�������� ถือเป็นเกมสุดดราม่า หลังจาก โจ วิลล็อค กลายเป็นซูเปอร์ซับอีกครั้งลงมาเป็นตัวสำรองซัดประตูช่วย นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ตามตีเสมอ ลิเวอร์พูล ช่วงทดเจ็บ 90+6 แบ่งแต้มด้วยสกอร์ 1-1 ส่งผลให้ "หงส์แดง" ขึ้นมารั้งที่ 6 ของตารางชวดโอกาสขึ้นไปรั้งที่ 4 ชั่วคราว ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา
��� ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่แรกประจำวันเสาร์ที่ 24 เมษายน 25654 ที่สนาม แอนฟิลด์ ระหว่าง ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 7 พบ นิวคาสเซิ่ล ทีมอันดับ 15 ของตาราง
��� เจอร์เก้น คล็อปป์ พาทีม "หงส์แดง" อยู่อันดับ 7 ต้องทุ่มสุดตัวเพื่อไป ชปล.ให้ได้พวกเขาตามหลัง เชลซี อยู่ 2 แต้ม เกมนี้กุนซือชาวเยอรมันปรับมาใช้ระบบ 4-2-3-1 แนวรุกจัดเต็มส่งทั้ง ดีโอโก้ โชต้า ผนึกกำลังกำทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่
��� ด้าน สตีฟ บรูซ พาทีม สาลิกาดง เก็บ 7 แต้มจากการ 3 เกมล่าสุด เกมนี้ส่ง อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง และ โชลินตอน ยืนเป็นคู่หน้า
��� ครึ่งแรกเล่นมาได้เพียง 3 นาที ลิเวอร์พูล ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 ซาดิโอ มาเน่ เปิดเข้าเขตโทษแนวรับ นิวคาสเซิ่ล เคลียร์ไม่ขาดบอลไปเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้กดด้วยซ้ายเต็มข้อส่งบอลตุงตาข่าย
��� หลังจากนั้น นิวคาสเซิ่ล ได้สวนกลับมาบ้าง นาที 20 ฌอน ลองสตาฟฟ์ หลุดกับดักล้ำหน้าเก็บบอลได้ในเขตโทษแล้วได้ซัดด้วยซ้ายระยะเผาขนที่เสาแรก อลิสซอน เบ็คเกอร์ เซฟออกหลังไปได้
��� ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นประตูที่สอง ในนาทีที่ 23 เมื่อ ติาโก้ ไหลบอลให้ ดีโอโก้ โชต้า กดด้วยขวาเต็มข้อหน้าเขตโทษแต่บอลเหินข้ามคานไปไกล
��� โอกาสของ "หงส์แดง" มาเป็นระยะและเหือบมาได้ประตูที่สองอีกครั้ง ในนาทีที่ 29 ดีโอโก้ โชต้า ได้ซัดด้วยขวาในเขตโทษบอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียว
��� ซาลาห์ พลาดโอกาสยิงประตูที่สองของตัวเอง หลังรับบอลจาก โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่เปิดบอลมาให้ ก่อนจะหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษแต่ยิงไปติดเซฟของ มาร์ติน ดูบราฟก้า ในนาทีที่ 36
��� ท้ายครึ่งแรก นาที 44 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลจากกราบขวาเข้าเขตโทษให้ ซาดิโอ มาเน่ ซัดตามน้ำบอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียว
��� ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไมได้ ทำให้จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำ นิวคาสเซิ่ล อยู่ 1-0
��� ครึ่งหลังเริ่มมาได้ 3 นาที โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เก็บบอลได้ก่อนพลิกยิงด้วยซ้ายบริเวณหัวกระโหลกบอลยังไปตรงตัวของ มาร์ติน ดูบราฟก้า รับเข้าซองได้ไม่ยาก
��� จากนั้น นิวคาสเซิ่ล ได้โอกาสทองที่จะได้ประตูตีเสมอ ในนาที 55 เมื่อ โชลินตอน หลบแนวรับ ลิเวอร์พูล หลุดเข้าเขตโทษแล้วได้ซัดด้วยซ้ายโล่งๆ แต่ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ยังปัดทิ้งออกไปได้
���
���� เกมเปิดหน้าแลกกันสนก นาที 64 "หงส์แดง" หวิดได้ลูกสองจากจังหวะที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เติมขึ้นมาแล้วกดเรียดด้วยซ้ายบอลหลุดเสาไกลออกไปนิดเดียว
��� จนแล้วจนรอด ลิเวอร์พูล ก็ยังไม่ได้ประตูที่สอง นาที 73 ซาดิโอ มาเน่ เบิ้ลบอลให้ ซาลาห์ หลุดมาซัดด้วยซ้ายจ่อๆที่เสาแรกแต่บอลไปเข้าหน้าต่าง
���
��� ลิเวอร์พุล ยังครองเกมเหนือกว่าชัดเจนบุกใส่อยู่ฝ่ายเดียว นาที 80 ซาดิโอ มาเน่ ได้ซัดด้วยซ้ายบอลกำลังจะเสียบเสาแรก คราวนี้ มาร์ติน ดูบราฟก้า โชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดมือเดียวออกไปได้อีก
��� อย่างไรก็ตามช่วงทดเจ็บมามีดราม่านาที 90+3 คัลลั่ม วิลสัน หลุดเดี่ยวไปซัดติดเซฟของ อลิสซอน เบ็คเกอร์ จังหวะแรกบอลไปโดนแขนแล้วตามซ้ำเข้าประตูไป ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเช็กวีเออาร์เป้นแฮนด์บอลของ วิลสัน ไม่ให้เป็นประตู
��� แต่กระนั้นช่วงทดเจ็บ นาที 90+6 นิวคาสเซิ่ล ตามตีเสมอได้สำเร็จ 1-1 โจ วิลล็อต ตัวสำรอง ได้ซัดด้วยขวาจ่อๆบอลไปแฉลบ ฟาบินโญ่ ส่งบอลตุตาข่าย
��� จบเกม ลิเวอร์พูล เสมอ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-1 รั้งอันดับ 6 ชวดขึ้นท็อปโฟร์
��
��� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
��� ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟาบินโญ่, โอซาน คาบัค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - ติอาโก้ อัลคันทาร่า (เคอร์ติส โจนส์ น.77), จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า (เจมส์ มิลเนอร์ น.58), ซาดิโอ มาเน่ - โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่
��� นิวคาสเซิ่ล (5-3-2) : มาร์ติน ดูบราฟก้า - ยาค็อบ เมอร์ฟี่, เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ, คีแรน คล้าร์ก (โจ วิลล็อค น.65), พอล ดัมเมตต์, แมตต์ ริตชี่ - ฌอน ลองสตาฟฟ์, จอนโจ้ เชลวี่, มิเกล อัลมิร่อน - อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง, โชลินตอน (คัลลั่ม วิลสัน น.60)