������� "หงส์แดง" แม้จะได้ ซาดิโอ มาเน่ ซัดขึ้นนำทว่าช่วงท้ายเกมครึ่งหลังโดน ลีดส์ ยูไนเต็ด ไล่ตีเสมอ 1-1 ทำให้แบ่งแต้มกันไป ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล มีเพิ่มเป็น 53 คะแนน รั้งอันดับ 6 เหมือนเดิม โดยตามอันดับ 4 เวสต์แฮมถึงสองคะแนน ส่วนลีดส์อยู่อันดับ 10 มี 46 คะแนน ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
������� สนาม : เอลแลนด์ โร้ด
��� ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดมันเดย์ไนท์ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา ระหว่าง เจ้าบ้าน ลีดส์ ยูไนเต็ด อันดับ 10 เปิดรังรับการมาเยือนของแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล ที่รั้งอันดับ 6 โดยเกมแรกที่แอนฟิลด์นั้นเป็น "หงส์แดง" ที่เบียดเอาชนะ "ยูงทอง" ไปอย่างสนุก 4-3
��� มาร์เซโล่ บิเอลซ่า พาลีดส์ชนะรวดในลีกมา 3 นัดติดแล้ว ล่าสุดบุกไปเชือดจ่าฝูง แมนฯซิตี้ ถึงถิ่น 2-1 เกมนี้ไร้ ราฟินญ่า แข้งตัวเก่งที่บาดเจ็บ แนวรุกวาง แพทริค แบมฟอร์ด หน้าเป้าโดยมี เอลแดร์ คอสต้า และแจ็ค แฮร์ริสัน ปั้นเกมริมเส้น
��� ส่วนฝี่ง "หงส์แดง" ฟอร์มล่าสุดแม้เสมอกับ เรอัล มาดริด ในบ้าน 0-0 แต่รวมสองนัดร่วง 8 ทีมสุดท้ายแชมเปี้ยนส์ ลีก ส่วนผลงานในลีกล่าสุดเฉือนเอาชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 เกมนี้ เจอร์เก้นส์ คล็อปป์ ถอยฟาบินโญ่ เยือนคู่เซ็นเตอร์แบ็กกับ โอซาน คาบัค ส่วนแดนกลางมี ติอาโก้ ปั้นเกมร่วมกับ เจมส์ มิลเนอร์ และจอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ขณะที่สามแนวรุกดร็อป โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นสำรองให้ ดีโอโก้ โชต้า ล่าตาข่ายร่วมกับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และซาดิโอ มาเน่
��� ครึ่งแรกเปิดฉากมาได้ไม่ถึง 3 นาที "หงส์แดง" ได้ลุ้นก่อนเลยหลัง ฟาบินโญ่ วางบอลจากแดนหลังให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ หลุดเดี่ยวไปรับบอลก่อนจะกระดกยิงผ่านตัว เมส์ลิเย่ร์ แต่บอลไม่ตรงกรอบ
��� จากนั้น นาทีที่ 5 ดีโอโก้ โชต้า ไหลเข้ากลางให้ ติอาโก้ โยกหลอกแนวรับของลีดส์ ก่อนตะบันด้วยขวานอกกรอบบอลพุ่งจะมุดใต้คานอยู่แล้วแต่ อิลล็อง เมส์ลิเย่ร์ ยังปัดปลายมือออกหลัง
��� นาที 16 เป็นโอกาสของ "ยูงทอง" บ้าง คราวนี้ แพทริค แบมฟอร์ด ได้ลองซัดกลางกรอบแต่บอลไปโดน ติอาโก้ ขวางไว้
��� อีกนาทีต่อมา ติอาโก้ อัลกันตาร่า สวนกลับเร็ว จ่ายบอลยาวออกซ้ายให้ ฟีร์มีโน่ ลากตัดเข้ากลางก่อนปั่นด้วยขวานอกกรอบ ทว่าบอลพุ่งไปเข้าซองของ เมส์ลิเย่ร์
��� นาที 24 ความผิดพลาดของแนวรับหงส์เกือบเสียประตูให้เจ้าถิ่นหลัง ฟาบินโญ่ จ่ายบอลเข้ากลางไม่ดีโดน คัลวิน ฟิลลิปส์ ตัดบอลได้ก่อนแทงเร็วให้ แบมฟอร์ด หลุดเข้าไปยิงติด อลิสซอน ที่ออกมาขวาง บอลกระดอนมาชนขา ฟาบินโญ่ บอลเกือบเข้าประตูตัวเอง ถากเสาออกไปนิดเดียว
��� นาที 31 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ ดีโอโก้ โชต้า เปิดบอลยาวข้ามแนวรับให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หลุดกับดักล้ำถึงบอลก่อน เมส์ลิเย่ร์ ที่ออกมาตัดบอลไม่โดน ก่อนไหลเข้ากลางให้ ซาดิโอ มาเน่ ยิงเข้าไปง่ายๆ เป็นประตูที่ 8 ในลีกซีซั่นนี้ และประตูแรกนับแต่ยิงใส่ สเปอร์ส เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา
��� อีกสามนาทีถัดมา ติอาโก้ ตักบอลให้ เทรนท์ หลุดเข้าไปในกรอบอีกก่อนจะไหลคืนหลังให้ ดีโอโก้ โชต้า ซัดเต็มแรงแต่บอลเหินโด่งออกไป
��� หลังเสียประตู "ยูงทอง" โหมบุกใส่มากขึ้น นาที 42 ได้โอกาสส่องเข้ากรอบหลัง แจ็ค แฮร์ริสัน หักบอลมาให้ ไทเลอร์ โรเบิร์ตส์ วิ่งมาซัดนอกกรอบแต่บอลก็ยังไปตรงตัว อลิสซอน รับเข้ามือไว้ได้
��� จบครึ่งแรก ลีดส์ ยูไนเต็ด ตามหลัง ลิเวอร์พูล 0-1
���
��� บู๊กันต่อในครึ่งหลัง แค่นาที 48 หงส์แดง เกือบได้ลุ้นเม็ดที่สองนำห่าง หลัง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดเตะมุมมาให้ ดีโอโก้ โชต้า หนีตัวประกบเทกตัวโขกข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
��� นาที 59� แพทริก แบมฟอร์ด พยายามขึ้นโขกแต่ไม่โดนบอล ก่อนไปตกใส่แขน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทว่า วีเออาร์ หลังเช็กแล้วไม่จับเป็นแฮนด์บอล
��� นาที 69 ยูงทองกดดันใส่หงส์แดงอย่างหนัก คราวนี้ แจ็ค แฮร์ริสัน แหวกเข้าไปซัดเสาแรกแต่บอลยังไปติดเซฟของ อลิสซอน ช่วยให้ทีมเยือนไม่เสียประตู
��� นาที 75 เจ้าบ้านชวดได้ประตูตีเสมอหลัง ลุค อายลิ่ง วางยาวข้ามหัวแนวรรับทีมเยือนให้ แพทริค แบมฟอร์ด เกี่ยวบอลก่อนดีดด้วยซ้ายข้ามตัว อลิสซอน ไปแล้วแต่พุ่งไปชนคานอย่างน่าเสียดาย
��� นาที 79 ลิเวอร์พูล ตัดบอลได้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่เพิ่งลงมาได้บอลในกรอบแล้วโยกหนีแนวรับยูงทองก่อนยิงหลุดเสาออกไปแบบได้เสียว
��� กระทั้ง นาที 87 ความพยายามของ ยูงทอง มาสำเร็จจนได้ แจ็ค แฮร์ริสัน เปิดเตะมุมมาเข้าหัว ดีเอโก้ ยอเรนเต้ โขกบอลกดพื้นเข้าไปตุงตาข่ายให้ ลีดส์ ไล่ตีเสมอลิเวอร์พูล 1-1
��� จบเกม ลีดส์ ยูไนเต็ด เสมอกับ ลิเวอร์พูล 1-1 ทำให้หงส์แดงทำแต้มหล่นชวดโอกาสขึ้นท็อปโฟร์ หลังมีเพิ่มเป็น 53 คะแนน รั้งอันดับ 6 เหมือนเดิม โดยตามอันดับ 4 เวสต์แฮมถึงสองคะแนน ส่วนลีดส์อยู่อันดับ 10 มี 46 คะแนน
��� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
������� ลีดส์ ยูไนเต็ด (4-1-4-1) : อิลล็อง เมส์ลิเย่ร์ - ลุค อายลิ่ง, ดีเอโก้ ยอเรนเต้, ปาสกาล สเตร๊าจ์ค, เอ็กซิยาน อลิออสกี้ (มาเตอุส คลิช น.79) - คัลวิน ฟิลลิปส์ - เอลแดร์ คอสต้า (เอียน คาร์โล โปเวด้า น.67), สจ๊วร์ต ดัลลัส, ไทเลอร์ โรเบิร์ตส์ (พาโบล เอร์นานเดซ น.86), แจ็ค แฮร์ริสัน - แพทริค แบมฟอร์ด
������� ผู้จัดการทีม : มาร์เซโล่ บิเอลซ่า
������� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟาบินโญ่, โอซาน คาบัค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - ติอาโก้ อัลกันตาร่า, ฟาบินโญ่, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม - ดิโอโก้ โชต้า (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น.81), โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ (โมฮาเหม็ด ซาลาห์ น.71)
������� ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
������� ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์