����� "แดงเดือด" หนที่สองของฤดูกาลจบลงที่ "หงส์แดง" เป็นฝ่ายเก็บสามแต้มตามคาดหลังเบียดเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-0 เฟอร์กิล ฟาน ไดค์และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดคนละเม็ด ส่งให้ ลิเวอร์พูล นำโด่งเป็นจ่าฝูงด้วยสถิติที่ยังไม่แพ้ใคร ทิ้งอันดับสองอย่าง แมนฯซิตี้ ถึง 16 คะแนน แถมมีเกมในมืออีกหนึ่งนัด ศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
������� สนาม : แอนฟิลด์
��� "แดงเดือด" หนที่สองของซีซั่น "จ่าฝูง" ลิเวอร์พูล ที่ยังไร้พ่ายเปิดบ้านรับมือคู่ปรับตัวฉกาจ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยนัดแรกที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เสมอกันไป 1-1
��� เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไร้ปัญหาในการจัดทัพ ส่งสามแนวรุกตัวเก่งทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ขณะที่ ฟาบินโญ่ และโจแอล มาติป หายเจ็บกลับมามีชื่อเป็นสำรอง
��� ส่วน โอเล่ กุนาร์ โซลชา มีปัญหาแข้งเจ็บมากมาย ทำให้เกมนี้ใช้ระบบกองหลังสามตัว โดยแนวรุกวาง� อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล เป็นหน้าเป้าและให้ ดาเนี่ยล เจมส์ และอันเดรส เปไรร่า อยู่ข้างหลังเป็นหน้าต่ำ
��� ออกสตาร์ทเกมครึ่งแรกมาทั้งคู่เปิดหน้าเข้าใส่อย่างสนุก นาทีที่ 8 เนมานย่า มาติช รับใบเหลืองคนแรกของเกม หลังไปยกเท้าสูงใส่หน้า ไวจ์นัลดุม
��� นาที 14 แฟน "เดอะ ค็อป" ได้เฮก่อน หลังลิเวอร์พูลได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะลูกเตะมุมทางด้านขวา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดเข้ามาให้ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ หนีตัวประกบก่อนเทกตัวสูงกว่า แม็กไกวร์ โขกบอลเข้าไปตุงตาข่าย ชนิดที่ เด เคอา ได้แต่มอง
��� ทัพหงส์แดงยังคุมเกมได้เหนือกว่า นาที 24 ฟีร์มีโน่ ปาดเลียดเข้ากลางไปแฉลบขาเฟร็ดก่อนบอลมาถึง มาเน่ ก่อนจังหวะยิงจะโดน ลุค ชอว์ ตามมาสกัดออกหลังเป็นเตะมุม
��� และจากจังหวะต่อเนื่องจากลูกคอนเนอร์ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วอลเลย์ด้วยซ้ายไม่ดีบอลลอยโด่ง เด เคอา พยายามรับบอล แต่โดน ฟาน ไดค์ เทกตัวขึ้นมาเบียด ผู้เล่นผีแดงพยายามฟ้องเป็นฟาวล์แต่ผู้ตัดสินไม่เป่า ก่อน โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ จะเก็บบอลได้แล้วปั่นเสียบเสาสอง ทำให้แข้งทีมเยือนยิ่งไม่พอใจวิ่งเข้าไปต่อว่า เคร็ก พอว์สัน ก่อนที่จะเช็ก VAR แล้วกลับคำตัดสินไม่ให้ประตูเจ้าถิ่นเนื่องจาก ฟาน ไดค์ ไปกระแทกเด เคอา ก่อนกระนั้นนายด่านชาวกระทิงดุก็โดนใบเหลืองฟรีหลังไปแสดงความไม่พอใจต่อคำตัดสินของกรรมการ
��� นาที 35 "หงส์แดง" ชวดได้ประตูที่สองอีกหน หลัง แชมเบอร์เลน แทงบอลจ่ายให้ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม หลุดเข้าไปแปบอลเสียบเสาไกลเข้าไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะของไวจ์นัลดุมก่อน
��� โอกาสยิงหนแรกของ "ปีศาจแดง" ต้องรอถึงนาทที่ 40 เฟร็ด จ่ายต่อให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล พยายามปั่นด้วยขวาหนี เทรนท์ แต่บอลหลุดเสาแรกไปแบบไม่ได้ลุ้น
��� อีกนาทีถัดมา กองเชียร์เจ้าถิ่นเกือบเงียบกริบ หลัง มาร์กซิยาล ตักบอลมาทางขวาให้ แอรอน วาน-บิสซาก้า เหยียดเท้าถีบบอลไปเสาไกล ทว่า อันเดรส เปไรร่า ที่ตามมาสไลด์โล่งๆกลับถึงบอลช้าไป บอลเลยเสาไปอย่างน่าเสียดาย
��� นาที 44 เกมรุกของแมนยูมาอีก คราวนี้ อันเดรส เปไรร่า แก้ตัวด้วยการกดด้วยขวานอกกรอบแต่บอลยังไปตรงตัวเข้าซอง อลิสซอน รับไว้ได้
��� นาทีสุดท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่นโต้บอลกลับมาเร็ว ซาลาห์ จ่ายบอลทะลุให้ ซาดิโอ มาเน่ หลุดเข้าไปอัดด้วยซ้ายเต็มแรง แต่บอลยังไปติดขา ดาบิด เด เคอา เซฟออกหลังไปอย่างเหลือเชื่อ
��� จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0
��� กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งหลัง แค่นาที 47 "หงส์แดง" เกือบได้เม็ดที่สองนำห่าง หลังบอลสวนกลับเร็ว มาเน่ ไหลออกซ้ายให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ปาดเข้ากลางถึง โม ซาลาห์ ยิงด้วยซ้ายแต่ดันไปติดขาขวาตัวเองหลุดกรอบออกไป
��� อีกสองนาทีต่อมา จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ตั้งป้อมยิงด้วยซ้ายกว่า 20 หลาบอลพุ่งจะเสียบมุมอยู่แล้วแต่ ดาบิด เค เคอา ยังบินปัดปลายนิ้วก่อนบอลกระทบเสารอดพ้นเสียประตูหวุดหวิด
��� ผีแดงโงหัวไม่ขึ้นเลย เจอเจ้าบ้านกดอย่างหนัก นาที 52 ฟีร์มีโน่ ไหลให้ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน อัดด้วยขวานอกกรอบเต็มแรงแต่ยังไปเข้ามือ เค เคอา
��� นาที 57 เทรนท์ ทุ่มบอลพลาดโดน เฟร็ด ตัดบอลได้กลางสนามก่อนห้องเครื่องบราซิเลี่ยนจะกระชากบอลเข้าไปซัดด้วยซ้ายหลุดเสาแรกอย่างน่าเสียดาย
��� อีกสองนาทีถัดมา ทีมเยือนพลาดโอกาสได้ลูกตีเสมออย่างจังอีกหน หลัง มาร์กซิยาล ทำชิ่งหนึ่งสองกับ เปเรยร่า ก่อนที่ มาร์กซิยาล จะพักอกหลุดเข้าไปดวลกับ อลิสซอน แต่กลับอัดด้วยขวาเหินคานไปอย่างน่าเสียดาย
��� นาที 67 มาร์กซิยาล พาบอลบุกขึ้นมาอีกที ก่อนตะบันด้วยซ้ายนอกกรอบแต่บอลยังพุ่งไปเข้ามือ อลิสซอน ที่รับไว้ไม่มีปัญหา
��� นาที 75 โอเล่ กุนาร์ โซลชา แก้เกมก่อนเลยเปลี่ยนรวดเดียวสองราย ถอดเอา อันเดรส เปไรร่า และไอ้หนู แบรนด้อน วิลเลี่ยมส์ ออกแล้วส่ง ฆวน มาต้า และเมสัน กรีนวู้ด ลงไปเล่นแทน
��� ช่วงทดเวลาเจ็บ นาที 90+3 อลิสซอน เปิดบอลสวนกลับเร็ว ให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดจากครึ่งสนามควบบอลเข้าไปซัดบอลผ่านมือ� ดาบิด เด เคอา เข้าไป จบเกม ลิเวอร์พูล ปราบแมนฯยูไนเต็ด 2-0 นำโด่งเป็นจ่าฝูงด้วยสถิติไร้พ่ายต่อไป โดยมีเพิ่มเป็น 64 แต้ม นำหน้ารองจ่าฝูง แมนฯ ซิตี้ ถึง 16 แต้ม และแข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด�
��� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
��� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (อดัม ลัลลาน่า น.66), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (ดิว็อค โอริกี้� น.83), ซาดิโอ มาเน่ (ฟาบินโญ่ น.83)
��� ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
��� แมนฯยูไนเต็ด (3-4-2-1) : ดาบิด เด เคอา - วิคตอร์ ลินเดเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกว์, ลุค ชอว์ ( ดีโอโก้ ดาโลต์ น.87) - แอรอน วาน-บิสซาก้า, เฟร็ด, เนมานย่า มาติช, แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ (เมสัน กรีนวู้ด น.75) - แดเนียล เจมส์, อันเดรียส เปเรยร่า (ฆวน มาต้า น.75) - อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล
��� ผู้จัดการทีม : โอเล่ กุนาร์ โซลชา
��� ผู้ตัดสิน : เคร็ก พอว์สัน