������ "สิงห์บลูส์" ได้ ไค ฮาแวร์ตซ์ โขกขึ้นนำไปก่อน ทว่าท้ายครึ่งแรกมีดราม่าหลัง รีซ เจมส์ ทำแฮนด์บอลโดนไล่ออก ก่อนที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะซัดไล่เจ๊า 1-1 แม้ว่าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล จะโหมบุกหนักแต่ก็เจาะกำแพง เชลซี ที่เหลือ 10 คนไม่สำเร็จ ก่อนแบ่งแต้มกันไปสุดมันส์ ทำให้ทั้งคู่มีเพิ่มเป็น 7 แต้มเท่ากับ เอฟเวอร์ตัน และเวสต์แฮม ทว่า "ขุนค้อน" ลูกได้เสียดีกว่านั่งจ่าฝูงต่อ ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
��� "บิ๊กแมตช์" พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่สุดท้ายของวันเสาร์ที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันนัดที่ 3 ระหว่าง ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ เชลซี โดยหลังจบวีกที่2 ทั้งสองทีมนำจ่าฝูงร่วมหลังมีลูกได้เสียเท่ากัน และยิงเท่ากัน ซึ่งผู้ชนะเกมนี้จะแซงขึ้นนำจ่าฝูงแบบเดี่ยวๆทันที
��� เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ "หงส์แดง" ปรับทัพส่ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ออกสตาร์ทตัวจริงร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และซาดิโอ มาเน่ โดยให้ไอ้หนู ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ปั้นเกมแดนกลางร่วมกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และฟาบินโญ่
��� ส่วนทางฝั่ง "สิงห์บลูส์" ของ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือยอดเยี่ยมของยูฟ่าล่าสุด ปรับเพียงตำแหน่งเดียวจากเกมบุกอัด อาร์เซน่อล เมื่อวีกที่แล้ว โดยส่ง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่ฟิตเต็มร้อยลงขับเคลื่อนเกมร่วมกับ จอร์จินโญ่ ส่วนสามประสานแนวรุกยังเป็นชุดเดิมทั้ง เมสัน เมาน์ต, โรเมลู ลูกากู และไค ฮาแวร์ตซ์
���
��� เริ่มเกมมาได้แค่ 4 นาทีแรก เจ้าบ้าน "หงส์แดง" ทักทายก่อนเลย หลังไอ้หนู เอลเลียต ได้บอลตรงกลางแล้วฝากให้ ซาลาห์ ก่อนจะไหลคืนให้ เอลเลียต ลองซัดไกลนอกกรอบบอลพุ่งเลียดถากเสาไกลออกไปแบบได้เสียว
��� บอลสวนกลับของ ลิเวอร์พูล เกือบได้ลุ้นขึ้นนำอีก นาที 10 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ พาบอลขึ้นมาทางขวาก่อนวางยาวให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน สอดมาแปด้วยซ้ายแต่บอลไม่ตรงกรอบออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
��� นาที 22 แฟนบอลเดอะ ค็อปในแอนฟิลด์เงียบกันกริบ หลังโอกาสแรกของ "สิงห์บลูส์" บุกมาชิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ รีซ เจมส์ เตะมุมมาเสาแรกให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ หนีตัวประกบโขกเสยบอลไปเสาไกล บอลพุ่งย้อยเข้าไปอย่างสวยงาม หมดสิทธิ์ที่ อลิสซอนเบ็คเกอร์ จะป้องกัน
��� อีกสี่นาทีต่อมา บอลสวนกลับของเชลซีได้ลุ้นอีก ก็องเต้ พาบอลควบขึ้นมาเองก่อนแทงออกขวาให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ แต่งบอลแล้วซัดในกรอบแต่ยังโดน เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ขวางบล็อคบอลไว้ได้
��� "หงส์แดง" โอกาสยิงเข้ากรอบยังไม่มีให้เห็น บอลยังไม่ผ่านแนวรรับของสิงห์บลูส์ กลายเป็นบอลสวนกลับของเชลซีที่ตอบโต้ขึ้นมาแล้วได้ลุ้นตลอด นาที 35 เมสัน เมาน์ท ไหลเข้ากลางให้ ลูกากู วิ่งมาซัดด้วยขวาแต่บอลไปติดแนวรับเจ้าถิ่นก่อนไปเข้ามือ อลีสซง
��� อีกนาทีถัดมา คราวนี้ ลูกากู ไหลคืนให้ เมสัน เมาน์ท ได้บอลเข้าไปทางซ้ายในกรอบก่อนจะตัดสินใจซัดบอลพุ่งเลียดหลุดเสาไกลแบบได้ลุ้น
��� นาที 37 ลิเวอร์พูล ได้โอกาสลุ้นบ้างเหมือนกัน ซาดิโอ มาเน่ คัทแบ็กหักเข้ากลางมาให้ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ เอี่ยวต้ววอลเลย์แต่บอลพุ่งเหินคานออกไปไกล
��� นาที 43 "หงส์แดง" ต้องเปลี่ยนตัวคนแรกหลัง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ มีอาการเจ็บเล่นต่อไม่ไหว เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องส่ง ดีโอโก้ โชต้า ลงมาเล่นแทน
��� ช่วงทดเจ็บ นาที 45+1 เจ้าบ้านได้ลุ้นจากลูกเตะมุมบอลเปิดมาให้ ซาดิโอ มาเน่ โขกหลุดไปทางเสาไกล โจเอล มาติ๊ป ตามมาซ้ำไปชนคาน ก่อน มาเน่ จะซ้ำจิ้มไปติด รีซ เจมส์ ที่สกัดอยู่บนเส้นประตู ก่อนที่บรรดาแข้งหงส์จะวิ่งไปรุมประท้วงฟ้องว่าบอลไปโดนแขน รีซ เจมส์� จนสุดท้าย แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ต้องวิ่งไปดูจอมอนิเตอร์ข้างสนามก่อนชี้ให้จุดโทษเจ้าถิ่น พร้อมควักใบแดงไล่ เจมส์ ออกสนาม และเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่รับหน้าที่ยิงเข้าไปไม่พลาดให้ ลิเวอร์พูล ไลตีเสมอ 1-1 ในนาที 45+5
��� จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล เสมอกับ เชลซี ที่ต้องเหลือแค่ 10 คน 1-1
��� กลับมาบู๊ต่อในครึ่งหลัง โธมัส ทูเคิ่ล ปรับแผนเปลี่ยนสองคนรวดด้วยการส่ง ติอาโก้ ซิลวา และมัตเตโอ โควาซิช ลงมาแทน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และไค ฮาแวร์ตซ์
��� นาที 51 เจ้าบ้านหวิดได้ลุ้นขึ้นนำหลัง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดีดไซด์มาหน้าประตูให้ ดีโอโก้ โชต้า เอาชนะติอาโก้ ซิลวาเทกตัวโขกเหินคานออกไป
��� "หงส์แดง" ยังบี้ไล่กดดันอย่างหนัก อีกนาทีถัดมา เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ลากมาซัดนอกกรอบบอลพุ่งติดไซด์เกือบเบียดเสาแต่ เอดูอาร์ เมนดี้ ยังโชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งไปออกไป
��� นาที 58 บอลต่อเนื่องจากลูกเตะมุม เทรนท์ เปิดเลยมาเสาไกล แอนดรูว์ โรเบิร์ตสันเก็บบอลได้ก่อนไหลเข้ากลางให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ปั่นด้วยขวานอกกรอบบอลพุ่งหลุดเสาออกไปหวุดหวิด
��� เจ้าบ้านขึงเกมรุกอยู่หมัด อีกนาทีต่อมา ฟาบินโญ่ ตะบันเต็มแรงไปติดบล็อคออกหลัง ก่อนจังหวะถัดมาบอลจากลูกเตะมุม อันเดรส คริสเตียนเซ่น สกัดไปเข้าทาง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน วิ่งมาตะบันเต็มข้อแต่ยังไปติดเซฟของ เมนดี้ เซฟไว้ได้อีก
��� นานๆ สิงห์บลูส์ จะตอบโต้ขึ้นมาที นาที 64 เมสัน เมาน์ท เปิดยาวมาเสาไกล มาร์กอส อลอนโซ่ เติมมาโขกลงพื้นเข้ากลางให้ โรเมลู ลูกากู ล้อมตัววอลเลย์ไปติดบล็อคแข้งเจ้าถิ่น
��� หงส์แดงพยายามเจาะอย่างหนักแต่ก็ไม่ผ่านแนวรับของ เชลซี ที่ยืนกันแน่นหนา นาที 75 เจอร์เก้น คล็อปป์ แก้เกม ถอดเอา เฮนเดอร์สัน ออกแล้วส่ง ติอาโก้ อัลกันตาร่า ลงไปเล่นแทน ก่อนนาที 86 จะส่ง คอสตาส ซิมิกาส ลงไปเล่นแทน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
��� ท้ายเกม นาที 83 โควาซิช ฉกบอลแย่งเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่ยิงไม่ดีซัดเสาแรกไปตรงตัว อลิสซอน
��� ช่วงเวลาที่เหลือไม่สามารถพังประตูกันได้ จบเกม ลิเวอร์พูล เสมอกับ เชลซี ที่เหลือ10 คน 1-1 แบ่งแต้มกันไป ทำให้มีเพิ่มเป็น 7 แต้มเท่ากับ เอฟเวอร์ตัน และ เวสต์แฮม แต่ขุนค้อนลูกได้เสียดีกว่าทำให้นั่งจ่าฝูงชั่วคราว
��� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
��� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอนเบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจเอล มาติ๊ป, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (คอสตาส ซิมิกาส น.86) - ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (ติอาโก้ อัลกันตาร่า น.75), ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (ดีโอโก้ โชต้า น.43), ซาดิโอ มาเน่
��� ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
��� เชลซี (3-4-3) : เอดูอาร์ เมนดี้ - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรส คริสเตียนเซ่น, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ - รีซ เจมส์, จอร์จินโญ่ (เทรวอร์ ชาโลบาห์ น.87), เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (มัตเตโอ โควาซิช น.46), มาร์กอส อลอนโซ่ - เมสัน เมาน์ต, โรเมลู ลูกากู, ไค ฮาแวร์ตซ์ (ติอาโก้ ซิลวา น.46)
��� ผู้จัดการทีม : โธมัส ทูเคิ่ล
��� ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์