����� วินิซิอุส จูเนียร์ส โชว์ฟอร์มเฉียบตะบันสองเม็ดพา เรอัล มาดริด เปิดรังไล่อัด ลิเวอร์พูล ไปก่อนในยกแรก 3-1 แม้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะยิงประตูทีมเยือน แต่เป็นงานหนักของ "หงส์แดง" ในนัดสองที่แอนฟิลด์ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ8ทีม นัดแรก เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
������ สนาม : เอสตาดิโอ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่
��� ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อคืนวันอังคารที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ที่สนาม อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ เจ้าบ้าน เรอัล มาดริด ผ่านอตาลันต้าด้วยสกอร์รวม 4-1 เข้ามาพบ ลิเวอร์พูล ที่ปราบ แอร์เบ ไลป์ซิก ด้วยประตูรวม 4-0 โดยคู่นี้เคยเจอกันครั้งล่าสุดเมื่อรอบชิงชนะเลิศรายการนี้เมื่อปี 2018 ซึ่งเป็น "ราชันชุดขาว" ที่ไล่อัด "หงส์แดง" 3-1
��� ซีเนดีน ซีดาน นายใหญ่ของแชมป์ยุโรป 13 สมัย ต้องเจอข่าวร้ายก่อนเกมเมื่อ ราฟาแอล วาราน มาติดเชื้อโควิด-19 ทำให้เกมนี้ต้องปรับมาใช้ เอแดร์ มิลิเตา ยืนเซ็นเตอร์คู่กับ นาโช่ เฟร์นานเดซ ส่วนสามแนวรุกเป็น มาร์โค อาเซนซิโอ, คาริม เบนเซม่า และวินิซิอุส จูเนียร์
��� ส่วนทาง เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของ "หงส์แดง" ปรับทัพดร็อปทั้ง ติอาโก้ อัลกานตาร่า และโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เป็นสำรองแล้วส่ง นาบี เกอิต้า คุมกลางส่วนแนวรุกวาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า และซาดิโอ มาเน่
��� เปิดฉากมาแค่ 2 นาทีแรก เจ้าถิ่นชุดขาวได้โอกาสทักทายก่อนเลยหลัง กาเซมิโร่ โขกต่อให้ คาริม เบนเซม่า อัดด้วยซ้ายนอกกรอบแต่บอลยังพุ่งไปเข้ามือ อลิสซอน รับไว้ได้
��� นาที 13 แฟร์กล็องด์ เมนดี้ ล็อคบอลผ่าน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก่อนครอสเสาแรกไปให้ วินิซิอุส จูเนียร์ โขกเล่นทางหลุดเสาไกลออกไป
��� นาที 25 คาริม เบนเซม่า หลุดเข้าไปในกรอบก่อนจะซัดด้วยซ้ายไปติดบล็อค โอซาน คาบัค ที่ตามมาบล็อคไว้ได้ทัน
��� กระนั้นนาที 27 เรอัล มาดริด หลังโหมบุกอย่างหนักมาได้ประตูขึ้นนำหงส์แดง 1-0 จนได้ จากความยอดเยี่ยมของ โทนี่ โครส ที่วางบอลจากแดนหลังข้ามหัว นาธาเนียล ฟิลลิปส์ แนวรับหงส์ให้ วินิซิอุส จูเนียร์ วิ่งเข้าไปพักอกลงก่อนซัดด้วยขวาผ่าน อลิสซอน เสียบมุมเข้าไป
��� กลายเป็นลิเวอร์พูลทำเสียบอลกันง่าย และนาที 32 เกือบโดนลงโทษอีกหลัง คาริม เบนเซม่า หลุดมาทางขวาก่อนหักเข้ากลางให้ วินิซิอุส ซัดไปแฉลบ แนท ฟิลลิปส์ ออกหลัง
��� นาที 36 แนวรับหงส์แดงมาพลาดอีก และคราวนี้เสียเม็ดที่สองให้ "ราชันชุดขาว" นำห่าง 2-0 จากจังหวะที่ โทนี่ โครส ตักบอลจากแดนตัวเองจะให้ เมนดี้ แต่โดน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ พยายามโหม่งบอลคืนหลัง ทว่าน้ำหนักบอลเบาไปกลายเป็นโดน มาร์โก อาเซนซิโอ� ฉกบอลเข้ากระดกข้ามหัว อลิสซอน เบ็คเกอร์ ที่ปัดไม่พ้นก่อนที่ อาเซนซิโอ จะตามไปซ้ำด้วยซ้ายเข้าไปไม่เหลือ
��� หงส์แดงโดนเจาะอยู่ฝ่ายเดียวชนิดยังไม่มีโอกาสยิงเลยสักครั้ง และนาที 42 คล็อปป์ ต้องแก้เกมด้วยการถอด นาบี เกอิต้า ออกแล้วส่ง ติอาโก้ อัลกานตาร่า ลงเล่นแทน
��� นาที 43 เจ้าบ้านเกือบได้ลุ้นเม็ดที่สามหลัง มาร์โค อาเซนซิโอ หลุดขึ้นมาทางขวาก่อนซัดไปติดเซฟของ อลิสซอน เบ็คเกอร์
��� จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด ขึ้นนำ ลิเวอร์พูล 2-0
��� ครึ่งหลัง นาที 51 ลิเวอร์พูล มาตีไข่แตกไล่เจ้าถิ่นมาเป็น 1-2 ได้สำเร็จ จากจังหวะที่ มาเน่ ลากจากครึ่งสนามเข้ามาให้ โชต้า ล็อคเข้าขวาซัดไปติดบล็อค โมดริด แต่บอลมาเข้าทาง ซาลาห์ ซัดด้วยซ้ายเข้าไป วีเออาร์ เช็กไม่เป็นจังหวะล้ำหน้าของ ซาลาห์ ยืนยันให้ประตู
��� นาที 65 เรอัล มาดริด มาได้เม็ดที่สามนำห่าง จากจังหวะที่ ลูกัส บาซเกซ ทุ่มให้ เบนเซม่า ไหลย้อนหลังให้ โมดริด พาบอลเข้าไปในกรอบแล้วจ่ายต่อให้ วินิซิอุส กดด้วยขวาลอดขา แนท ฟิลลิปส์ ผ่านมืออลิสซอนเข้าไปให้ "ราชันชุดขาว" นำห่าง 3-1
��� เกมรุกของชุดขาวยังน่ากลัว นาที 71 เกือบได้ลุ้นเม็ดที่สี่ วินิซิอุส จูเนียร์ส ไหลออกขวาให้ คาริม เบนเซม่า อัดด้วยขวาเสาแรกไปเข้ามืออลิสซอน
���
��� จบเกม เรอัล มาดริด เปิดบ้านเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปก่อนในเกมแรก 3-1 นัดที่สองจะกลับไปเล่นที่ แอนฟิลด์ วันพุธที่ 14 เมษายน นี้
������ รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
������� เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - ลูกัส บาซเกซ, เอแดร์ มิลิเตา, นาโช่ เฟร์นานเดซ, แฟร์กล็องด์ เมนดี้ - ลูก้า โมดริช, กาเซมิโร่, โทนี่ โครส - มาร์โค อาเซนซิโอ (เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ น.70), คาริม เบนเซม่า, วินิซิอุส จูเนียร์ (โรดรีโก้ น.85)
���
������� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, นาธาเนียล ฟิลลิปส์, โอซาน คาบัค (โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ น.81), แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - นาบี เกอิต้า (ติอาโก้ อัลกานตาร่า น.42), ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า (เซอร์ดาน ชากิรี่ น.81), ซาดิโอ มาเน่
������� ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ ไบรช์ (เยอรมัน)