������� ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
������� วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2564
������� แมนฯ ยูไนเต็ด� 0 - 5 ลิเวอร์พูล
������� สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
���� แดงเดือดเกมพรีเมียร์ลีกคืนวันอาทิตย์ที่ 24 ต.ค. แมนฯ ยูไนเต็ด มีเซอร์ไพรส์ได้ เฟร็ด , มาร์คัส แรชฟอร์ด และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส หายเจ็บทันเวลาทั้งหมด ยกเว้น ราฟาแอล วาราน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จึงมั่นใจใน 11 ขุนพลจากเกมเฝ้าบ้านคว่ำ อตาลันต้า 3-2 ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ทำให้ ปอล ป็อกบา นั่งเป็นตัวสำรองต่อ ขณะที่ ลิเวอร์พูล ขาด ฟาบินโญ่ ที่เจ็บเข่าเล็กน้อย และ ดร็อป ซาดิโอ มาเน่ กับ โฌแอล มาติ๊ป ไปนั่งข้างสนามโดยปรับให้ ดีโอโก้ โชต้า ที่ฟิตสมบูรณ์แล้วออกสตาร์ตร่วมกับ อิบราฮิม่า โกนาเต้
���� หงส์แดง ชิงเล่นเกมรุกเข้าใส่ก่อน แต่นาทีที่ 4 น่าจะเสียประตูตั้งแต่หัววันเมื่อโดนเจ้าบ้านตัดเกมแล้ว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ป้ายบอลจากกราบซ้ายเข้ากลางให้ เมสัน กรีนวู้ด ตบออกขวา แต่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ทำเสียของเหลือเชื่อกดจาก 14 หลาไม่มีใครคุมโด่งหลุดกรอบไปบาน
�������
���� และแล้วนาทีต่อมา ลิเวอร์พูล ก็คลำเป้าได้สำเร็จเมื่อแผงหลัง ผีแดง เปิดรูเบ้อเริ่มให้ โม ซาลาห์ จึงรับบอลมาจ่ายเข้าเขตโทษให้ นาบี เกอิต้า หลุดเดี่ยวไปแปเรียดนิ่มๆระยะ 12 หลาผ่านการพยายามใช้ขาเซฟของ ดาบิด เด เคอา พา หงส์แดง บุกมานำ 1-0
���� ขยับมานาทีที่ 10 แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เสียวอีกหนเมื่อ เฟร็ด แย่งบอลได้แล้ว มาร์คัส แรชฟอร์ด เกี่ยวไปยิงไกลเต็มข้อทันทีจาก 30 หลาส่งบอลเฉี่ยวเสาแรกออกไปไม่เยอะ
���� อย่างไรก็ดี นาทีที่ 13 เกมรับที่สับสนของเจ้าบ้านก็เปิดทางให้ทีมเยือนเพิ่มสกอร์ได้อีกเม็ดจากบอลโด่งทางซ้ายที่ลอยมาหน้าเขตโทษแล้ว ลุค ชอว์ ไปเกะกะกับ แฮร์รี่ แม็กไกว์ กันเอง เกอิต้า จึงสบช่องไหลออกทางขวาโดยมี เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ปาดมาหน้าประตูอีกที ดีโอโก้ โชต้า จึงปรี่สไลด์เข้าฮอสห้าหลาพา เร้ด แมชีน ทิ้งห่าง 2-0 ชนิดที่ เด เคอา หมดสิทธิ์ป้องกัน
���� ล่วงมาถึงนาทีที่ 23 หลังจากต่อบอลหาช่องกันอยู่นาน แฟนบอล ปีศาจแดง ก็ได้ฮือฮาเมื่อ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ก็ผ่านบอลขึ้นทางซ้ายให้ ลุค ชอว์ ลองตะบันจากริมเขตโทษเฉี่ยวเสาไกลออกไปแบบมีเสียว
�
���� แต่แล้วอีกสามนาทีให้หลัง เจมส์ มิลเนอร์ ดาวเตะสารพัดประโยนช์ของ ลิเวอร์พูล ก็ล้มเจ็บเล่นต่อไม่ได้ ต้องเดินออกไปให้ เคอร์ติส โจนส์ ลงเสียบแทน และถึงนาทีที่ 28 กรีนวู้ด ก็ได้บอลจาก แฟร์นันด์ส แล้วลองพลิกยิงจากหน้าเขตโทษด้านขวาทำเอา อลิสซอน ต้องกระโจนปัดทิ้ง
���� ผีแดง น่าจะโดนเข่นเม็ดสามในนาทีที่ 32 จากจังหวะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ทำบอลทะลักจากกลางสนามกลับเข้าแดนตัวเอง ซาลาห์ จึงตามไปเก็บกระชากเข้าเขตโทษด้านขวาแบบหลุดเดี่ยวก่อนซัดมุมแคบติดหน้าอก เด เคอา ที่ออกมาบล็อค
�
��� ในที่สุดนาทีที่ 37 โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็เงียบกริบเหมือนป่าช้าตอนตีสามจากจังหวะที่ ลิเวอร์พูล ต่อบอลสั้นหลายทอดแล้ว ซาลาห์ ตะบันจากหน้าเขตโทษแฉลบ แม็กไกวร์ เกอิต้า จึงตามไปเก็บทางขวาแล้วไหลมาเสาแรกให้ดาวยิงอียิปต์ทะยานเข้าจิ้มบอลระยะหกหลาเสียบเสาแรกพาทีมเยือนนำห่าง 3-0 โดย ซาลาห์ สร้างสถิติเป็นคนแรกที่ยิงได้ในโรงละครแห่งความฝันสามนัดติดต่อกันอีกด้วย
�������
���� ดวลกันมาถึงนาทีที่ 41 ชอว์ ก็โดนจดชื่อเป็นคนแรกของเกมจากจังหวะดึง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ กระทั่งในช่วงทดเวลา แฟร์นันด์ส ก็ไหลบอลเข้าเขตโทษด้านขวาให้ โรนัลโด้ หลุดไปเข่น แต่ อลิสซอน ถลันออกมาเร็วจึงบล็อคได้ทัน และมี โจนส์ ตามไปเก็บตกแถวมุมธงแล้วถูก โรนัลโด้ ที่ออกอารมณ์หงุดหงิดเข้าทำฟาวล์จนคว่ำ แถมสตาร์เลือดฝอยทองเตะบอลใส่คู่กรณีที่ล้มคร่อมบอลอยู่จึงโดนจดชื่อตามระเบียบ
���� ถัดมาอีกพริบตาเดียว� เฟร็ด ก็รับใบเหลืองไปอีกรายเมื่อเล่นอันตรายยกเท้าสูงในจังหวะที่ เกอิต้า พยายามใช้หัวโขกบอล และขณะที่ต่อเวลากันมาถึงนาทีที่ 50 ประวัติศาสตร์ก็เกิดขึ้นเมื่อ ปีศาจแดง โดนบอมบ์สี่เม็ดในเกมแดงเดือดตั้งแต่ครึ่งแรกจากการผ่านบอลหน้าเขตโทษของ ฟีร์มิโน่ ที่เปิดทางสะดวกให้ ซาลาห์ ที่รออยู่ทางด้านขวาแบบโล่งๆปราดเข้าแปแบบสบายๆเสียบเสาแรก จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล จึงบุกมานำแบบขาดลอย 4-0 ทำเอาสาวก ปีศาจแดง โห่ใส่ โซลชา ดังกระหึ่มขณะกุนซือชาวนอรเวย์เดินกลับเข้าอุโมงค์
���� ครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ปล่อย ป็อกบา ลงไปแทน กรีนวู้ด แต่แค่นาทีแรก แฟร์นันด์ส ไปสอย โจนส์ กลิ้งแถวริมสนามทำให้ได้ใบเหลืองอีกราย และถึงนาทีที่ 50 ป็อกบา ก็เล่นเชื่องช้าโดนรุมแย่งบอลแถงกลางสนามทำให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จ่ายจังหวะเดียวแบบไซด์ก้อยให้ ซาลาห์ หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษด้านขวาไปยิงผ่าน เด เคอา พา หงส์แดง นำลิ่ว 5-0 เป็นแฮททริคของสตาร์มัมมี่
���� เขี่ยบอลใหม่มาถึงนาทีที่ 52 แม็กไกวร์ ใช้การวางยาวจากวงกลมกลางสนามให้ โรนัลโด้ หลุดไปลากหนี เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ จากกราบขวาเข้าเขตโทษแล้วซัดลูกโค้งตุงตาข่ายที่เสาไกล แต่มีวีเออาร์ยืนยันว่า โรนัลโด้ ล้ำหน้า
���� ขยับมานาทีที่ 55 แม็กไกวร์ แหย่ขาเกี่ยว โชต้า ล้มหน้าเขตโทษจึงได้ใบเหลือง แถมอีกสี่นาทีต่อมา ป็อกบา ไปยันใส่ข้อเท้าขวาของ เกอิต้า เลยได้ใบเหลืองชนิดหมดสิทธิ์เถียง แต่ผู้ตัดสินได้รับสัญญาณให้วิ่งออกไปเช็ควีเออาร์ และเปลี่ยนมาแจกใบแดงให้กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสแทน ขณะที่ เกอิต้า โดนหามลงเปลออกไปโดยมี อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ลงเล่นแทน
���� โซลชา แก้ไขสถานการณ์โดยเปลี่ยน แฟร์นันด์ส กับ แรชฟอร์ด ออก และส่ง ดีโอโก้ ดาโลต์ กับ เอดินสัน คาวานี่ ลงสนามในนาทีที่ 63 กระทั่งนาทีที่ 71 อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เติมขึ้นมากระทุ้งหน้าเขตโทษด้านขวา ทำเอา เด เคอา ต้องออกแรงปัดหลุดกรอบ
���� ผ่านมาถึงนาทีที่ 77 เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ส่ง มาเน่ ลงสนามแทน ฟีร์มิโน่ จวบจนนาทีที่ 83 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ลูกฟรีคิกทางขวา และเป็น แม็คโทมิเนย์ ที่โขกตั้งให้ คาวานี่ เข้าฮอสเหน่งๆสี่หลา แต่บอลกระทบขา แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แล้วลอยไปชนคาน
���� นาทีที่ 86 อาร่อน วาน บิสซาก้า ได้ใบเหลืองอีกรายข้อหาทำฟาวล์ โชต้า แถวกลางสนาม จบเกม ผีแดง จึงแพ้ หงส์แดง คารังชนิดดูไม่จืด 5-0 และน่าจะทำให้ โซลชา ใกล้โดนปลดเต็มทีแล้วโดยเกมต่อไป แมนฯ ยูไนเต็ด มีคิวบุกไปเยือน สเปอร์ส ในเกมลีก ก่อนต้องบินไปฟาดเกือกกับ อตาลันต้า ในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ตามด้วยเปิดรังซดกับ แมนฯ ซิตี้
������� รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
���� แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา� - อาร่อน วาน บิสซาก้า , วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ , แฮร์รี่ แม็กไกวร์ , ลุค ชอว์ - เฟร็ด , สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ - บรูโน่ แฟร์นันด์ส (เอดินสัน คาวานี่ น.63)� , เมสัน กรีนวู้ด (ปอล ป็อกบา น.46)� , มาร์คัส แรชฟอร์ด (ดีโอโก้ ดาโลต์ น.63) - คริสเตียโน่ โรนัลโด้
���� ลิเวอร์พูล (4-3-3)� : อลิสซอน - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ , อิบราฮิม่า โกนาเต้ , เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , เจมส์ มิลเนอร์ (เคอร์ติส โจนส์ น.26)� , นาบี เกอิต้า (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน น.64) - ดีโอโก้ โชต้า , โมฮาเหม็ด ซาลาห์ , โรแบร์โต้� ฟีร์มิโน่ (ซาดิโอ มาเน่ น.77)
���� ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์