������� แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจอผลกระทบนอกสนามจากความพ่ายแพ้ในศึก "แดงเดือด" แบบยับเยินให้กับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล 0-5 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยหุ้นของ "ปีศาจแดง" ตกฮวบต่ำสุดในรอบ 3 เดือน
������������� โอเล่ กุนนาร์ โซลชา นำทัพ "เร้ด เดวิลส์" พบกับความพ่ายแพ้แบบอัปยศอดสูต่อ ลิเวอร์พูล ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซึ่งผลการแข่งขันดังกล่าวถือเป็นความพ่ายแพ้แบบยับเยินครั้งแรกในบ้านตัวเองต่อคู่อริตลอดกาลด้วย
�
������������� จากผลการแข่งขันดังกล่าวส่งผลกระทบต่อตัวเลขบนกระดานหุ้นของสโมสรโดยหลังจากเกม "แดงเดือด" เพียงแค่วันเดียวหุ้นของพวกเขาดิ่งลงไปจุดต่ำสุดในรอบ 3 เดือนโดยถูกขายลงมาเหลือในราคา 15.81 ดอลลาร์ (ราว 553 บาท) ก่อนที่จะดีดกลับขึ้นมาปิดตัวที่ราคา 16.11 ดอลลาร์ (ราว 564 บาท) เท่ากับเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา
������������� ทั้งนี้เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม หุ้นแมนยู (MANU) ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange) ขยับพุ่งขึ้นถึง 8 เปอร์เซนต์ หลังจากที่มีการประกาศข่าวผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หวนกลับมาเล่นให้กับสโมสรอีกครั้้ง หลังเคยประสบความสำเร็จมากมายมหาศาลกับทีมในช่วงระหว่างปี 2003-2009
������������� ในเวลานั้นราคาหุ้นเมื่อปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 18.29 ดอลลาร์ (ราว 640 บาท) เพิ่มขึ้น 5.84 เปอร์เซนต์ ยิ่งไปกว่านั้นหุ้นของทีมยังพุ่งไปถึงจุดสูงสุดถึง 20.87 ดอลลาร์ (ราว 918 บาท) เมื่อวันที่ 28 กันยายน
������������� กระนั้นหุ้นแมนยู (MANU) กลับถูกเทขายออกมาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 22 เปอร์เซนต์ จนกระทั่งถึงวันที่ 27 ต.ค. ที่ผ่านมา มูลค่าหุ้นของสโมสรลดลงเหลือเพียง 16.25 ดอลลาร์ (ราว 569 บาท)