��������� ดีทมาร์ ฮามันน์ อดีตกองกลางชุดแชมป์ยุโรปของลิเวอร์พูล แนะให้ 'หงส์แดง' ตัดสินใจขาย นาบี้ เกอิต้า กองกลางชาวกินีออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ แม้จะได้ค่าตัวตัวขาดทุนยับแค่ 15 ล้านปอนด์ก็ตาม
��������� เกอิต้าเซ็นสัญญาล่วงหน้าจากแอร์เบ ไลป์ซิกในเยอรมันมาอยู่กับลิเวอร์พูลด้วยค่าตัว 48 ล้านปอนด์เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2017 ก่อนย้ายมาร่วมทีมอย่างเป็นทางการในอีกหนึ่งปีถัดมา แต่ในช่วงที่ผ่านมาแม้เจ้าตัวจะได้รับการยกย่องในเรื่องฝีเท้ามากมาย แต่ด้วยอาการบาดเจ็บบวกกับการปรับตัวในพรีเมียร์ลีก ทำให้ เกอิต้า ไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งเหมือนสมัยอยู่ที่เยอรมันออกมาได้ โดย 3 ฤดูกาลที่ผ่านมาเขาเข้าๆ ออกๆ ในทีมโดยลงเล่นไปแค่ 76 นัดทำไป 7 ประตูให้ทีมหงส์แดงในทุกรายการเท่านั้น
��������� ทั้งนี้ฮามันน์มองว่า เกอิต้า เองมีสไตล์ที่ไม่เหมาะกับการเล่นให้ลิเวอร์พูลด้วย ทำให้เขาแนะให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ตัดใจขายทิ้งจะเป็นการดีกว่า
��������� "3 ปีที่ผ่านมา เกอิต้า อยู่กับลิเวอร์พูล ผมคิดว่านั่นคือช่วงเวลาที่ยากลำบากสุดๆ ของเขาเลย เมื่อมองไปถึงความคาดหวังจากฟอร์มการเล่นเมื่อได้โอกาสลงเล่น ก็ต้องยอมรับว่านี่คือการเซ็นสัญญาที่ไม่ประสบความสำเร็จของ เจอร์เก้น คล็อปป์" ฮามันน์แสดงความเห็นกับ ดิ แอธเลติก
��������� "ผมรู้ว่าเขามีอาการบาดเจ็บบ่อยครั้ง แต่หากมองไปให้ลึก ทุกครั้งที่เขาได้รับโอกาสลงเล่น เขายังไม่สามารถแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ถูกคาดหวังได้เลยนะ แถมยังได้รับการปกป้องว่าเป็นเพราะเขาต้องการเวลาอยู่เรื่อย"
��������� "การที่คุณเจ็บบ่อยจนเล่นไม่ต่อเนื่อง แต่ถ้าหากคุณต้องการพิสูจน์ตัวเอง คุณย่อมต้องพยายามคว้าโอกาสนั้นเอาไว้อย่างน้อยก็ซักครั้ง แต่นี่มันแตกต่าง"
��������� "สิ่งที่เกอิต้าพยายามทำเมื่อได้โอกาสลงเล่นคือ เขาจะพยายามครองบอลฝ่าด่านคู่แข่ง และสุดท้ายก็จะจบลงด้วยการเสียบอล มันเป็นแบบนั้นตลอด ซึ่งผมมองว่านั่นคือสิ่งที่บ่งว่าเขาไม่เหมาะกับลิเวอร์พูล"
��������� "สิ่งสำคัญคือ เมื่อผลงานถูกแสดงออกมาได้ในระดับนี้ มันก็เป็นเรื่องยากที่จะมีทีมอื่นกล้าดึงเขาไปร่วมทีม� สมมติว่าหากมีใครยื่นข้อเสนอซื้อเขาสูงกว่า 15 ล้านปอนด์หน่อยๆ ผมแนะนำให้รีบปล่อยตัวเขาออกไปเถอะ ผมรู้ว่าเขาเคยโดดเด่นแค่ไหนสมัยอยู่ไลป์ซิก และทุกคนก็อดทนรอเพื่อจะได้เห็นฟอร์มแบบนั้นอยู่"
���������
��������� "แต่ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องยอมรับในเรื่องอนาคตของเกอิต้ากับลิเวอร์พูลแล้วหล่ะ"