตาข่าย แต่ดาวเตะทีมชาติอียิปต์ล้ำหน้า
����� นาทีที่ 49 ไบรท์ตัน น่าจะตีเสมอได้เมื่อ ลัลลาน่า ได้ลูกตอกส้นจาก มาร์ช หลุดไปยิงเต็มๆในเขตโทษระยะ 16 หลา แต่ อลิสซอน ล้มตัวตะปบได้อยู่มือ
����� ถึงนาทีที่ 60 ทีมเยือนเปลี่ยน บิสซูม่า ออกให้ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ ลงเล่นแทน และเร่งเกมรุกเต็มสูบจวบจนนาทีที่ 64 ลัลลาน่า ก็ผ่านบอลเข้าเขตโทษให้ ทรอสซาร์ แตะหลบตัวประกบก่อนตะบันจากแปดหลาผ่าน อลิสซอนตุงตาข่ายให้ นกนางนวล ตีเสมอ 2-2
����� นาทีต่อมา ทีมเยือนส่ง ทาริค แลมพ์ตีย์ ลงเล่นแทน ยาคุบ โมเดอร์ และนาทีที่ 76 แลมพ์ตีย์ ก็ควบบอลขึ้นจ่ายให้ ทรอสซาร์ หลุดเข้าเขตโทษไปซัดบอลตุงตาข่าย แต่ไม่ได้สกอร์เนื่องจากล้ำหน้า
����� จากนั้นพักเดียว ลัลลาน่า ก็ถูก ไบรท์ตัน เปลี่ยนออกให้ ปาสกาล โกรสส์ ลงไปแทนที่� ขณะที่ ลิเวอร์พูล พึ่ง ดีโอโก้ โชต้า แทน ฟีร์มิโน่ หลังจากโดนทีมเยือนกดดันหนักจนระส่ำระสาย
�
������ สิบนาทีสุดท้าย ทีมเยือนพยายามปลิดชีพเจ้าถิ่นให้ได้ทำเอา เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องใช้งาน ทาคูมิ มินามิโนะ ลงไปแทน โจนส์ ในนาทีที่ 87 แต่อึดใจเดียวดาวเตะซามูไรไปทำฟาวล์ ทรอสซาร์ พร้อมโดนจดชื่อ
����� อย่างไรก็ดี ช่วงที่เหลือ หงส์แดง บุกแหลก และทำให้ แลมพ์ตีย์ ได้ใบเหลืองข้อหาขวางจังหวะเล่นลูกฟรีคิกของเจ้าบ้าน จากนั้นในช่วงทดเวลา เชน ดัฟฟีย์ ก็จำเป็นต้องตัดเกมทำฟาวล์ และโดนจดชื่อเช่นกัน
����� จังหวะต่อมา แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ไปผลักคู่แข่งจึงได้ใบเหลืองอีกราย หมดเวลาทั้งสองทีมจึงเสมอกันไปแบบสนุก 2-2 แบ่งกันไปคนละแต้ม แต่ หงส์แดง เสียหายหนักถูก เชลซี หนีห่างเป็นสามแต้มแล้ว
�
�รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
�ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ , เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ , อิบราฮิม่า โกนาเต้ , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , นาบี้ เกอิต้า� (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน น.19)� , เคอร์ติส โจนส์ (ทาคูมิ มินามิโนะ น.87) - ซาดิโอ มาเน่ , โมฮาเหม็ด ซาลาห์ , โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (ดีเอโก้ โชต้า น.78)
�ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
�ไบรท์ตัน (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ - มาร์ค คูคูเรลล่า , ลูอิส ดังค์ , เชน ดัฟฟีย์ , โจเอล เวลท์แมน� - อดัม ลัลลาน่า (ปาสกาล โกรสส์ น.77) , ยาคุบ โมเดอร์ (ทาริค แลมพ์ตีย์ น.65)�� , อีน็อค เอ็มเวปู�� , ซอลลี่� มาร์ช , อีฟส์ บิสซูม่า ( อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ น.60) - เลอันโดร ทรอสซาร์
�ผู้จัดการทีม : เกรแฮม พ็อตเตอร์
�ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน