รอย ฮอดจ์สัน สามารถเซ็นสัญญากับ ราอูล เมยเรเลส กองกลางตัวเก่งของ เอฟซี ปอร์โต้ ในเดือนสิงหาคม ปี 2010 ตัดหน้าทีมคู่ปรับตลอดกาลอย่าง แมนฯ

ยูไนเต็ด ได้สำเร็จ หลังจากเจ้าตัวโชว์ฟอร์มให้ทัมชาติโปรตุเกสได้อย่างยอดเยี่ยม ในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่แอฟริกาใต้

เมยเรเลส นั้นมีฝีเท้าที่น่าจับตามองตั้งแต่สมัยยังเป็นนักเตะดาวรุ่ง โดยอยู่ใน ทีมชาติโปรตุเกส ยู 16 ที่คว้าแชมป์ยุโรปในปี 2000 ด้วย และหลังทัวนาเม้นท์นี้

เองทำให้เจ้าตัวได้รับสัญญาอาชีพครั้งแรกกับ อเวส ก่อนจะได้ย้ายมาอยู่กับ เบาวิสต้า ซึ่ง เมยเรเลส เคยอยู่ในทีมเยาวชนมาก่อน ในอีก 2 ปีต่อมา

เพียงแค่ปีเดียวในถิ่น เอสตาดิโอ โด เบสซ่า ทาง เอฟซี ปอร์โต้ ยักษ์ใหญ่ ของ แดนฝอยทองก็จัดแจงคว้าตัว เมยเรเลส มาร่วมทีมต่อทันที

ในช่วงแรกกับทีมบ้านเกิดนั้น เมยเรเลส ไม่ค่อยมีโอกาสลงสนามมากนัก แถมเจ้าตัวยังต้องไปเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายด้วย

อย่างไรก็ตามในปี 2005-06 เมยเรเลส ก็มีโอกาสได้เล่นในตำแหน่งกองกลาง ที่ตัวเองถนัดอีกครั้ง และการจับคู่กับ ลูโช่ กอนซาเลซ ในแดนกลาง ทำให้เอฟซี

ปอร์โต้ แข็งแกร่งจนไม่มีทีมไหนทาบได้ในช่วงเวลานั้น เขามีส่วนสำคัญที่พา เอฟซี ปอร์โต้ คว้าทริปเปิ้ล แชมป์ ในปีนั้น และก็ถูกเรียกตัวติดทีมชาติ โปรตุเกสชุดใหญ่ในเวลาต่อมา

เมยเรเลส เริ่มมีฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก เขาก็สามารถทำประตูเชลซีได้ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฤดูกาล 2006-07

เขายังได้ลงสนามพบกับลิเวอร์พูลในเกมทั้งเหย้าและเยือน ในรอบแบ่งกลุ่มที่ เอฟซี ปอร์โต้ อยู่ร่วมสายกับทีมหงส์แดงด้วย

ผลงานในระดับชาติ เมยเรเลส มีชื่อติดอยู่ในทีมชาติโปรตุเกสชุดลุยยูโรป 2008 และ เจ้าตัวก็สามารถทำประตูแรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ได้สำเร็จ ในเกมที่พบกับ ทีมชาติตุรกี

เมยเรเลส ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมต่อเนื่องกับสโมสร ในศึกฟุตบอลโลกที่ แอฟริกาใต้ เขาก็ได้รับความไว้วางใจจาก คาร์ลอส คีรอช ให้เป็นกองกลางตัวจริง ของทีมชาติโปรตุเกส ตลอดทั้ง 4 เกม แถมยังทำได้ 1 ประตูในเกมที่ทีมชาติ โปรตุเกสถล่มทีมชาติเกาหลีเหนือ 7-0 ด้วย

สำหรับเมยเรเลส แล้วทักษะที่โดดเด่นของเขาก็คือ การจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยม ไม่แพ้ ซาบี้ อลอนโซ่ และทีเด็ดอีกอย่างของเจ้าตัวก็คือ ลูกยิงไกลที่ช่วยทำประตู ให้กับ เอฟซี ปอร์โต้ และ ทีมชาติโปรตุเกสมานักต่อนักแล้ว