��������� "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทำตามเป้าหมายของตัวเองได้สำเร็จ หลังจากเปิด แอนฟิลด์ เอาชนะ คริสตัล พาเลซ 2-0 จากการเหมาสองประตูของ ซาดิโอ มาเน่ ขณะที่ผลคู่ เชลซี กับ เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นใจให้พร้อมทะยานขึ้นไปจบอันดับ 3 ของ พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2020/21
��������� ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
��������� วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม 2564
��������� ลิเวอร์พูล 2 - 0 คริสตัล พาเลซ
��������� สนาม : แอนฟิลด์
��� เกมนัดสุดท้าย พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020/21 ลิเวอร์พูล ทีมอันดับที่ 4 เปิด แอนฟิลด์ รับมือ คริสตัล พาเลซ ทีมอันดับที่ 13 ของตาราง โดยมีแฟนบอลเจ้าถิ่นเข้ามาชมเกมในสนามราว 10,000 คน
��� ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ มาพร้อมในชุดแข่งใหม่ของฤดูกาลหน้า ขอเก็บชัยชนะเกมนี้ก็จะทำให้พวกเขามีโอกาสสูงที่จะจบท็อปโฟร์เพื่อคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า ขุมกำลังตัวจริงเป็นชุดเดิมจากเกมก่อนที่บุกชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-0 จอร์จินโญ่ ไวนัลดุม ที่อาจลงเล่นเป็นนัดสุดท้ายให้ "หงส์แดง" ยืนแดนกลางร่วมกับ ติอาโก้ อัลกันตาร่า กับ ฟาบินโญ่ ส่วนแดนหน้า สามประสาน โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ คอยล่าตาข่าย ขณะที่ม้านั่งสำรองมีชื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน หายเจ็บกลับมาติดทีม รวมถึง ดิโอโก้ โชต้า ก็เช่นกัน
��� ด้าน คริสตัล พาเลซ ภายใต้กุนซือ รอย ฮ็อดจ์สัน ที่จะลงคุมทีมเป็นนัดสุดท้าย เจอปัญหาผู้เล่นตัวหลักบาดเจ็บ ทั้ง คริสติย็อง เบนเตเก้ และ เอเรชี่ เอเซ่ ส่วน ลูก้า มิลิโวเยวิช ติดปัญหาส่วนตัวทำให้ลงสนามไม่ได้ โดยยังมี วิลฟรีด ซาฮา ยืนทำเกมรุกร่วมกับ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ และ จอร์แดน อายิว
��� เปิดฉากนาทีที่ 4 เป็น คริสตัล พาเลซ ได้ทักทายก่อน วิลฟรีด ซาฮา ลากจี้ไปจนถึงเส้นหลังก่อนจะตัดสินใจซัดมุมแคบ ทว่า อลิสซอน เบ็คเกอร์ ยังยืนปิดมุมป้องกันเอาไว้ได้ดี
��� นาทีถัดมา แอนดรอส ทาวน์เซนด์ หลอกยิงลูกฟรีคิกจากทางด้านขวา แต่ อลิสซอน ยังมีสมาธิเยี่ยมลอยตัวปัดทิ้งออกหลังเป็นลูกเตะมุมของทีมเยือน
��� นาที 15 พาเลซ พลาดโอกาสทองสุดๆ แนท ฟิลลิปส์ โดน แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ฉกบอลบริเวณกลางสนาม วิ่งสลัดหนี รีส วิลเลี่ยมส์ หลุดเดี่ยวไปดวลตัวต่อตัวกับ อลิสซอน แต่จังหวะจบสกอร์ทำได้ไม่ดียิงเฉี่ยวเสาออกไปอย่างเหลือเชื่อ
��� นาที 20 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายมาให้ รีส วิลเลี่ยมส์ ตั้งหัวโขกโดยไม่มีตัวประกบ แต่เจ้าตัวโหม่งบอลเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
��� เป็นโอกาสของ "หงส์แดง" อีกครั้ง ติอาโก้ วางบอลจากครึ่งสนามให้ โม ซาลาห์ หลุดเดี่ยว และพยายามจะยิงสวนทาง บิเซนเต้ กวยต้า ทว่า ดาวเตะอียิปต์ ยิงไปติดเซฟของนายด่านสแปนิช
���
��� เจ้าถิ่นปลดล็อกประตูสำเร็จจากจังหวะลูกเตะมุม แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดมาถึง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่พยายามจะจับบอลลงเพื่อเล่นต่อจนบอลมาเข้าทางของ ซาดิโอ มาเน่ จิ้มบอลผ่านตัว บิเซนเต้ กวยต้า เข้าประตู นาที 37 ลิเวอร์พูล ออกนำ 1-0
��� หมด 45 นาทีแรก ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายนำ คริสตัล พาเลซ 1-0
��� นาที 58 เจมส์ ทอมกิ้นส์ แนวรับทีมเยือนมีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว รอย ฮ็อดจ์สัน ตัดสินใจส่ง เจฟฟรี่ ชลุ๊ปป์ ลงไปเล่นแทน แล้วถอย ชีกู คูยาเต้ ถอยไปยืนเซ็นเตอร์แบ็ก
��� เกมสวนกลับของ ลิเวอร์พูล ได้ผลในนาที 73 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำชิ่งกับ จอร์จินโญ่ ไวนัลดุม ก่อนจะส่งต่อให้ ซาดิโอ มาเน่ จับบอลหนึ่งจังหวะแล้วยิงไปแฉลบ แกรี่ เคฮิลล์ บอลเบียดเสาเข้าประตู� เจ้าถิ่นหนีเป็น 2-0
��� นาที 77 เจอร์เก้น คล็อปป์ ถอด จอร์จินโญ่ ไวนัลดุม ออกแล้วส่ง เจมส์ มิลเนอร์ ลงมาเล่นแทน พร้อมเสียงปรบมือจาก "เดอะ ค็อป" ที่ให้กำลังใจดาวเตะดัตช์
��� นาที 80 โม ซาลาห์ ได้บอลจาก โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่เจ้าตัวยิงออกไปแบบไม่ได้ลุ้นชวดทำสกอร์ที่ 23 ใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้
��� ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะ คริสตัล พาเลซ 2-0 ส่งผลให้ "หงส์แดง" จบอันดับ 3 ของตารางคะแนนด้วยการมี 69 คะแนนจาก 38 นัด ขณะที่ คริสตัล พาเลซ จบอันดับ 14 มี 44 คะแนน
��� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
��� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, รีส วิลเลี่ยมส์, เนธาเนี่ยล ฟิลลิปส์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน(อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น.90+1) - ติอาโก้ อัลคันทาร่า, ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม(เจมส์ มิลเนอร์ น.77) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ ฟีร์มิโน่(ดีโอโก้ โชต้า น.90+1), ซาดิโอ มาเน่
��� สำรอง : อาเดรียน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เคอร์ติส โจนส์, คอสตาส ซิมิกาส, เซอร์ดาน ชากิรี่, เนโก วิลเลี่ยมส์
��� ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
��� คริสตัล พาเลซ (4-3-3) : บิเซนเต้ กวยต้า - โจเอล วอร์ด, เจมส์ ทอมกิ้นส์(เจฟฟรี่ ชลุ๊ปป์ น.58), แกรี่ เคฮิลล์, ไทริก มิตเชลล์ - ชีกู คูยาเต้(มาร์ติน เคลลี่, น.89), เจมส์ แม็คคาร์ธี่(พาทริค ฟาน อันโฮลท์ น.87), ไจโร่ รีเดอวาลด์ - แอนดรอส ทาวน์เซนด์, จอร์แดน อายิว, วิลฟรีด ซาฮา
��� สำรอง : แจ็ค บัตแลนด์, เนธาเนี่ยล ไคลน์, เจซูรัน รัค-ซัคยี่, ฌ็อง-ฟิลิปป์ มาเตต้า
��� ผู้จัดการทีม : รอย ฮ็อดจ์สัน